ตอนที่ 23 ท่าทีไม่ชัดเจน
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็เบะปาก ตอบกลับอย่างไม่เชื่อ “คุณแค่พูดแบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าล่ะว่าคุณโผล่หัวมาหรือไม่โผล่”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ผมไปหลอกคุณตอนไหน”
สวี่ม่ายซุ่ยก็ตอกกลับอย่างไม่รู้ตัว “ใครบอกว่าคุณไม่เคยหลอกฉัน แล้วระหว่างคุณกับซูเจวียนนี่มันยังไงกัน”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังสวี่ม่ายซุ่ยพูดถึงซูเจวียนขึ้นมาอีก เขาก็ปวดศีรษะจนต้องนวดขมับ “ผมกับหล่อนไม่ได้มีอะไรต่อกัน ก็แค่คนหมู่บ้านเดียวกัน”
สวี่ม่ายซุ่ยทำเสียงฮึดฮัด “ไม่มีอะไรงั้นเหรอคะ หล่อนก็แค่ตัวติดกับคุณสินะคะ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “หล่อนตัวติดผมแล้วเกี่ยวอะไรกับผม อีกอย่างผมก็ปฏิเสธหล่อนไปชัดเจนแล้ว”
สวี่ม่ายซุ่ย “เหลวไหล ถ้าคุณปฏิเสธหล่อนไปชัดเจนแล้วจะให้หล่อนมากินข้าวบ้านเราทำไม?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ก็มันไม่มีทางเลือกแล้วนี่ เป็นคนหมู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น ผมไม่ใช่พวกที่แม้แต่ข้าวมื้อเดียวก็ไม่ให้คนอื่นหรอกนะ”
สวี่ม่ายซุ่ยหัวเราะเยาะ “เรื่องนี้แหละที่คุณไม่ชัดเจน และไม่ใช่แค่คุณที่ไม่ชัดเจนนะ พ่อคุณ แม่คุณ น้องชายน้องสาวพวกนั้นของคุณก็ไม่ชัดเจนเหมือนกันทั้งหมด”
หลินเจี้ยนเยี่ยเห็นสวี่ม่ายซุ่ยโกรธจนเหมือนปลาปักเป้าพองลมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจากที่เธอทำตัวดี ๆ อยู่ถึงกลายมาเป็นแบบนี้อีก ทำได้แค่ตอบกลับอย่างจนใจ “ได้ ได้… ต่อไปนี้ผมจะชัดเจนแน่นอน”
สวี่ม่ายซุ่ยไม่เชื่อว่าเขาจะยอมรับ เธอกลอกตาแล้วสาวเท้ากลับบ้าน
เดินไปไม่กี่ก้าวเธอก็ค่อย ๆ เข้าใจขึ้นมาว่าที่จริงแล้วหลินเจี้ยนเยี่ยไม่เคยโกหก ในเมื่อเขาพูดว่าเขาโผล่หัวมาแล้ว เขาโผล่มาแบบไหนกัน ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนที่เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ หลินเจี้ยนเยี่ยจู่ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา “นี่! คุณคิดอะไรน่ะ”
เสียงที่อยู่ ๆ ก็ดังขึ้นมาทำให้สวี่ม่ายซุ่ยตกใจ หัวใจเต้นรัวอยู่ในอก ตะโกนต่อว่าดังลั่น “คุณบ้าหรือเปล่า ทำฉันตกใจแทบตาย”
หลินเจี้ยนเยี่ย….
นี่เขาโน้มน้าวเธอมากไปหรือเปล่า มากจนทำให้ภรรยาเขาเปลี่ยนนิสัยแบบกลับตาลปัตร
ตอนนี้เองที่อยู่ ๆ สวี่ม่ายซุ่ยก็มองเขา แล้วถามด้วยสีหน้าสงสัยอย่างหนัก “ที่คุณบอกว่าคุณโผล่มาช่วยฉัน คุณโผล่มาตอนไหน?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณไม่ต้องคิดมากแล้ว ยังไงผมก็ไม่หาเรื่องทั้งที่ยังใส่ชุดทหารอันทรงเกียรตินี่หรอก”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังแล้วหน้าซีดขาวทันที
เธอนึกออกแล้ว ตั้งแต่ที่หลินเซียวเปลี่ยนเป็นคนฉุนเฉียว เขาเคยทะเลาะกับลูกกรรมการพรรคโฮ่วอยู่ครั้งหนึ่ง
ลูกของกรรมการพรรคโฮ่วโตกว่าหลินเซียวอยู่ไม่กี่ปี ปกติเขาจะติดตามพ่อเขาไป ไม่ค่อยได้วางอำนาจบาตรใหญ่บนเกาะ ตอนนั้นหลินเจี้ยนเยี่ยไม่ได้พูดอะไร ต่อมาลูกบ้านกรรมการพรรคก็ขาหักไปข้างหนึ่ง ตั้งแต่นั้นหลินเจี้ยนเยี่ยก็ไม่เคยได้เลื่อนขั้นอีกเลย
เห็นชัด ๆ เลยว่าตอนนั้นเขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่อายุน้อยที่สุดบนเกาะ แต่การเลื่อนขั้นแต่ละครั้งกลับไม่มีเขา
คิดมาขนาดนี้เธอก็เข้าใจทันทีว่าทำไมชีวิตก่อนหลินเจี้ยนเยี่ยถึงได้หยุดอยู่ที่หัวหน้ากองพัน
สวี่ม่ายซุ่ยจับแขนหลินเจี้ยนเยี่ยอย่างกระตือรือร้นแล้วพูดเสียงเบา “ต่อไปนี้ฉันจะจัดการเรื่องพวกนี้เอง คุณไม่ต้องยุ่งแล้ว”
หลินเจี้ยนเยี่ยเห็นเธอเป็นแบบนั้นก็มองด้วยความสงสัย “คุณเป็นอะไรไป?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันจะเป็นอะไรได้ล่ะ ก็แค่คิดว่าต่อจากนี้ไปเรื่องพวกนี้ฉันจัดการเองได้ คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณจะจัดการได้จริง ๆ เหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ยเลิกคิ้ว ตอบกลับอย่างอวดดี “แน่นอนสิ ที่ฉันจัดการอยู่ไม่กี่วันนี้คุณไม่พอใจเหรอ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “พอใจสิพอใจ”
สวี่ม่ายซุ่ย “นี่ก็ไม่ต่างกันหรอก”
ทั้งสองคนพูดไปด้วยเดินไปด้วย มือของสวี่ม่ายซุ่ยวางอยู่ที่ข้อพับของหลินเจี้ยนเยี่ยโดยไม่รู้ตัว
พอใกล้จะถึงทางเข้าหมู่บ้าน จู่ ๆ หลินเจี้ยนเยี่ยก็หยุดเดินแล้วมองสวี่ม่ายซุ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
สวี่ม่ายซุ่ยตะลึงไปชั่วขณะ เผลอลูบหน้าอย่างไม่รู้ตัว “หน้าฉันมีอะไรติดอยู่เหรอ?”
หลินเจี้ยนเยี่ยส่ายหน้า มองมือที่อยู่ตรงข้อพับแล้วพูดว่า “ปล่อยมือ ในหมู่บ้านคนเยอะ เดี๋ยวมันจะกระทบในทางไม่ดี”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็เข้าใจทันที นี่คงกลัวว่าตัวเองไปดึงเขาแล้วจะทำให้เขาดูไม่ดี
เธอโกรธจนรีบจับแขนเขาไว้แล้วตอบกลับ “ก็ฉันไม่ปล่อย คุณเป็นผู้ชายของฉัน ไม่ใช่สามีที่ฉันไปขโมยมา ฉันจะปล่อยมือทำไม?”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็ตอบกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พูดจาไร้สาระอะไร ใครคือสามีที่คุณขโมยมา”
สวี่ม่ายซุ่ย “ถ้าไม่ใช่สามีที่ฉันขโมยมา แล้วทำไมไม่ให้ฉันจับ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “นี่ไม่ใช่ว่าจะกระทบในทางไม่ดีเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “กระทบ? มีผลกระทบอะไร?”
พอคำพูดนั้นปล่อยออกมา ก็เห็นหลินเจี้ยนเยี่ยดึงมือออกจากมือสวี่ม่ายซุ่ยอย่างรวดเร็ว เขาแบกกระสอบวิ่งตรงไปที่บ้านอย่างบ้าคลั่ง
สวี่ม่ายซุ่ยที่โกรธอยู่ต่อมาก็มีความสุข ชีวิตก่อนคนทั้งคู่ใช้ชีวิตได้จืดชืดมาก ในเมื่อได้เริ่มใหม่อีกชาติ ต้องใช้ชีวิตดั่งใจต้องการให้ได้
หลินเจี้ยนเยี่ยเดินไปข้างหน้ารวดเร็วอย่างกับบินได้ ส่วนสวี่ม่ายซุ่ยเดินตามเขาไปอย่างเชื่องช้า
ตอนที่เดินผ่านกลุ่มคน คนที่ชอบวุ่นวายเรื่องชาวบ้านเห็นสวี่ม่ายซุ่ยยังไล่ถามตามมา “แม่หลินเซียว นี่กลับไปบ้านแม่อีกแล้วเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “อืม ไม่มีอะไรหรอก กลับไปเยี่ยมน่ะ”
“หัวหน้ากองหลินเพิ่งไปเมื่อกี้เอง ทำไมพวกเธอสองคนไม่มาด้วยกัน”
สวี่ม่ายซุ่ย “เขาเดินเร็ว ฉันเดินช้าตามไม่ทัน นี่พวกเธอกินข้าวกันเสร็จแล้วเหรอ?”
ชาวบ้าน “กินเสร็จแล้วก็เลยมานั่งเล่นตรงนี้ไง เธอก็มานั่งด้วยกันสิ”
สวี่ม่ายซุ่ย “บ้านฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย ฉันต้องกลับไปทำกับข้าว คงไม่นั่งแล้ว”
ชาวบ้าน “ได้ ได้ กลับระวัง ๆ ด้วย”
สวี่ม่ายซุ่ยเพิ่งจะเดินไป กลุ่มคนด้านหลังก็รอไม่ไหวที่จะพูดคุยกัน
แม่วั่งไฉ “เห็นรึยัง แม่หลินเซียวไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
แม่เถี่ยจู้ “ไม่เหมือนเดิมแล้วจริง ๆ แต่ก่อนเห็นเราพูดกันก็ไม่กล้าพูด นึกไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้จะกล้าพูดคุยกับเราด้วย เมื่อวานแม่หงอีบอกฉัน ฉันก็ยังไม่เชื่อ”
แม่วั่งไฉ “ได้ยินว่าเป็นเพราะถูกจางหงเหมยยั่วยุ”
แม่เถี่ยจู้ “ยั่วยุขนาดนี้กลายเป็นว่าดีเฉยเลย คนก็ดูธาตุแท้กันออกแล้ว พูดกันอย่างใจเปิดใจดีกว่า”
แม่วั่งไฉ “ใช่! ถ้าให้ฉันพูด หลินเจี้ยนเยี่ยควรเอาของไปขอบคุณจางหงเหมย ถ้าไม่ได้หล่อน แม่หลินเซียวคงไม่เปลี่ยนเป็นแบบนี้”
แม่เถี่ยจู้ฟังจบก็หัวเราะ “พอได้แล้วเธอ เธอไม่กลัวพวกเขาตีกันรึไง แต่จะว่าไป กระสอบที่พวกเขาแบกมาใส่อะไรไว้กันนะ ของเยอะจนตุงเลย”
ภรรยาหมาจื่อ “ยังจะเป็นอะไรได้ ก็ต้องเป็นเสบียงอยู่แล้วสิ! เธอไม่เห็นวันที่แม่หลินเจี้ยนเยี่ยมาเอาของบ้านพวกเขาไปหมดเหรอ ฉันได้ยินมาว่าแม้แต่ครีมบุปผาหิมะของสวี่ม่ายซุ่ย แม่ผัวหล่อนก็เอาไป”
แม่เถี่ยจู้ “แม่ของฉันที่เป็นแม่แท้ ๆ ยังไม่แค้นใครเท่านี้เลย”
ภรรยาหมาจื่อ “ใครว่าล่ะ แต่จะว่าไปแม่หลินเซียวก็หัวอ่อนไปหน่อยจริง ๆ หล่อนจะเอาก็ให้!”
แม่วั่งไฉ “งั้นถ้าไม่ให้แม่ผัว หล่อนจะทำยังไง?”
ภรรยาหมาจื่อฟังจบก็เบะปากตอบ “ถ้าเป็นฉัน ฉันก็จะไม่ให้ เงินสักเหมาก็อย่าได้คิดจะเอาไปจากมือฉัน”
ภรรยาหมาจื่อไม่ถูกกับแม่สามี คนบนเกาะนี้ต่างก็รู้กันหมด
แม่วั่งไฉ “เธอคิดว่าใครก็เป็นเหมือนเธอสินะ ร้ายกาจขนาดนี้”
ภรรยาหมาจื่อพูดเสียงเบา “พวกเธอรอดูเถอะ ฉันเห็นแม่หลินเซียวรอบนี้ดูเอาเรื่องอยู่นะ”
แม่เถี่ยจู้ “จริงหรือหลอกเนี่ย ทำไมฉันดูไม่ออก”
ภรรยาหมาจื่อ “จริงสิ เธอรอแม่สามีหล่อนมาอีกได้เลย ต้องมีอะไรน่าดูแน่”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่เยี่ยนี่ก็ แสดงความรักกับภรรยามีอะไรน่าอายฮึ? ทีกับนังบัวขาวซูเจวียนพี่ไม่เห็นออกอาการแบบนี้เลย
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION