ตอนที่ 39 หาของทะเล
หลินเซียวตอบด้วยสีหน้าเร่งรีบ “พวกเราสองคนกินขนมไปก่อนออกจากบ้านแล้ว ตอนนี้ยังไม่หิวครับ”
สวี่ม่ายซุ่ย “ก็ได้ งั้นพวกเรารีบไปเถอะ ลูกเอาถังมาให้แม่ แม่ถือเอง”
หลินเซียวไม่ได้อวดเก่ง รีบส่งถังไปให้ พอในมือไม่มีของอะไรแล้ว ก็ลากหลินฟานวิ่งตะบึงไปยังทะเล
สวี่ม่ายซุ่ยมองแล้วก็รีบไล่ตามไป ช่วงน้ำลงตอนนี้เป็นเวลาที่มีของทะเลเยอะพอดี ไปช้านิดเดียวก็อาจโดนคนอื่นแย่งเก็บไปได้
เวลานี้ก็จะสังเกตได้ว่าเขตบ้านของพวกเธอทางนี้กับหมู่บ้านข้างล่างเต็มไปด้วยคนถือถังวิ่งไปที่ทะเล ยุคสมัยนี้จะซื้อของทั้งที ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะซื้อได้ เหมือนของขวัญล้ำค่าที่มาจากท้องทะเลแบบนี้ ไม่มีใครไม่ดีใจที่ได้รับหรอก
ตอนที่สวี่ม่ายซุ่ยกับเด็กสองคนใกล้วิ่งไปถึงคนยังไม่เยอะ พอสามแม่ลูกเข้าไปก็เริ่มยุ่งขึ้นมา
“แม่ ตรงนี้มีสาหร่าย เอาไม่เอา” หลินเซียววิ่งไปด้านหน้า เดินไปตรงสิ่งของสีเขียวขจีที่ลอยอยู่ด้านหน้า ยกขึ้นมาถามเสียงดัง
สวี่ม่ายซุ่ยหยีตามองตอบกลับ “เอา ลูกเก็บไปไว้ในถังก่อน เราไม่เก็บกันที่นี่ ไปตรงที่มีโขดหินตรงนั้น”
โขดหินตรงนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อ ปกติของที่ทำเงินได้จะอยู่ตรงนั้น หลินเซียวซึ่งเติบโตมากับชายหาดมาตั้งแต่เด็กรู้สถานการณ์นี้ดีก็ผงกหัวตอบรับ “ได้”
พูดจบสามแม่ลูกก็เดินไปตรงโขดหิน เพราะหลินฟานยังเด็ก สวี่ม่ายซุ่ยจึงไม่กล้าพาเขาไปตรงที่ชัน ๆ เลยปล่อยเขาไว้ตรงโขดหินเล็ก ๆ ส่วนตัวเองกับหลินเซียวเดินไปตรงที่ชัน ๆหน่อย
ผ่านไปไม่นานนักก็เจอปูอยู่ไม่น้อย นันย์ตาทั้งสองของสวี่ม่ายซุ่ยส่องประกาย รีบเก็บใส่ถังอย่างสุดกำลัง ทำไปทำมาก็จู้จี้จุกจิก “หลินเซียว ตัวเล็ก ๆ ไม่เอา เอาตัวใหญ่ ๆ”
หลินเซียว “ครับ”
“แม่! แม่! แม่มานี่เร็ว! ตรงนี้มีหอยเป๋าฮื้อแล้วก็มีปลิงทะเลด้วย” หลินเซียวนอนโก้งโค้งตรงด้านล่างโขดหินใหญ่ เขานอนก้นกระดกพลางตะโกนเสียงดัง
สวี่ม่ายซุ่ยได้ยินก็ตื่นเต้นขึ้นมา “แม่กำลังไป”
เธอเดินโซซัดโซเซไป นอนคว่ำลงมองก็เห็นด้านล่างโขดหินเต็มไปด้วยหอยเป๋าฮื้อในกองโคลน เธอกลืนน้ำลาย พูดอย่างไม่อยากเชื่อ “หลินเซียว พวกเรารวยแล้ว”
หลินเซียวแงะหอยตัวใหญ่มาได้สองตัวก็ดีใจจนตาแทบจะหยี “แม่ แม่ดู”
สวี่ม่ายซุ่ย “ดี ๆ รีบเอาไปไว้ในถัง”
รอหลินเซียวเอาหอยเป๋าฮื้อไปใส่ไว้ในถัง เห็นปู กุ้ง สาหร่าย ปลาดาบ หอยตาวัวน้ำลึกอยู่ด้านในก็ขมวดคิ้วทันที “แม่ ถังเต็มแล้ว ใส่ไม่ได้แล้ว”
สวี่ม่ายซุ่ยหันไปมองก็พบว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ที่เด็กสองคนถือมาคือถังเล็ก แล้วเธอก็มัวแต่จะวิ่งไปข้างหน้า เลยไม่ทันได้เปลี่ยนถัง
สวี่ม่ายซุ่ยตัดสินใจทันที “แม่จะกลับไปเปลี่ยนถัง พวกลูกรอที่นี่นะ” พูดจบก็รีบหิ้วถุงเดินออกไปอย่างเร่งรีบ
ตอนออกมาก็เจอหลินฟานพอดี พอเขาเห็นสวี่ม่ายซุ่ยเดินมาก็รีบวิ่งไปเกาะขาเธอ “แม่”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นหลินฟานทำท่าน่าสงสารก็ใจอ่อนยวบ ลูบหัวเขาพลางปลอบ “ลูกอยู่นี่รอแม่ เดี๋ยวแม่ก็กลับมา กลับไปจะได้ทอดปลาให้ลูกเย็นนี้ดีไหมจ๊ะ?”
หลินฟานฟังแล้วถึงปล่อยสวี่ม่ายซุ่ย ตอบอย่างเชื่อฟัง “ได้ งั้นแม่รีบกลับมาเร็ว ๆ นะ ผมตามพี่ไปได้ไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ยได้ฟังก็ตอบกลับอย่างจริงจังทันที “ไม่ได้ ลูกยังเล็กเกินไป ทางนั้นอันตราย”
สวี่ม่ายซุ่ยกล้าให้หลินเซียวไปเพราะหลินเซียวแข็งแรงอีกทั้งยังว่องไว ต่อให้มีเรื่องอะไร เธอก็เชื่อว่าเขามีความสามารถในการปกป้องตัวเอง
หลินฟานอายุยังน้อย การเคลื่อนที่ยังไม่ประสานกัน ให้เด็กสองคนอยู่ด้วยกัน สวี่ม่ายซุ่ยก็ยังไม่วางใจ
หลินฟานฟังจบนัยน์ตาก็ฉายแววผิดหวัง เขาชูปลาหมึกในมือพร้อมพูดอย่างคาดหวัง “แม่ แม่ดูนี่”
ใบหน้าของสวี่ม่ายซุ่ยฉายความประหลาดใจ เธอวางถังลงแล้วนั่งยอง ๆ อยู่หน้าเขา เอ่ยชมว่า “อา! ปลาหมึก ลูกไปจับที่ไหน สุดยอดไปเลย”
หลินฟานถูกสวี่ม่ายซุ่ยชมก็รู้เขินอยู่บ้าง เลยมุดหัวเข้าไปในอ้อมกอดสวี่ม่ายซุ่ย ใช้หัวถูเบา ๆ
สวี่ม่ายซุ่ย “เอาละ เอาละ อีกสักพักแม่จะกลับมา ไม่งั้นลูกจะไม่ได้กินปลาทอดนะ”
หลินฟานเอาหัวออกมาจากอ้อมกอดของสวี่ม่ายซุ่ยอย่างอาลัยอาวรณ์ วางปลาหมึกลงในถังอย่างระมัดระวังแล้วถึงไปนั่งก้นกระดกตักทรายต่อ ทำเอาใจสวี่ม่ายซุ่ยอ่อนยวบจนรวนไปหมด
แต่เรื่องกินก็สำคัญ เธอจึงหันกายวิ่งไปที่บ้าน นี่คือการวิ่งอย่างสุดพลังครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สวี่ม่ายซุ่ยย้อนกลับมา
ระหว่างที่กลับไปก็พบแม่ต้าเฉียงพอดี แม่ต้าเฉียงมองสวี่ม่ายซุ่ยอย่างประหลาดใจแล้วถามว่า “พวกเธอไปกันตอนไหน เก็บได้ถังหนึ่งแล้ว?”
สวี่ม่ายซุ่ย “พวกเราไปเร็ว น้ำเพิ่งลงก็ไป แล้วทำไมพี่ถึงเพิ่งไป?”
ตามหลักแล้วหลินเซียวรู้ข่าว ต้าเฉียงก็ควรจะรู้ตั้งนานแล้ว ทำไมแม่ต้าเฉียงถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้
พอถามแบบนี้ แม่ต้าเฉียงก็มีสีหน้าหนักอึ้งทันที ตอบอย่างฉุนเฉียวว่า “อย่าพูดถึงเลย พอพูดถึงฉันก็โมโห”
ต้าเฉียง “งั้นแม่กลับมาค่อยคุยละกัน ถ้าไม่ไปเดี๋ยวก็ไม่เหลืออะไร”
คราวนี้แม่ต้าเฉียงถึงกลับมามีสติ หล่อนโบกมือ “เอาไว้ฉันว่างแล้วจะเล่าให้ฟัง เธอรีบกลับไปเปลี่ยนถังเถอะ”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็ไม่เกรงใจ รีบวิ่งกลับบ้าน พอถึงบ้านก็เอาของทะเลใส่ไว้ในอ่าง แล้วเอาตะแกรงวางไว้ด้านบนกันปูปีนขึ้นมา จากนั้นก็รีบหยิบถังเดินออกไป
ตอนที่สวี่ม่ายซุ่ยมาถึง หลินเซียวผู้สังเกตการณ์อยู่ที่โขดหินก็รอจนกังวลไปหมด “แม่ ทำไมแม่เพิ่งมาป่านนี้”
สวี่ม่ายซุ่ย “เจอแม่ต้าเฉียงระหว่างทางพอดีเลยคุยกันสองสามประโยค”
หลินเซียว “นี่มันเวลาอะไรแล้ว แม่ก็ยังห่วงแต่คุย”
สวี่ม่ายซุ่ย “ก็คุยกันแค่สองประโยค”
“โธ่ ลูกกับต้าเฉียงสนิทกันดี ลูกรู้ไหมว่าบ้านเขาเกิดเรื่องอะไร?” สวี่ม่ายซุ่ยแงะหอยเป๋าฮื้อกับเขาพลางถาม
หลินเซียว “จะมีเรื่องอะไรได้ ก็เรื่องพี่สาวเขาน่ะสิ”
สวี่ม่ายซุ่ย “ชุ่ยชุ่ยทำไม ไม่ใช่ว่าหล่อนดูตัวไปแล้วเหรอ ดูตัวไม่สำเร็จ?”
หลินเซียว “สำเร็จไม่สำเร็จผมไม่รู้ แต่ฟังจากที่ต้าเฉียงพูด คู่ดูตัวของพี่สาวเขาก็ดูงั้น ๆ”
สวี่ม่ายซุ่ย “ดูงั้น ๆ ไม่ใช่ว่าไม่สำเร็จ มิน่าล่ะแม่ต้าเฉียงถึงไม่ดีใจ”
“ทางฝั่งลูกแงะเป็นยังไงบ้าง ยังมีอยู่หรือไม่มี?” สวี่ม่ายซุ่ยเอาที่ตัวเองแงะเสร็จออกมาพลางถาม
“นี่ตัวสุดท้ายแล้ว” หลินเซียวตอบขณะโยนหอยเป๋าฮื้อตัวสุดท้ายเข้าไปในถัง
สวี่ม่ายซุ่ย “ไป ไปดูทางนั้นอีก” สองแม่ลูกว่าแล้วก็เดินไปทางที่มีโขดหินเยอะ ๆ
แอ่งน้ำใต้โขดหินซ่อนของทะเลไว้มากที่สุด ไม่นานสวี่ม่ายซุ่ยกับหลินเซียวก็เก็บกุ้งหอยปูปลามาได้อีกหนึ่งถัง เพราะถังนี้ใบใหญ่ สองแม่ลูกจึงไม่ได้เลือก เจออะไรก็เก็บอันนั้น ไม่นานก็เต็มอีกหนึ่งถัง
หลินเซียว “แม่ ยังต้องเปลี่ยนถังไหม?”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นกลุ่มคนที่เดินมาตรงข้าม แล้วยังมีกลุ่มคนคนด้านหลังก็ส่ายหัว “ไม่ต้อง นี่ก็พอกินแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ!”
หลินเซียว “ได้”
พอพวกเขากลับถึงฝั่งก็เห็นหลินฟานกำลังก่อกองทรายอยู่กับเด็กสองสามคน
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทำเอาหิวซีฟู้ดเลย อยากกินปิ้งย่างซีฟู้ดพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดอยู่ริมทะเลจัง
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION