ตอนที่ 36 ส่งหลินเจี้ยนเฉ่าสองพี่น้อง
หลินเจี้ยนเยี่ย “พวกพี่จะไปจริง ๆ เหรอ?”
หลินเจี้ยนเฉ่าได้ยินก็พยักหน้าอย่างร้อนอกร้อนใจ “จะไปแล้ว พวกฉันอยู่ที่ของนายไม่ได้หรอก”
หลินเจี้ยนเฟิ่งฟังจบก็ลังเลนิดหน่อย “พี่!”
หลินเจี้ยนเฉ่า “ตะโกนหาอะไร!? เธออยากอยู่ก็อยู่ไปเถอะ! ไม่กลัวชาวบ้านเขานินทาก็อยู่ไปเลย!”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังคำพูดกระทบกระเทียบของหลินเจี้ยนเฉ่า ก็ยิ้มเยาะมุมปากแต่ไม่ได้ตอบรับหล่อน พี่หญิงใหญ่คนนี้จิตใจคับแคบมาก ทุกครั้งที่เอาเปรียบคนอื่นก็จะแสร้งทำตัวดีกับคนคนนั้น เขารู้สึกเอือมระอามาตั้งนานแล้ว
หลินเจี้ยนเฟิ่งไม่กล้าเถียงหลินเจี้ยนเฉ่า แต่ก็ยังไม่ยินยอม ถามหลินเจี้ยนเยี่ยด้วยอารมณ์เดือดปุด ๆ “ทำไมมีแค่พี่ สวี่ม่ายซุ่ยล่ะ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “สวี่ม่ายซุ่ยที่เธอเรียกคือพี่สะใภ้ของเธอ”
หลินเจี้ยนเฟิ่ง “ใครอยากได้หล่อนเป็นพี่สะใภ้กัน ถ้าไม่ใช่หล่อนเข้ามาเสียบ พี่คงได้ลงเอยกับพี่ซูเจวียนตั้งนานแล้ว”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังถึงตรงนี้ก็หน้าบึ้งทันที “เธอพูดจาส่งเดชกับฉันให้มันน้อย ๆ หน่อย ฉันบอกเธอเลยว่าต่อให้ฉันไม่ลงเอยกับสวี่ม่ายซุ่ย ซูเจวียนก็ไม่มีทางเป็นพี่สะใภ้ของเธอ ต่อไปนี้เธอพูดไร้สาระกับฉันตอนอยู่ข้างนอกให้น้อยหน่อย เรื่องเมื่อก่อนฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลยนะ”
หลินเจี้ยนเฟิ่งแม้จะไม่ค่อยมีสมอง แต่ก็กลัวใบหน้าเย็นชาของหลินเจี้ยนเยี่ย เลยอดไม่ได้ที่จะหลบไปอยู่หลังหลินเจี้ยนเฉ่า “พี่หญิงใหญ่ ดูเขาสิ”
หลินเจี้ยนเฉ่าอาศัยว่าตนเป็นพี่โตสุดในบ้านที่คอยสั่งสอนพวกน้อง ๆ ตั้งแต่เล็กก็ชอบใช้วิธีเก่า ๆ มาอ้าง มองดูใบหน้าบึ้งตึงของหลินเจี้ยนเยี่ย หล่อนก็ตำหนิอย่างไม่ชอบใจ “นายจะว่าหล่อนทำไม ที่หล่อนพูดไม่ผิดด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะสวี่ม่ายซุ่ย แม่คงได้นับญาติกับบ้านซูเจวียนตั้งนานแล้ว”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “พี่หญิงใหญ่ พี่แน่ใจเหรอว่าแม่อยากจะนับญาติกับซูเจวียน?”
บ้านซูเจวียนมีพี่สาวน้องสาวเยอะ มีน้องชายแค่คนเดียว และแม่ของซูเจวียนก็จ้องแต่จะขูดรีดทุกอย่างจากพี่น้องผู้หญิงไปช่วยลูกชายคนเล็กของหล่อน ซึ่งยายเฒ่าหลินไม่ชอบสะใภ้จำพวกกินบนเรือนขี้บนหลังคาที่สุด
หลินเจี้ยนเฉ่าถูกหลินเจี้ยนเยี่ยต่อว่า ก็เถียงกลับอย่างไม่ยอมกัน “ก็ยังดีกว่าสวี่ม่ายซุ่ยละกัน วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน ฉันกับเจี้ยนเฟิ่งจะโดนลงโทษได้ยังไง แล้วยังมาบอกว่าเราเป็นสายลับอีก หล่อนใส่ร้ายกันอยู่โต้ง ๆ ยังไงพวกเราก็เป็นญาติกัน หล่อนกล้าทำอย่างนี้กับพวกเรา หล่อนยังเห็นพวกเราบ้านหลินอยู่ในสายตาไหม?”
หลินเจี้ยนเฉ่ายิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ ถือโอกาสเค้นความรู้สึกออกมาตรง ๆ ระบายความในใจออกมาหมด “ยังมีครั้งก่อนที่แม่เรามา นายบอกว่านายออกทะเลไม่อยู่บ้านก็แล้วไป หล่อนล่ะไปไหน? ผู้หญิงคนหนึ่งที่พอสามีไม่อยู่บ้านก็พาเด็กสองคนไป สามสี่วันไม่เห็นเงาคน บอกว่ากลับบ้านแม่ไปแล้ว บ้านแม่หล่อนคงใหญ่มากสินะถึงอยู่ได้สามสี่วัน ไม่แน่ว่าคงไปอยู่บ้านผู้ชายกักขฬะไปแล้ว ฉันจะบอกอะไรนายให้ นายอย่าโง่นักเลย นายต้องปรามหล่อนบ้าง ถ้าเกิดหล่อนสวมหมวกเขียวให้นาย นายจะร้องไห้ก็ไม่มีที่ให้ร้องหรอกนะ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ม่ายซุ่ยไม่ใช่คนแบบนั้น อีกอย่างบ้านแม่หล่อนก็ใหญ่ จะอยู่กี่วันก็ได้ทั้งนั้น”
หลินเจี้ยนเฉ่าเห็นหลินเจี้ยนเยี่ยไม่ฟังหล่อน ก็ตำหนิด้วยความผิดหวัง “ฉันว่านายคงหลงยัยจิ้งจอกจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วแหละ ฉันคงหลอกนายไม่ลง พวกเราเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ ต่อให้ต้องหักกระดูกตัดเส้นเอ็น ฉันหรือจะทำร้ายนายได้ อีกอย่างสวี่ม่ายซุ่ยก็เป็นคนนอก พวกเรายากที่จะรู้ความคิดหล่อน นายเอาทรัพย์สินในบ้านให้หล่อน นายวางใจได้เหรอ? แถมวัน ๆ นายก็ไม่อยู่บ้าน ถ้าหล่อนเอาของในบ้านไปให้ทางแม่หล่อน นายจะรู้ไหม ฉันว่านายควรฟังแม่เรานะ เงินเดือนออกก็ให้แม่เรา แม่เราจะเก็บไว้ให้ รอนายต้องใช้ค่อยให้นาย”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังคำพูดที่ฟังดูหวังดีกับเขาของหลินเจี้ยนเฉ่าก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “พี่หญิงใหญ่ พี่อยู่บ้านพี่เขยพี่ก็ใช้ชีวิตแบบนี้สินะ”
“นายหมายความว่าไง?”
“พี่เขยคงรู้ใจพี่ อะไรก็ไม่บอกพี่ เงินที่บ้านพี่ที่หามาก็เอาไปให้แม่ใหญ่งั้นสิ”
หลินเจี้ยนเฉ่าฟังจบก็มีสีหน้าหนักอึ้ง “เขากล้าเหรอ?”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็ตอกกลับอย่างไม่เกรงใจ “ในเมื่อสามีพี่ไม่กล้า พี่มีสิทธิ์อะไรมาคิดว่าผมกล้า”
“นายเป็นถึงผู้กอง สามีพี่เป็นแค่ลูกสมุน เธอสองคนจะมาเหมือนกันได้ยังไง?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ตรงไหนที่ไม่เหมือนกัน?”
หลินเจี้ยนเฉ่า “นาย… นายนี่มันชักกล้าขึ้นทุกวันนะ”
“สวี่ม่ายซุ่ยเมื่อก่อนก็ไม่ใช่แบบนี้ แต่นี่มันอะไรกัน คงไม่ใช่ว่าโดนอะไร…”
ชาวบ้านในท้องที่ต่างมีความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ ยังไม่ทันที่หล่อนจะพูดออกมาก็โดนหลินเจี้ยนเยี่ยขัดก่อน “พี่หญิงใหญ่ อะไรควรพูดอะไรไม่ควร พี่ควรรู้บ้างนะ”
หลินเจี้ยนเฉ่าโดนหลินเจี้ยนเยี่ยว่าขนาดนี้ก็ได้สติขึ้นมา สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นขาวซีด
“ฉันก็แค่พูด ๆ ไป”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ครั้งที่แล้วแม่โก่วต้านก็พูดแบบนี้แหละ”
หลินเจี้ยนเฉ่าฟังจบสีหน้าก็พลันเย็นชาลงทันที
ตอนที่พูดกันเสร็จ สามพี่น้องก็ถึงท่าเรือแล้ว หลินเจี้ยนเยี่ยมองทั้งสองคนแล้วพูดว่า “ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไร ก็ไปเถอะ”
หลินเจี้ยนเฉ่าเห็นหลินเจี้ยนเยี่ยไม่ฟังอะไรเลยก็ส่งสายตาให้หลินเจี้ยนเฟิ่ง เห็นหล่อนเดินเม้มปากไปหาหลินเจี้ยนเยี่ย พูดอย่างกระมิดกระเมี้ยน “พี่สาม อีกไม่กี่วันฉันจะไปดูตัว ยังไม่มีเสื้อผ้าใส่เลย พี่ให้ตั๋วผ้าฉันได้มาสักสองสามใบได้ไหม”
หลินเจี้ยนเยี่ยตอบกลับด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไม่ใช่ว่าแม่ขอตั๋วผ้าจากสวี่ม่ายซุ่ยไปหลายใบแล้วเหรอ? เธอลองกลับไปถามดู”
เมื่อเห็นหลินเจี้ยนเยี่ยไม่ให้ หลินเจี้ยนเฟิ่งก็ร้อนรนทันที “ตั๋วผ้าไม่กี่ใบจะไปพออะไร”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ตั้งแต่เราแต่งงานกันแม่ก็มาขอตั๋วผ้าจากสวี่ม่ายซุ่ยมาสะสมไว้หลายปีแล้ว จะทำเสื้อผ้าสองสามตัวก็พอถมเถ เธอกลับไปพูดกับแม่ให้เอาผ้าพวกนั้นมาให้เธอ ถือซะว่าเป็นของขวัญแต่งงานจากพี่สาม”
หลินเจี้ยนเฉ่ากับหลินเจี้ยนเฟิ่งได้ฟังก็งุนงุนงง ต้องรู้ว่าทุกครั้งที่ยายเฒ่าหลินมาเอาของกลับไปก็ถูกพวกเขาแบ่งกัน จะไปเหลือที่ไหนมาให้เขา
หลินเจี้ยนเยี่ยไม่สนว่าพวกเขาจะทำหน้าอย่างไร พูดเร่งรัดพวกหล่อน “ไปซื้อตั๋วเร็ว ๆ ไม่งั้นก็ไม่มีเรือกลับแล้วนะ”
หลินเจี้ยนเฉ่า…
“พวกเราไม่มีเงินติดตัวเลย ซื้อตั๋วไม่ได้”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ฉันก็ไม่มีเงิน”
หลินเจี้ยนเฉ่าได้ฟังก็ร้อนรน “นายเป็นถึงหัวหน้ากอง เงินสักหยวนจะไม่มีติดตัวเลยเหรอ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ไม่มี”
หลินเจี้ยนเฉ่าเห็นหลินเจี้ยนเยี่ยทำตัวหน้าหนาก็โกรธจนกัดฟันกรอด “พวกนายสองผัวเมียนี่มันจริง ๆ เลย” พูดจบก็ดึงหลินเจี้ยนเฟิ่งไปขึ้นเรือ
หลินเจี้ยนเฟิ่งเห็นหลินเจี้ยนเฉ่าเป็นแบบนั้นก็ถามอย่างไม่เข้าใจ “พี่ใหญ่ ในเมื่อเขาพูดว่าไม่มีเงินแล้ว เราก็ไปอยู่บ้านเขาเลยสิ”
หลินเจี้ยนเฉ่า “เธอไม่เห็นท่าทางที่พี่สามของเธอทำกับเราเหรอ? เธอคิดว่าเราอยู่บ้านเขาแล้วจะมีชีวิตดี ๆ เหรอ?”
หลินเจี้ยนเฟิ่ง “ไม่ใช่ว่าพี่สามก็มีท่าทางแบบนี้มาตลอดเหรอ?”
เพราะหลินเจี้ยนเยี่ยถูกยายเฒ่าหลินส่งให้ลุงหลินเลี้ยงตั้งแต่เด็ก แล้วยังได้คุณย่าหลินเลี้ยงมาจนโต เลยไม่ค่อยสนิทกับทางฝั่งของยายเฒ่าหลิน แต่พอลุงหลินจากไป หลินเจี้ยนเยี่ยก็ถูกส่งตัวให้บ้านหลินอีกครั้ง และพอสนิทกับพวกพี่น้องสองสามคนบ้าง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมยายเฒ่าหลินถึงกล้าขอของจากสวี่ม่ายซุ่ยแต่ไม่กล้าขอหลินเจี้ยนเยี่ย
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เออ หัดปฏิเสธคนบ้านตัวเองบ้างไอ้หนุ่ม อย่ารอให้เมียโดนพี่น้องบ้านตัวเองรังแกฝ่ายเดียว
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION