ตอนที่ 17 กลับบ้านแม่
สวี่ม่ายเฉิงโดนสวี่ม่ายซุ่ยลากไป เขาลุกขึ้นจากร่างชายฟันเหลือง ยกมือขึ้นถูจมูก หายใจหอบพลางพูดว่า “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก”
ชายฟันเหลืองมองสวี่ม่ายเฉิงแล้วมองสวี่ม่ายซุ่ย ถึงได้ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาแล้ววิ่งโซซัดโซเซเข้าปากทางหมู่บ้านไป
สวี่ม่ายซุ่ยมองเงาของชายฟันเหลืองที่หนีหัวซุกหัวซุน หล่อนก็โกรธจนกัดฟันกรอด พลางพูดว่า “ใจดีกับมันเกินไปจริง ๆ อย่างมันควรส่งตัวให้ตำรวจ”
สวี่ม่ายเฉิงฟังจบก็ตกใจ พูดกับเธอว่า “พี่สาม พี่คิดอย่างนี้จริงเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็ผงกหัวด้วยความแน่วแน่
สวี่ม่ายเฉิง “งั้นผมจะไปจับมันกลับไปส่งตำรวจ จะได้กันไม่ให้มันไปทำร้ายคนอื่น”
ถ้าว่ากันตามนิสัยของเขา แน่นอนว่าต้องจับคนคนนี้ส่งตำรวจแน่ แต่คนที่โดนรังแกคือพี่สาวผู้ขี้ขลาดแล้วยังสนแต่ชื่อเสียง สวี่ม่ายเฉิงเลยไม่กล้าทำ
สวี่ม่ายซุ่ยมองชายฟันเหลืองที่วิ่งออกไปไกลนานแล้ว เธอถอนหายใจเบา ๆ พลางพูด “ครั้งนี้ก็ให้แล้วกันไป คนก็ไปตั้งไกลแล้ว”
สวี่ม่ายเฉิงฟังจบ ในใจก็ปรากฏความผิดหวังวูบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ด้านฝั่งหลินเซียวที่วิ่งมายังจุดที่ชายฟันเหลืองนอนอยู่เมื่อครู่ก้มเก็บธนบัตรขึ้นมาหนึ่งใบ “แม่ แม่ดู”
สวี่ม่ายซุ่ยรับไปดู ที่น่าประทับใจคือธนบัตรสิบหยวนสองใบ
เธอยิ้มอย่างดีใจ “อา… คนคนนี้เจอแล้วไม่เสียเที่ยวจริง ๆ… เอาไปเก็บไว้ซื้อไก่ให้พวกลูกดีกว่า”
สำหรับเงินที่คนจำพวกนั้นทำตกไว้ สวี่ม่ายซุ่ยไม่ได้ใจดีพอที่จะคืนให้
ขณะพูดเธอก็ล้วงธนบัตรใบละสิบหยวนออกมาให้สวี่ม่ายเฉิง “พวกเราคนละครึ่ง”
สวี่ม่ายเฉิงมองแล้วก็ปฏิเสธ “ผมมีเงินอยู่แล้ว พี่เก็บไว้ซื้อของให้พวกเขาเถอะ”
จากนั้นเขาก็หันไปพยุงจักรยานที่ล้มขึ้นมา “พี่สาม ทำไมมีเวลาว่างมาล่ะ”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นว่าเขาไม่รับจริง ๆ ก็เก็บเงินเข้ากระเป๋าเสื้อพลางตอบ “ฉันทอดข้าวเกรียบมา อยากส่งให้พวกนายสักหน่อย แล้วนี่นายจะไปทำอะไร?”
สวี่ม่ายเฉิงตอบ “ไปประชุมที่ตัวเมือง”
สวี่ม่ายเฉิงเป็นนักบัญชีในหมู่บ้าน ปกติถ้าสวี่ม่ายเถียนไม่อยากไปก็จะให้สวี่ม่ายเฉิงไป
“พี่ใหญ่ล่ะ?”
สวี่ม่ายเฉิง “พี่ใหญ่กำลังพาคนไปขุดมันฝรั่งที่สวน ดีที่พวกพี่มาพอดี มันฝรั่งที่แม่เราปลูกโตพอขุดได้แล้ว กำลังคิดว่าจะเอาไปให้พี่พอดี”
สวี่ม่ายซุ่ย “ที่บ้านก็มีแค่นั้น พวกนายเก็บไว้กินเองเถอะ!”
สวี่ม่ายเฉิงฟังจบก็ชำเลืองมองสวี่ม่ายซุ่ยด้วยความสงสัย เพราะทุกครั้งที่สวี่ม่ายซุ่ยกลับมาจะต้องอยากได้ของบางอย่างเสมอ ในบ้านไม่มีของอะไรที่เธอไม่อยากได้
ดีที่เธอไม่ขยันกลับมา ไม่อย่างนั้นใครก็รับไม่ไหว
สวี่ม่ายซุ่ยสัมผัสได้ถึงสายตาของสวี่ม่ายเฉิง ก็ยิ้มอย่างนึกขันพลางถาม “นายมองพี่ทำไม?”
สวี่ม่ายเฉิงลูบหัวอย่างซื่อ ๆ แล้วตอบกลับ “ทำไมผมรู้สึกว่าพี่ไม่เหมือนเดิม”
สวี่ม่ายซุ่ย “ตรงไหนที่ไม่เหมือนเดิม?”
สวี่ม่ายเฉิงคิดสักครู่แล้วตอบ “บุคลิกท่าทางไม่เหมือนเดิม เมื่อก่อนพี่ไม่ใช่คนช่างพูดขนาดนี้”
สวี่ม่ายซุ่ย “ที่นายพูดนั่นมันเมื่อก่อน ต่อไปนี้พี่สาวของนายก็คือฉันที่เป็นแบบนี้แหละ”
พูดจบเธอก็สาวเท้าไปข้างหน้า
สวี่ม่ายเฉิงตามหลังอยู่กับเด็กสองคน ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงถามหลินเซียวว่า “เกิดอะไรขึ้นกับแม่นาย?”
หลินเซียว “แม่ผมเป็นไข้ พอหายก็กลายเป็นแบบนี้เลย”
สวี่ม่ายเฉิงพึมพำด้วยความสงสัย “หรือว่าจะเป็นไข้จนสมองกลับ?”
หลินเซียว “น้าเล็ก น้าพูดอะไร?”
สวี่ม่ายเฉิงตอบ “ไม่มีอะไร พวกเธอสองคนมานี่ น้าจะพาไปเอง”
หลินเซียวกับหลินฟานได้ยินก็รีบตามสวี่ม่ายเฉิงไปทันที โดนเขาจับอุ้มขึ้นจักรยานทีละคน
“พี่ พี่ พี่รอผมด้วย” พูดไปก็ไล่ตามสวี่ม่ายซุ่ยไป
สองพี่น้องเดินกลับบ้านอย่างช้า ๆ พอถึงปากซอยก็เห็นหญิงอ้วนคนหนึ่งคล้องตะกร้าเดินมาหาพวกเขาด้วยท่าทางดุร้าย
สวี่ม่ายเฉิงเห็นก็รีบดึงสวี่ม่ายซุ่ยมาด้านข้าง
ก่อนที่สวี่ม่ายซุ่ยจะทันได้โต้ตอบ หญิงคนนั้นก็เดินมามองหน้าพวกเขา ทำเสียงฮึดฮัด กลอกตาแล้วจากไปอย่างโกรธเคือง
สวี่ม่ายซุ่ยถาม “หล่อนเป็นอะไรไป?”
สวี่ม่ายเฉิง “ก็เป็นเพราะพี่ใหญ่ของเราจัดการเรื่องขุดมันนี่แหละ แล้วเขาไม่ยอมให้หญิงอ้วนคนนี้ลงแปลง แต่จัดให้ทำความสะอาดคอกหมูแทน”
ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการเรื่องแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ ทุกคนล้วนทำงานร่วมกัน
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็ไม่เข้าใจ “ทำความสะอาดคอกหมูเร็วจะตาย ทำไมหล่อนไม่ชอบ?”
สวี่ม่ายเฉิงตอบ “บ้านหล่อนกำลังหาคู่ให้หล่อน ก็เลยอยากให้หล่อนไปขุดมันฝรั่ง เพราะข้อแรกจะได้มีแต้มทำงานเพิ่ม ข้อสองยังได้ลดน้ำหนัก ใครจะรู้ว่าพี่ใหญ่เราอะไรก็ไม่เอาทั้งนั้น คนเขาจะไม่โกรธได้ยังไง”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่ใหญ่เรานี่ก็จริง ๆ”
สวี่ม่ายเฉิง “ไม่ต้องพูดถึงแล้ว เรื่องนี้ทำให้เวลาคนบ้านเราเห็นเขาก็จะเดินเลี่ยงกัน แม่อยู่บ้านก็ด่าพี่ใหญ่อยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่ก็ไม่มีประโยชน์”
สวี่ม่ายซุ่ย “พี่ใหญ่ก็นิสัยอย่างนั้นแหละ เอาวัวแปดตัวมาลากก็กู่ไม่กลับ แล้วเอวของแม่เป็นยังไงบ้าง?”
สวี่ม่ายเฉิง “ไม่เป็นไรตั้งนานแล้ว แกยังอยากไปขุดมันอยู่เลย แต่พี่ใหญ่ไม่ให้ไป”
สองพี่น้องพูดกันไปไม่นานก็ถึงบ้าน ยังไม่ทันเข้าไป ก็ได้ยินเสียงอันอบอุ่น “สวี่ม่ายซุ่ยกลับมาแล้วเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ยหันกลับไปก็เห็นป้าจางเพื่อนบ้านอาวุโสกำลังยิ้มตาหยีมองเธอ จึงยกยิ้มมุมปาก “กลับมาแล้วค่ะ”
ป้าจาง “ที่บ้านไม่มีเสบียงอีกแล้วหรือ?”
สวี่ม่ายซุ่ยมองท่าทางสอบถามของนาง ในใจก็ทนไม่ไหว พูดออกมาว่า “กลับมาดูอาการแม่น่ะค่ะ พวกเราขอตัวก่อน”
พูดจบก็สาวเท้าไปที่ลานบ้าน
ป้าจางมองไปก็เบะปากใส่อย่างเหยียดหยาม พอเห็นสวี่ม่ายเฉิงที่ตามหลังมาก็กำชับอย่างไม่ไว้วางใจ “ม่ายเฉิง เธอต้องดูพี่สาวเธอดี ๆ นะ ลูกสาวที่แต่งออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป วัน ๆ เอาแต่มาขอเงินบ้านแม่นี่มันหมายความว่าอะไรกัน?”
สวี่ม่ายเฉิงฟังจบก็หน้าบึ้งตึง ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “ป้าจาง ลูกสาวบ้านป้าต่างหากคือน้ำที่สาดออกไป แต่พี่สาวผมไม่ใช่” พูดจบก็เอาจักรยานไปไว้ที่ลานบ้าน
ป้าจางมองแผ่นหลังของสวี่ม่ายเฉิง สีหน้าพลันมืดมน ก่อนถ่มน้ำลายออกมา “ถุย ไม่รู้จักคุณคนแล้วยังแว้งกัดอีก”
สวี่ม่ายซุ่ยเข้าไปในลานบ้านได้ไม่ทันไร แม่สวี่ก็พุ่งเข้ามาหา “ทำไมพวกลูกถึงว่างมาได้ล่ะ?”
สวี่ม่ายซุ่ยตอบ “คิดถึงแม่ก็เลยแวะมาดู”
แม่สวี่ไม่คิดว่าสวี่ม่ายซุ่ยจะตอบแบบนี้ก็ตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะถูกหลินเซียวดึงสติกลับมา
“เด็กดีของยายเป็นอะไร ไปโดนใครเขาตีมาลูก?”
หลินเซียวเห็นสีหน้าเจ็บปวดของแม่สวี่ก็ยิ้มอย่างเชื่อฟัง “ยาย ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ มันไม่เจ็บแล้ว ยายไม่ต้องกังวล”
แม่สวี่ฟังแล้วเจ็บปวดกว่าเดิม อดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่สวี่ม่ายซุ่ย
“แม่หลานใช่ไหมที่ให้พูดแบบนี้ พันหัวซะขนาดนี้จะไม่เจ็บได้ยังไง? แล้วใครมันเป็นคนทำ แม่หลานได้จัดการให้หลานไหม เล่าให้ยายฟังที ยายจะไปจัดการให้หลานเอง จะไปทักบรรพบุรุษมันแปดชั่วโคตรเลย กล้ามารังแกหลานฉัน คิดว่าบ้านสวี่ไม่มีใครรึไง”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังคำพูดโกรธเคืองของแม่สวี่ก็อธิบายอย่างจนใจ “แม่ ไม่มีใครทำร้ายเขาหรอกค่ะ เขาเล่นกันกับเพื่อนจนได้รับบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
วีรกรรมตอนชาติที่แล้วของม่ายซุ่ยน่าจะเลื่องลือไม่ใช่น้อยนะเนี่ย ขนาดคนบ้านแม่ยังดูแคลน
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION