ตอนที่ 54 จัดสรรเวลา
หลี่โหย่วไฉ “นายอยากขนตอนไหนก็ได้ อย่าลืมว่าพรุ่งนี้ให้มาเช้า ๆ หน่อย”
จ้าวจี๋เชิ่ง “พรุ่งนี้ยังแบ่งแต้มทำงานตามปริมาณแรงงานอยู่ไหม?”
หลี่โหย่วไฉ “ใช่ จากนี้ไปก็แบ่งตามนี้”
จ้าวจี๋เชิ่งฟังจบก็ดีใจขึ้นมา ที่บ้านเขายังมีแม่ชราที่ต้องเลี้ยงดู ทุกครั้งที่ออกมาและกลับไป ทั้งตัวของยายเฒ่าก็จะเต็มไปด้วยอุจจาระ
ตอนนี้ดีแล้ว หากแบ่งแต้มทำงานแบบนี้แค่เขาคนเดียวก็ทำเสร็จตั้งแต่เช้าแล้ว เวลาที่เหลือยังกลับไปดูแลที่บ้านได้ มีตรงไม่น่าดีใจกัน
สีหน้าตื่นเต้นดีใจของเขาล้วนอยู่ในสายตาของหลี่โหย่วไฉ ตอนที่หันไปมองสวี่ม่ายซุ่ยก็ดูอ่อนโยนขึ้นมาก “นักบัญชีสวี่เสร็จหรือยัง จดเสร็จแล้วก็ไปบ้านต่อไปได้”
สวี่ม่ายซุ่ยจดแต้มทำงานพลางพูด “พอประมาณแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!” พูดจบก็เดินไปโดยไม่รู้ตัว
ผู้หญิงที่อยู่ไม่ไกลเห็นสองคนที่เดินตามกันก็รีบลากภรรยาของหลี่โหย่วไฉมา หล่อนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดพลางพูด “ซุนฟาง เธอมองทางนั้นสิ”
ภรรยาของหลี่โหย่วไฉมองตามสายตาของหล่อนไป ก็เห็นหลี่โหย่วไฉกำลังคุยกับสวี่ม่ายซุ่ยอย่างออกรส จึงถามด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้น”
“เธอมองไม่ออกหรือไง!”
ภรรยาหลี่โหย่วไฉ “มองอะไรออก”
“สามีเธอกับนักบัญชีสวี่ที่มาใหม่ไง!”
“เธอไม่คิดว่าเขาสองคนเดินใกล้กันไปเหรอ?”
พอพ่นประโยคนี้ ภรรยาหลี่โหย่วไฉก็หัวเราะขึ้นมา “พี่สะใภ้ เขาสองคนคือหัวหน้าหน่วยย่อยกับนักบัญชีของหน่วย เดินใกล้กันแล้วมีอะไร”
ผู้หญิงคนนั้นมองท่าทางไม่แยแสของหล่อนก็พูดอย่างผิดหวัง “เธอนี่ใจกว้างจริง ๆ สองคนนั้น ผู้ชายคนผู้หญิงคน เธอไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรอ ยิ่งกว่านั้นเธอดูรูปร่างนักบัญชีสวี่สิ ผู้ชายคนไหนมองตาเป็นมันเลย”
หลังฟังจนเข้าใจแล้ว ภรรยาหลี่โหย่วไฉพลันมีสีหน้าเยือกเย็น “ผู้ชายบ้านพี่มองตาเป็นมัน ผู้ชายบ้านฉันมองแล้วอาจจะไม่เป็นมันก็ได้”
ผู้หญิงคนนั้นเห็นซุนฟางร้อนรนก็รีบพูด “เธอนี่ ทำไมถึงแยกไม่ออกกันนะ นี่ฉันกลัวเธอโดนเอาเปรียบอยู่นะ”
ภรรยาหลี่โหย่วไฉ “พี่สะใภ้ ฉันเรียกพี่เพราะเคารพพี่ จากนี้ไปถ้าพี่พูดมั่วซั่ว แต่งเรื่องกล่าวหาโหย่วไฉบ้านฉัน พี่อย่ามาโทษว่าฉันไปด่าพี่ถึงบ้านนะ”
ผู้หญิงคนนั้นเห็นซุนฟางหัวแข็งขนาดนี้ก็หน้าเปลี่ยนสี “เฮอะ! เธอเป็นแบบนี้ ไม่ช้าก็เร็วโหย่วไฉบ้านเธอจะเปลี่ยนใจ”
ภรรยาหลี่โหย่วไฉ “ไสหัวไป ถ้าเธอกล้าพูดมั่วซั่วอีกดูซิว่าฉันจะฉีกปากเธอไหม”
ผู้หญิงคนนั้นกลัวภรรยาหลี่โหย่วไฉ หลังโดนด่าก็ไม่ได้อยู่ต่อ เดินด่าทอจากไป
ซุนฟางมองไปไกลอีกครั้ง เห็นสวี่ม่ายซุ่ยยืนอยู่กับหลี่โหย่วไฉก็กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว สีหน้าก็ไม่ได้มั่นใจเหมือนเมื่อครู่
แต่ทั้งหมดนี้หลี่โหย่วไฉกับสวี่ม่ายซุ่ยไม่ได้รู้ด้วย ทั้งสองคนยังคงวุ่นวายทำงานหนัก
สวี่ม่ายซุ่ยเสนอวิธีนี้ นอกจากกำจัดเรื่องแอบอู้ออกไป ยังทำให้ทุกคนมีเวลาว่างไม่น้อย
นอกจากวัยรุ่นในหมู่บ้านสองสามคนแล้ว คนที่สนับสนุนเธอคนที่สองก็คือวัยรุ่นที่มาจากชนบท เมื่อก่อนพวกเขาเสียเวลาไปกับการทำงาน ทำไปขนาดนี้ พวกเขาจะได้จัดสรรเวลาตอนบ่ายได้อย่างอิสระ
“นักบัญชีสวี่ หัวหน้าหลี่ พวกคุณมาแล้ว คุณว่าพวกเราทำเป็นยังไงบ้าง?” พอเห็นพวกสวี่ม่ายซุ่ย ข่งอวิ๋นโป๋ก็รีบมาต้อนรับ ถามอย่างมีไมตรีจิต
วัยรุ่นบนเกาะมีไม่มาก ประมาณไม่กี่สิบคน สองไร่แบ่งให้พวกเขาได้เจ็ดแปดที่ เอาอย่างบ้านหลี่หมินเชิง ทุกคนเอาที่ดินมาผืนหนึ่งร่วมกันทำงาน
หลี่โหย่วไฉเดินไปสองสามก้าวหยิบใบถั่วลิสงบนพื้นขึ้นมาดู แล้วลากลงไปบนดินอีกครั้ง “ไม่เลว”
“นักบัญชีสวี่จดแต้มทำงานพวกเขาตามที่พวกเขาต้องการเถอะ!”
หัวหน้าที่หน้าตาดีมีความรู้แล้วยังเป็นคนมีมารยาทเช่นนี้ทำให้ทุกคนรักใคร่อยู่ไม่น้อย สวี่ม่ายซุ่ยเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ฟังคำพูดหลี่โหย่วไฉจบก็ตอบด้วยน้ำเสียงสดใสทันที “ค่ะ”
หลี่โหย่วไฉ “แต้มทำงานนี้แม้จะจดเสร็จแล้ว แต่พวกนายต้องขนถั่วลิสงกลับไปด้วยนะ”
ข่งอวิ๋นโป๋ “ไหนบอกว่าเราไม่ต้องขนไม่ใช่เหรอ?”
หลี่โหย่วไฉ “เมื่อครู่เราไม่ได้ปรึกษากันให้ดี พวกเราเลยปรึกษากันอีกรอบ รู้สึกว่าพวกเธอขนกันเองดีกว่า ไม่งั้นแต้มทำงานพวกเราจะว่างเปล่าเกินไป”
“อีกอย่างดูจากการเดินทางแล้วก็ขนกลับไปได้ในเที่ยวหนึ่ง แค่พยายามให้มากหน่อยตอนขนกลับมา”
ข่งอวิ๋นโป๋ฟังจบก็หันไปสบตากับเฝิงเหวยหราน พยักหน้าตอบรับ “งั้นก็ได้!”
“ว่าแต่ส่งเสร็จแล้วพวกเราเลิกงานได้เลย?”
หลี่โหย่วไฉ “แน่นอน นายเห็นไหมว่าพวกเขาส่งเสร็จก็ไม่ได้กลับมา”
ข่งอวิ๋นโป๋ “ตกลง”
เพราะแบ่งแต้มทำงานแล้ว ทุกคนคิดว่าทำหมดเร็วก็หมดเรื่อง ดังนั้นไม่ถึงสี่โมงพวกเขาก็พากันหนีหายไป เหลือแค่ไม่กี่คนที่ยังทำงานส่วนท้ายไม่เสร็จ
หลี่โหย่วไฉพูดกับสวี่ม่ายซุ่ย “เธอกลับไปก่อนเถอะ ตรงนี้ฉันดูเอง”
สวี่ม่ายซุ่ยมีสีหน้าลังเล “มันจะดีเหรอคะ”
หลี่โหย่วไฉ “ไม่เป็นไร อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว อีกอย่างบ้านเธอมีเด็กไม่ใช่เหรอ”
สวี่ม่ายซุ่ยออกมานานขนาดนี้ก็ไม่วางใจอยู่บ้าง ฟังจบเลยไม่ได้เอะอะโวยวาย ตอบกลับไปตรง ๆ “งั้นก็ได้ ฉันกลับก่อนนะคะ รบกวนคุณด้วย” พูดจบก็เดินออกไปอย่างเร่งรีบ
รอเธอไปถึงบ้าน หลินเซียวกับหลินฟานที่กำลังเล่นกันอยู่ในลานเห็นเธอกลับมาก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “แม่ แม่กลับมาได้ไง”
สวี่ม่ายซุ่ยถอดหมวกพลางพูด “เสร็จงานแล้วก็กลับมาไง”
“ลูกสองคนอยู่บ้านวันนี้เป็นไงบ้าง”
“ผมหลับสบายดีมาก แต่เขาเอาแต่ร้องหาแม่” หลินฟานชี้ไปที่หลินเซียวพลางพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ
สวี่ม่ายซุ่ยหันไปทางหลินฟานถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เกิดอะไรขึ้น คิดถึงแม่ซะแล้ว?”
หลินฟานผงกหัวอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็วิ่งไปทางสวี่ม่ายซุ่ย กอดขาใหญ่ ๆ ของเธอพลางถูไถไปด้วย
สวี่ม่ายซุ่ย “ไอ้หยา ตัวแม่สกปรก รอแม่จัดการตัวเองค่อยกอดลูกดีไหม”
หลินฟานฟังจบก็เงยมองสวี่ม่ายซุ่ย ฟังแล้วก็ปล่อยมือ
สวี่ม่ายซุ่ยหอมเขาไปหนึ่งที เอ่ยชมว่า “เด็กดีจริง ๆ” พูดจบก็ไปล้างมือ
เธอล้างมือยังไม่ทันเกลี้ยงก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกด้านนอก “สวี่ม่ายซุ่ย! สวี่ม่ายซุ่ย! มีจดหมายถึงเธอ”
สวี่ม่ายซุ่ยตะลึงไปชั่วขณะ แต่ไหนแต่ไรก็คิดไม่ถึงว่าจะมีคนส่งจดหมายมาหาเธอ ตอนที่สวี่ม่ายซุ่ยสงสัยอยู่ หลินเซียวก็วิ่งออกไปด้านนอกแล้ว ไม่นานก็ถือจดหมายฉบับหนึ่งเข้ามา
“แม่ แม่ จดหมายของแม่”
สวี่ม่ายซุ่ยสะบัดน้ำที่มือ ใช้ปลายนิ้วคีบรับจดหมาย พอเห็นที่อยู่กับชื่อหน้าซอง ก็พลันมีสีหน้าหนักอึ้ง
“แม่ ใครเขียนถึงแม่” หลินเซียวยืนอยู่ด้านข้าง เขย่งปลายเท้าถามอย่างใคร่รู้
สวี่ม่ายซุ่ย “ย่าลูกส่งมา”
หลินเซียว “ทำไมย่าส่งจดหมายให้แม่ล่ะ”
“ใครจะไปรู้ละ ต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่” พูดจบก็แกะจดหมายออกมาดู ยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งเหยียดหยาม
“ย่าผมว่าไงบ้าง”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ผู้หญิงช่างเสี้ยมนี่ ช่างไม่รู้อะไรเลยว่าเขาคุยอะไรกันอยู่
ยัยเฒ่าแซ่หลินส่งจดหมายมาหาเรื่องอะไรอีกนี่
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION