ตอนที่ 24 อิ่มจนพุงกาง
เเม่วั่งไฉ “ฉันก็คิดอย่างนั้น”
“หล่อนสามารถตีจางหงเหมยให้อยู่ในสภาพนั้นได้ จะเป็นตะเกียงประหยัดน้ำมัน[1]ได้ยังไง”
เเม่เถี่ยจู้ “เธอว่าหล่อนที่ปกติก็ไม่ได้มีปากมีเสียงอะไร ทำไมถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้ล่ะ?”
ภรรยาหมาจื่อ “คนเราดูที่ภายนอกไม่ได้ ถ้าไม่ได้ถูกบังคับจนอับจนหนทาง บังคับถึงขีดสุด เธอ…”
พูดยังไม่ทันจบก็เห็นเเม่เถี่ยจู้รีบดึงหล่อน พูดเสียงต่ำว่า “ไม่ต้องพูดเเล้ว ไม่ต้องพูดเเล้ว กรรมการพรรคจ้าวมาเเล้ว”
เพิ่งพูดจบก็เห็นกรรมการพรรคจ้าวที่ถือกระเป๋าเอกสารใบโตกำลังสาวเท้าเข้ามา ตอนผ่านมาก็ชำเลืองมองพวกหล่อนที่ยังคุยกัน
รอจ้าวเป่ากั๋วไปเเล้ว เเม่เถี่ยจู้ก็รีบพูดเสียงเบา “คนอย่างหลินเจี้ยนเยี่ยก็เลิกงานตั้งนานเเล้ว ทำไมเขาพึ่งกลับมาล่ะ?”
เเม่วั่งไฉ…..
จ้าวเป่ากั๋วเดินไปฟังเสียงพวกหล่อนซุบซิบเรื่องตัวเองไป ก็หัวเราะเยาะอย่างดูถูก ผู้หญิงปากมากพวกนี้ใครเดินผ่านก็พูดถึงคนนั้น ช่างว่างจนไม่มีอะไรทำเสียจริง วันนั้นก็ให้พวกหล่อนเปิดงานประชุมระดมพลไปแล้วกัน
สวี่ม่ายซุ่ยทักทายพวกหล่อนเสร็จก็รีบเดินไปที่บ้าน เธอเดินไปโดยไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าพวกหล่อนต้องพูดเรื่องเธอเเน่ เพื่อที่จะไม่ทำให้ตัวเองหัวเสียกว่าเดิม เธอก็ทำเป็นไม่ได้ยิน
เธอเพิ่งถึงบ้านก็เห็นหลินเจี้ยนเยี่ยหาด้ามจอบมาเริ่มเก็บที่เเล้ว
สวี่ม่ายซุ่ย “คุณช่างพลังล้นเหลือซะจริง ๆ ฝึกมาทั้งวันก็ยังไม่เหนื่อย!”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ทำไมจะไม่เหนื่อย เหนื่อยจนผมอยากจะนอนบนเตียงเเล้ว”
สวี่ม่ายซุ่ย “งั้นคุณจะพักหรือไม่พัก”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ผมพักก็ได้ แล้วพรุ่งนี้คุณทำ?”
สวี่ม่ายซุ่ย…
“งั้นคุณรีบ ๆ จัดการพวกนี้ให้เรียบร้อย ฉันว่าวันนี้เเสงจันทร์ก็สว่างไม่เลว คงทำได้มากกว่านี้อีกสักพัก” สวี่ม่ายซุ่ยพูดจบก็หยิบมะเขือยาวสองลูกจากตะกร้าเข้าไปในห้องครัว
หลินเจี้ยนเยี่ย…
สวี่ม่ายซุ่ย “ตอนเย็นกินมะเขือเคี่ยวน้ำมัน เเล้วก็นึ่งข้าวสวยได้ไหม?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “กินเหลียงผีของเมื่อวานไม่ได้เหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็เอามะเขือยาวออกมา มองเขาอย่างจนใจ “เหลียงผีมันทำยุ่งยากเกินไป”
หลินเจี้ยนเยี่ย “งั้นก็ข้าวอบหม้อดิน”
สวี่ม่ายซุ่ย “บะหมี่เปี๋ยงเปี๋ยงล่ะกินไหม?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “กิน”
พอได้ยินคำนี้สวี่ม่ายซุ่ยก็หยิบมะเขือยาวกลับมาวางอีกครั้ง เเล้วหยิบเเตงกวาสองลูกไปที่ห้องครัว
เมื่อเทียบกับข้าวอบหม้อดินเเล้ว ทำบะหมี่เปี๋ยงเปี๋ยงยังจะเร็วกว่า
เธอหยิบชามใหญ่มาตักเเป้งสองกระบวยจากตู้ เติมน้ำเเล้วเริ่มนวด พอนวดเสร็จก็ม้วนจนเป็นเเป้งเเผ่นใหญ่ เเล้วใช้มีดตัดเป็นเส้นยาว ๆ กว้าง 2 ฉื่อใส่ลงไปต้มในหม้อ เมื่อสุกก็ตักออกมาวางไว้ในชามใหญ่หนึ่งชาม ชามเล็กสามชาม
จากนั้นก็นำน้ำที่เหลือไปต้มผักกวางตุ้งจนสุกจึงใส่ชาม เเล้วก็ใส่เเตงกวา เกลือ น้ำส้มสายชู กระเทียมสับ พริก ราดน้ำมันร้อน ๆ ลงไป บะหมี่เปี๋ยงเปี๋ยงหอม ๆ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยดี
ขณะสวี่ม่ายซุ่ยเพิ่งยกชามออกมาจากห้องครัว หลินเซียวกับหลินฟานก็รีบวิ่งตามหน้าตามหลังเข้าไป
หลินเซียวสูดจมูก วิ่งตรงไปถามสวี่ม่ายซุ่ย “เเม่ เเม่ทำอะไรอร่อย ๆ อีกเเล้วเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ลูกนี่สมเป็นลูกชายพ่อเขาจริง ๆ จมูกสุนัขกันหมด”
หลินเจี้ยนเยี่ยผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว…
หลินเซียวกลับไม่ได้พบความผิดปกติเเต่อย่างใด ยังคงเงยหน้าถาม “เเม่ เเม่ทำอะไร?”
สวี่ม่ายซุ่ย “บะหมี่เปี๋ยงเปี๋ยง”
หลินฟาน “อะไรคือบะหมี่เปี๋ยงเปี๋ยง?”
หลินเซียว “โง่จริง ก็คือบะหมี่เส้นเปี๋ยงไง”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นหลินเซียวอวดรู้ก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “พอได้เเล้วทั้งสองคน รีบไปล้างมือกินข้าว”
พูดจบก็หันไปตะโกนใส่หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณก็อย่ามัวเเต่ยุ่ง รีบมากินข้าว”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็วางหัวจอบลง ล้างมือเเล้วรีบเร่งฝีเท้าเดินตามไป
เพิ่งจะได้นั่ง หลินเซียวก็ตะโกนใส่สวี่ม่ายซุ่ยอย่างไม่พอใจ “ทำไมชามพ่อใหญ่ขนาดนี้ เเต่ของพวกเราเล็กนิดเดียว”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่ใชว่าลูกเพิ่งกินมาจากบ้านยายรึไง?”
หลินเซียว “กินตอนเที่ยง ตอนนี้ในท้องผมโดนย่อยไปหมดเเล้ว”
ตอนกลางวันหลินเซียวกินไปเยอะแล้ว สวี่ม่ายซุ่ยรู้และไม่เชื่อตั้งเเต่เเรกเเล้วว่าจะย่อยหมดเร็วขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าตะกละ
“รอลูกกินเสร็จค่อยพูด”
หลินเซียวฟังจบก็มองสวี่ม่ายซุ่ยอย่างไม่ยินยอม ถือชามข้าวมาไม่ถึงสิบนาทีหมด “เเม่ ผมอยากได้อีก”
สวี่ม่ายซุ่ยมองท้องเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาของหลินเซียวด้วยเเววตาล้ำลึก พอกำลังจะเปิดโปงเขา ก็เห็นหลินเจี้ยนเยี่ยเอาชามใหญ่มาให้เขาอีกหนึ่งชาม
สวี่ม่ายซุ่ยมองด้วยใบหน้าที่ครึ้มลงอย่างถึงที่สุด พอกำลังจะพูดก็ได้ยินหลินเจี้ยนเยี่ยพูดว่า “ในเมื่อเขากินไม่อิ่ม ก็ให้เขากินต่อไป”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็มองเขาด้วยเเววตาล้ำลึกไม่พูดอะไร
รอกินเสร็จหลินเจี้ยนเยี่ยกับหลินฟานต่างก็จูงกันไป มีเพียงหลินเซียวที่ยังอยู่ที่เดิม
สวี่ม่ายซุ่ยเก็บชามพลางพูด “ลูกกินเสร็จเเล้วไม่ต้องรีบไป นั่งนี่หาอะไรทำไปก่อน”
หลินเซียวเงยมองสวี่ม่ายซุ่ยด้วยเเววตาน่าสงสารพลางเปิดปากพูด “พุงจะเเตกเเล้ว พุงจะเเตก!”
“พุงฉันก็จะเเตกเเล้ว!”
สวี่ม่ายซุ่ย…
“ไม่ให้ลูกกิน ลูกก็ไม่ฟัง คราวนี้อิ่มรึยังล่ะ?”
“ออกไปเดินบ้าง ให้อาหารมันย่อย นั่งอยู่ก็ยิ่งไม่สบาย”
หลินเซียวฟังจบก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น พอยืนขึ้นก็อดที่จะทำเสียงเเหวะไม่ได้ เขาปิดปากเเล้ววิ่งออกไปด้านนอก
สวี่ม่ายซุ่ยเบะปาก เก็บชามต่อด้วยสีหน้าจนใจ
พอเก็บกวาดเสร็จ ก็เห็นหลินฟานวิ่งเข้ามาด้วยความลนลาน ถามสวี่ม่ายซุ่ยด้วยสีหน้าร้อนรน “เเม่ พี่ใหญ่ท้องเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย….
“ลูกดูออกได้ยังไง?”
“ป้าหลี่ที่ท้องเหมือนพี่เปี๊ยบเลย ปิดปากอ้วกบ่อย ๆ หลินฟานพูดพลางเลียนเเบบท่าปิดปาก
ทำเอาสวี่ม่ายซุ่ยเอ็นดูมาก เธอจึงอธิบายเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่ลูกเเค่อิ่มเกินไป ไม่ได้ท้อง”
“เราอย่าได้เป็นเหมือนพี่ลูกนะ”
หลินฟานผงกหัวอย่างเข้าอกเข้าใจ
ผลสุดท้ายหลินเซียวที่ออกไปเดินตั้งเเต่สองทุ่มจนถึงสามทุ่มก็ยังไม่ดีขึ้น
เมื่อไม่มีทางอื่นสวี่ม่ายซุ่ยจึงนวดท้องเขา หลินฟานเห็นก็นึกสนุก ทำตามโดยนวดให้เขาบ้าง
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นก็ให้เขานวด ส่วนตัวเองไปเอาน้ำมาให้พวกเขาล้างเท้า
เด็กสองคนนี้ไม่อาบน้ำเเล้วยังไม่ล้างเท้าอีก ส้นรองเท้านี่เหม็นไม่ไหว
สวี่ม่ายซุ่ยให้พวกเขาล้างเท้าเเล้วก็กำชับอยู่สองสามประโยคถึงกลับห้องไป
พอเข้าห้องมาเห็นหลินเจี้ยนเยี่ยกำลังอ่านหนังสือก็อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ “คุณนี่ก็… เห็นว่าเขาอิ่มจนเป็นเเบบนั้นเเล้วยังจะให้เขากินอีก”
หลินเจี้ยนเยี่ยหัวเราะเยาะ “ตัวเองไม่เอาถ่าน จะโทษใครได้”
สวี่ม่ายซุ่ย “พูดอย่างกับไม่ใช่ลูกชายเเท้ ๆ ของตัวเอง”
หลินเจี้ยนเยี่ย “เป็นลูกชายผมเเท้ ๆ ไง ถึงได้สอนว่าอะไรที่เหมาะสมเเล้วก็ควรหยุด อย่าโลภมาก คุณดูคนอื่นสิว่าผมสนหรือไม่สน”
สวี่ม่ายซุ่ย “ใช่ ๆ ๆ คุณมีเหตุผล มีเหตุผลกว่าเเม่อีก”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็วางหนังสือลง หันไปทางสวี่ม่ายซุ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ทำเอาสวี่ม่ายซุ่ยรู้สึกขนลุกขนชัน “คุณมองฉันขนาดนี้หมายความว่าอะไร?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณร้ายกาจขนาดนี้ ผมเหมือนได้เมียใหม่เลย”
สวี่ม่ายซุ่ยถึงผ่อนลมหายใจ “ทำเหมือนคุณได้เมียใหม่แล้วก็ได้”
เเววตาหลินเจี้ยนเยี่ยล้ำลึก “ผมได้เปลี่ยนเมียแล้ว งั้นผมก็คง….”
พูดจบก็โถมตัวใส่สวี่ม่ายซุ่ย
สวี่ม่ายซุ่ยเหนื่อยใจ รีบผลักหลินเจี้ยนเยี่ยพลางพูด “คุณ….คุณอย่าได้”
“ฉันพึ่งอาบน้ำเสร็จ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ก็พอดีเลยนี่”
สวี่ม่ายซุ่ยถูกจูบจนหน้าเเดง พยายามเค้นคอพูด “ไม่…ไม่ได้”
[1] คนที่ไม่เรื่องมาก ไม่สร้างปัญหา
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อะไรคือเหมือนได้เมียใหม่ พี่เยี่ยพูดให้มันดี ๆ นะ
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION