ตอนที่ 29 ซูเจวียนยื่นมือสอด แม่เฒ่าหลินได้ประกันตัว
จ้าวเป่ากั๋วเห็นภรรยาเขากระตือรือร้นขนาดนี้ก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เอามือไปแตะหล่อนไม่ให้แสดงท่าทางกระโตกกระตากจนเกินไป
เพราะจ้าวเป่ากั๋วไม่ได้ไปมาหาสู่กับสวี่ม่ายซุ่ยมากนัก เลยกังวลอยู่บ้างว่าเธอจะทรยศพวกเขา
ต้องทราบว่าแม่เฒ่าหลินเป็นพวกอันธพาล หากนางรู้ว่านี่คือผลงานชิ้นเอกของพวกเธอ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่นางจะก่อปัญหาอีก
หลี่ต้านีไปมาหาสู่กับสวี่ม่ายซุ่ยบ่อย ย่อมรู้ว่าเธอไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ต่อว่าอย่างไม่เกรงใจ “คุณจะรั้งฉันทำไม มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เลยสิ”
จ้าวเป่ากั๋วชำเลืองมองหลี่ต้านีอย่างหมดคำจะพูด ก้มลงกินข้าวอย่างไม่ลังเล ไม่ฟังแผนลับของหล่อนสองคนอีก
พอกินข้าวแล้วส่งจ้าวเป่ากั๋วเสร็จ สวี่ม่ายซุ่ยกับหลี่ต้านีก็เริ่มยุ่งขึ้นมา
หลี่ต้านีพาจื้อเฉียงกับจื้อลี่ไปสำรวจก่อนหนึ่งรอบ เห็นว่าไม่มีทหารอยู่จึงกลับมาบอกสวี่ม่ายซุ่ย
สวนบ้านพวกเธอไม่สูง ประมาณ1เมตร7เซนติเมตรกว่าๆ ทุกครั้งที่หลินเจี้ยนเย่กลับมาจะเห็นหัวเธออยู่ครึ่งหนึ่ง
หลี่ต้านีกับจื้อเฉียง จื้อลี่ ยืนเฝ้าอยู่ปากทางละคนคอยดูต้นทางให้พวกเธอ สวี่ม่ายซุ่ยอุ้มเด็กสองคนส่งบนกำแพง ไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้เธอสูงที่สุดในคนพวกนี้ล่ะ
สวี่ม่ายซุ่ยต้องเหยียบม้านั่งอุ้มเด็กสองคนขึ้นกำแพงถึงปีนขึ้นไปได้ พอถึงบนกำแพงสามแม่ลูกต่างก็มองกันไปมา
“ลูกสองคนรออยู่นี่ แม่จะไปก่อน แล้วค่อยเอาม้านั่งมารับพวกลูก”
ใครจะรู้ว่าพอเธอกระโดดลงไป หลินเซียวก็รีบกระโดดตามลงมาด้วย ทำให้สวี่ม่ายซุ่ยโกรธจนอยากจะตีลูกเดี๋ยวนั้น
หลินเซียวเห็นท่าไม่ดี ก็เอามือกุมก้นพร้อมกับพูดจาข่มขู่ “ถ้าแม่ตีผม ผมจะตะโกน”
ยังไม่ทันที่สวี่ม่ายซุ่ยจะหายโกรธ ก็ชี้ไปที่หลินเซียวอย่าร้ายกาจแเล้วพูดว่า “แกรอฉันอยู่ตรงนี้นะ รอกลับไปห้องแล้วฉันจะอุดปากตีแกซะ”
หลินเซียวสีหน้าแข็งค้าง เอามือกุมก้นวิ่งไปที่ห้องทันที
ยังดีที่หลินฟานเป็นเด็กเชื่อฟัง นั่งบนกำแพงรอสวี่ม่ายซุ่ยมาอุ้มลงไป
จากนั้นสวี่ม่ายซุ่ยจึงเหยียบบนม้านั่งให้สัญญาณหลี่ต้านี แล้วถึงได้ลงไป
พอเข้าห้อง สวี่ม่ายซุ่ยก็เตรียมจะไปจัดการหลินเซียวด้วยท่าทางดุดัน
เด็กดื้อคนนี้ช่างดื้อรั้นไม่สี่สนแปดอะไรทั้งนั้น ที่สูงขนาดนี้นึกอยากจะลงก็ลง แล้วยังไม่กลัวล้มอีก
ใครจะรู้ว่าพอเปิดประตูจะเจอหลินเซียวลงกลอนขังตัวเองไว้ด้านใน
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
หลินเซียว “ไม่เปิด ไม่เปิดก็คือไม่เปิด”
สวี่ม่ายซุ่ย “รอให้แม่รอจัดการลูกก่อนเถอะ”
หลินเซียว “ตอนนี้แม่จัดการผมไม่ได้หรอก”
สวี่ม่ายซุ่ย….
“ได้ แม่จัดการลูกไม่ได้ใช่ไหม ! ดูซิว่าแม่จะทำให้ลูกอดตายได้หรือเปล่า” พูดจบก็ลากหลินฟานเข้าห้องไปนอนกลางวัน
เวลานี้อากาศร้อน ไม่มีอะไรทำ สวนก็ออกไปไม่ได้ ไม่สู้นอนกลางวันสบายๆดีกว่า
ตอนบ่ายได้ยินคนมาตะโกนเรียก แต่สวี่ม่ายซุ่ยไม่ได้ส่งเสียงตอบกลับไป อีกไม่นานคนก็ไปเอง
ครั้นสังเกตเห็นว่าไม่มีคนอยู่ด้านนอกในตอนกลางคืน สวี่ม่ายซุ่ยถึงได้ทำลับๆล่อๆสั่งบะหมี่มากิน
แน่นอนว่าหลินเซียวหิว เลยไม่รอดจากการถูกตี
แล้วสามแม่ลูกก็หมกตัวอยู่ในบ้านสามวัน พอวันที่สามถึงได้รับสัญญาณจากหลี่ต้านี
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นแล้วก็ยังไม่ค่อยเชื่อ ไม่ใช่บอกว่าจะออกมาไม่ได้สักพักหรอ นี่ไม่กี่วันก็เปลี่ยนแล้ว
“พวกลูกรออยู่ในห้อง แม่จะออกไปดูหน่อย” พูดจบสวี่ม่ายซุ่ยก็ออกไปอย่างระมัดระวัง
“พี่สะใภ้?”
หลี่ต้านี “ฉันเอง แม่สามีเธอไปเล้ว เดี๋ยวฉันจะเปิดประตูให้เธอ พวกเราไปคุยกันในห้อง”
สวี่ม่ายซุ่ย “ได้”
ไม่นานหลี่ต้านีก็เปิดประตูเดินเข้ามา “คนไปตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว ตอนนั้นคนเยอะฉันเลยไม่กล้ามา”
สวี่ม่ายซุ่ย “พี่จ้าวไม่ได้บอกว่าครึ่งเดือนสิบวันหรอ”
หลี่ต้านี “อย่าพูดถึงเลย เธอรู้ไหมว่าพวกเราลืมใครอีกคน”
หลี่ต้านีเตือนมาขนาดนี้ สวี่ม่ายซุ่ยก็นึกออกทันที “พี่หมายถึงซูเจวียน”
หลี่ต้านี “ไม่ผิดเลย พูดถึงสาวน้อยจอมหลอกลวงขนาดนี้ จะไปมีใครที่ไหนอีก”
สวี่ม่ายซุ่ย “พวกเขามาจากหมู่บ้านเดียวกัน ยายเฒ่าจะนึกถึงขึ้นมาก็ไม่แปลก”
“โดนขังอยู่สามวันเพิ่งนึกออกเนี่ยนะคะ ไม่เห็นจะเร็วตรงไหน”
หลี่ต้านี “คนเขาแก่แล้ว ตกใจแล้วยังนึกขึ้นได้นี่ก็ไม่เลวแล้วนะ”
สวี่ม่ายซุ่ย “หล่อนก็ไปแบบนี้แล้ว ทำไมถึงไม่มาเอะอะที่บ้านฉัน”
พูดถึงตรงนี้หลี่ต้านีก็รู้สึกมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นทันที “หล่อนจะไปเอาแรงจากไหนมาเอะอะที่บ้านเธอ เธออาจจะไม่รู้ ประสบการณ์อยู่ในห้องขังมืดๆ แคบๆ สามวันเต็มทำให้ยายเฒ่าพลิกไปพลิกมาอย่างเวทนาเลยล่ะ ออกมาทีคงแทบเดินไม่ได้”
“ที่เรียกซูเจวียนมาก็เพราะอยากให้มาหาเธอ ให้เธอไปปรนนิบัติหล่อน”
“ฉันบอกเขาไปตรงๆแล้วว่าบ้านเธอปิดอยู่ เธอไม่อยู่บ้าน ยายเฒ่าถึงได้ตายใจ”
“ซูเจวียนยังคิดจะเตือน แต่พูดยังไม่ทันจบก็โดนแม่เฒ่าหลินขัดก่อน ให้ตายยังไงก็ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว รีบให้ซูเจวียนพาหล่อนกลับไปส่ง”
สวี่ม่ายซุ่ยเข้าใจแม่เฒ่าหลิน นางคงโดนคนในฐานทัพสอบปากคำจนกลัว แต่นางเป็นพวกเข็ดแล้วไม่รู้จักจำ รออาการดีขึ้นเมื่อใดต้องกลับมาอีกแน่
สวี่ม่ายซุ่ย “ซูเจวียนก็กลับไปด้วย?”
หลี่ต้านี “กลับไปแล้ว ถ้าไม่ได้ซูเจวียนไปส่งหล่อน แม่เฒ่าหลินคงเดินด้วยสภาพนั้นไม่ไหว”
สวี่ม่ายซุ่ย “คงต้องขอบคุณหล่อนที่มาแล้ว”
หลี่ต้านีรู้ว่าเธอกำลังพูดประชดก็พูดยิ้มๆ “เธอนี่มันจริงๆเลย”
สวี่ม่ายซุ่ยยิ้มให้หลี่ต้านี “พี่สะใภ้ หลายวันมานี้ลำบากพี่แล้ว รอหลินเจี้ยนเย่กลับมา พวกเราขอเชิญบ้านพี่มากินข้าวนะ”
หลี่ต้านี “ตกลง ตกลง งั้นฉันไปก่อนนะ กุญแจนี้วางไว้ให้เธอตรงนี้นะ ถือซะว่าได้ใช้ชีวิตสงบๆ สองสามวัน”
พอหลี่ต้านีไป สวี่ม่ายซุ่ยจึงฮัมเพลงเข้ามาในห้อง
ชนะศึกแรก สุขใจยิ่งนัก
หลินเซียว “แม่ ย่าไปแล้วจะมาอีกไหม”
สวี่ม่ายซุ่ย “มา ต้องมาแน่ แค่จะมาตอนไหนเท่านั้นแหละ”
หลินเซียว”งั้นพวกเราจะทำยังไงดี พอถึงเวลานั้นต้องซ่อนตัวอีกไหม”
สวี่ม่ายซุ่ย “รอบหน้าไม่ต้องซ่อนตัวแล้ว ลูกวางใจเถอะ ต่อไปนี้ย่าจะมาเอาของไปจากบ้านเราไม่ได้แล้ว”
หลินเซียว “แม่ แม่นี่สุดยอดไปเลย”
สวี่ม่ายซุ่ย “พรุ่งนี้ไปเรียกพวกหู่จือมาด้วย แม่จะให้พวกเขากินขนม”
เนื่องจากหลินเจี้ยนเย่เงินเดือนออกแล้วแบ่งให้เธอห้าสิบหยวน ตอนนี้เธอจึงมีเงินเยอะ
หลินเซียว “ครับ”
วันที่สองสวี่ม่ายซุ่ยก็ไปสหกรณ์ ซื้อขนมที่มีน้อยนิดบนเกาะมาหลายชิ้น
“พี่สะใภ้หลิน บ้านพี่มีเรื่องอะไรกัน”
สวี่ม่ายซุ่ย”ไม่มีเรื่องอะไรหรอก ก็แค่ซื้อขนมให้พวกเด็กๆ น่ะ”
ผู้หญิงที่ขายขนมฟังแล้วก็เบ้ปาก “พี่ช่างเสียสละจริงๆ”
สวี่ม่ายซุ่ย “กับลูกบ้านตัวเองไม่เสียสละ แล้วจะเสียสละให้ใคร”
ซื้อขนมเสร็จสวี่ม่ายซุ่ยก็ไปซื้อครีมบุปผาหิมะ แล้วถึงจากไป
คนขายครีมบุปผาหิมะ “เธอเห็นรึยัง ว่าทำไมฉันรู้สึกว่าช่วงนี้หล่อนขาวขึ้น”
คนขายของใช้ “ไม่น่าใช่แค่ขาว รูปร่างก็ดีด้วย แต่ก่อนผอมอย่างกับแท่งไม้ ดูตอนนี้สิมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะ”
คนขายครีมบุปผาหิมะ “ทำไมคนๆ นี้ถึงเปลี่ยนไปได้ล่ะ เมื่อก่อนยังขี้ขลาดตาขาวอยู่เลย
คนขายของใช้ “อย่าใส่อารมณ์สิ เธอไม่เคยได้ยินเหรอว่าตอนนี้หล่อนร้ายกาจมากนะ จางหงเหมยของเกาะเรายังไม่ใช่คู่ปรับของหล่อน”
“ครั้งที่แล้วขนาดเสี่ยวจางที่ขายขนมก็โดนหล่อนจัดการ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ว้า น่าจะจับยัยซูเจวียนขังไปพร้อมกันเลย ไม่งั้นยัยเฒ่านั่นคงไม่ได้ออกมาเร็วก่อนกำหนด
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION