ตอนที่ 127 สนับสนุน
ยามชายหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยพลังเกิดหัวร้อนขึ้นมา เขาก็ไม่ใช่บุคคลที่น้าใหญ่ตระกูลหลินจะรับมือได้ ทำให้อีกฝ่ายเผลอถอยไปหนึ่งก้าวพลางฝืนตอบ “นาย…นายคิดจะทำอะไร”
สวี่ม่ายเฉิงได้ฟังก็ถือพลั่วเล็งไปที่น้าใหญ่หลิน ตอบเสียงเหี้ยมเกรียม “ก็แกตบพี่สาวฉัน”
“พี่ มันใช้มือข้างไหนตบพี่ ผมจะได้ฟาดมือข้างนั้นให้มันหัก”
น้าใหญ่หลินได้ฟังก็ร้อนรน “ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจ เป็นหล่อนที่มาชนฉันเอง”
“น้าเล็ก เขาพูดเหลวไหล เขานั่นแหละที่ตบแม่ผม” หลินเซียวที่ไม่รู้ปรากฏตัวตอนไหนพลันโพล่งขึ้นมา
น้าใหญ่หลินเห็นคำโกหกของตนถูกเปิดโปงก็ร้อนรนทันที หันไปพูดกับหลินเจี้ยนกั๋วว่า “เจ้าใหญ่ ในฐานะที่แกเรียกเรามา แกมาจัดการเรื่องนี้ที”
เมื่อเห็นว่าหมดหนทาง หลินเจี้ยนกั๋วจึงทำได้แค่ยืนขึ้นมา เห็นกลุ่มคนในสถานการณ์ตึงเครียด ในใจก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิน้าใหญ่หลินว่าทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือ
“พี่น้องบ้านสวี่ เธอเห็นไหมว่าลุงฉันก็ไม่ได้ตั้งใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ”
สวี่ม่ายซุ่ยทำเสียงฮึดฮัด “งั้นเรื่องที่ตบหน้าฉันไปนี่จะบอกว่าให้แล้วกันไปงั้นเหรอ? ฉันว่าไม่มีทางอื่นแล้วล่ะ ถ้าเขาไม่ตบตัวเองก็ต้องให้ฉันตบกลับ”
น้าใหญ่หลินฟังจบก็พลันเก็บสีหน้าไม่อยู่ โพล่งออกมา “ยัยเด็กเมื่อวานซืน ฉันอุตส่าห์ไม่อยากถือสาหาความกับเธอแท้ๆ เธออย่าได้ล้ำเส้นนัก”
“ฉันเป็นน้าเขา ตบเธอฉาดหนึ่งจะเป็นไรไป”
สวี่ม่ายเฉิง “ถุย บ้านเราไม่มีญาติแบบแก แกมีปัญญาทำร้ายคนก็อย่ามัวแต่หดหัวซ่อนตัวข้างหลัง ออกมาฉะกับเราหน่อย” เขาว่าพลางถือเส้นลวดมาด้านหน้า
ตอนที่สงครามกำลังปะทุตึงเครียดนี้เอง สวี่ม่ายเถียนก็พาคนมา พลางตำหนิสวี่ม่ายเฉิงว่า “เจ้าสี่ อย่าพูดเหลวไหล”
สวี่ม่ายเฉิงเห็นพี่ชายเข้ามาก็ทำเสียงฮึดฮัด ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่หน้าสวี่ม่ายซุ่ย
หลินเจี้ยนกั๋วรู้ว่าสวี่ม่ายเถียนเป็นคนรักหน้าตาก็เริ่มฟ้องทันที “พี่ใหญ่สวี่ พี่มาจนได้ รีบไปคุมน้องชายพี่ที มีอย่างที่ไหนพูดกับผู้อาวุโสแบบนี้”
ใครจะรู้ว่าสวี่ม่ายเถียนไม่ตอบรับเขาสักนิด กลับพูดว่า “ผู้อาวุโส เรียกใครว่าผู้อาวุโสเหรอ?”
“คนแซ่หลินอย่างพวกแกปกติก็รังแกน้องสาวฉันขนาดนี้ ทำอย่างกับบ้านสวี่เราไม่มีคนอยู่จริงๆ”
ยายเฒ่าหลินเห็นพี่น้องตัวเองกับลูกชายเสียเปรียบ ก็เริ่มเอะอะโวยวาย “พา…พาฉันไป”
หลินเจี้ยนเฉ่าที่ร้อนใจเหมือนไฟสุมอยู่นานแล้วได้ยินคำพูดแม่เฒ่าหลินก็รีบพยุงสะใภ้ใหญ่หลินพุ่งเข้าไป
“ถอยหน่อย ถอยหน่อย” ทั้งสามพุ่งเข้าไปหน้ากลุ่มคน
หลินเจี้ยนเฉ่าเห็นสวี่ม่ายเถียนยิ้มหยันปลอมๆให้ จึงพูดเหน็บว่า “พี่น้องบ้านสวี่ แม่นายคงไม่ใช่ว่าแม้แต่การรักเคารพเด็กและผู้อาวุโสก็คงไม่ได้สอนหรอกนะ”
หล่อนว่าพลางเดินอ้อมเขาเข้าไปในบ้าน
สวี่ม่ายเถียนที่ฟังอยู่ตลอดก็ระเบิด ขยับไปด้านข้าง บังพวกหล่อนพอดี จากนั้นก็หันไปพูดกับสวี่ม่ายเฉิง “ไปเอาเก้าอี้มาให้เรา”
สวี่ม่ายเฉิงเห็นพี่ใหญ่โมโหแล้ว ก็รีบเข้าไปหยิบเก้าอี้ในบ้านมาให้ประหนึ่งสุนัขรับใช้ วางไว้ด้านหลังสวี่ม่ายเถียนอย่างนอบน้อม
“พี่ เชิญนั่งครับ”
สวี่ม่ายเถียนมองไปด้านหลัง นั่งลงตรงนั้นอย่างไม่ยี่หระ สวี่ม่ายเฉิงกับพี่น้องและสะใภ้สองสามคนรีบไปยืนด้านหลังสวี่ม่ายเถียน เดินกร่างตรงไปปิดทางอย่างแน่นหนา
หลินเจี้ยนเฉ่าโกรธจนหน้าเขียว “พี่น้องบ้านสวี่ นี่พวกคุณจะทำอะไร”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นพี่น้องบ้านแม่ตัวเองนั่งขวางประตูบ้านกันหมดก็หันไปพูดกับหลินเซียว “ไปเอาเก้าอี้มาอีก”
หลินเซียวได้ฟังก็วิ่งเข้าไปในห้อง หลินเจี้ยนจวินเห็นก็ตามไปเงียบๆ
สวี่ม่ายเถียน “ไม่มีอะไร พวกเธอบ้านหลินรังแกน้องสาวเรา วันนี้ยังไงก็ต้องอธิบายมา”
หลินเจี้ยนเฉ่า “ใครรังแกหล่อน”
สวี่ม่ายเถียน “เมื่อกี้นี้ไงล่ะ ใครมันเป็นคนตบหน้าหล่อน?”
หลินเจี้ยนเฉ่าตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “น้าใหญ่เป็นคนทำ ตบแบบนั้นถือว่าไว้ว่าหน้าหล่อนแล้ว เป็นสะใภ้ไม่รู้จักกตัญญูต่อแม่ผัวก็ควรโดนทุบตี”
คำพูดนี้เพิ่งจะออกมาก็มีเสียงดัง “เพียะ” สะใภ้ใหญ่สวี่ที่ไม่รู้พุ่งตัวออกมาจากไหน ได้ตรงไปตบหน้าหลินเจี้ยนเฉ่า
“หมาบ้านนั้นมาเห่าที่นี่ คงไม่มีใครดูแลสินะ”
หลินเจี้ยนเฉ่าที่ไม่เคยเสียเปรียบขนาดนี้ก็ปรี๊ดแตกทันที “นังนรกส่งมาเกิด แกกับฉันขาดกัน”
สะใภ้ใหญ่สวี่มองหล่อนอย่างเย็นชา ต่อว่าอย่างไม่สบอารมณ์ “ก็ลองดู”
สะใภ้ใหญ่สวี่ออกแรงลงแปลงตลอดปี รูปร่างสูงใหญ่ ใช่คนที่มือใหม่อย่างหลินเจี้ยนเฉ่าจะทุบตีได้ที่ไหน ต่อให้เกลียดแทบตายแต่หล่อนก็ไม่กล้าเป็นฝ่ายลงมือ
“พวกหล่อนบ้านสวี่อบรมกันมาแบบนี้เหรอ แกเชื่อไหมล่ะว่าฉันจะให้น้องชายฉันหย่ากับหล่อนได้”
สะใภ้ใหญ่สวี่ “งั้นก็ดี เห็นน้องสาวอยู่ในครอบครัวนรกของพวกเธอแล้ว ฉันก็แทบอยากจะพาน้องสาวฉันออกไปเดี๋ยวนี้”
“ไหนบอกสิว่าผู้หญิงแต่งงานออกไปแล้วอย่างแกแต่ขยันมาสร้างเรื่องที่บ้านบ่อยๆ นี่ไม่กลัวคนด่ามั่งหรือไง อ้อ ฉันลืมไปว่าแกกลับมาอยู่บ้านเดิมแล้ว ไม่งั้นแกคงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการที่แม่แกเอารัดเอาเปรียบน้องสาวฉันหรอก”
“ถุย สุนัขชั่วแต่ละตัว แต่ก่อนก็อาศัยว่าน้องสาวฉันรังเเกได้ง่าย แย่งของหล่อนแย่งเงินหล่อน ตอนนี้ยายเฒ่านอนเป็นผักก็คิดจะให้น้องสาวฉันไปปรนนิบัติ ฉันจะบอกอะไรแกให้ ต่อให้หล่อนรับปาก ฉันก็ไม่รับปากอะไรทั้งนั้น มีสิทธิ์อะไรล่ะ! ตอนที่ยายเฒ่าทำงานได้ วิ่งได้ กระโดดได้ก็อยู่กับเธอ แต่พอเป็นอัมพาตขยับไม่ได้ก็มาหาน้องสาวฉัน ฝันไปเถอะ”
“ทำอย่างกับบ้านแม่หล่อนไม่มีคน ฉันจะบอกแกให้ วันนี้ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้รับการไกล่เกลี่ยทางกฎหมาย พวกเขาจะต้องหย่ากัน น้องสาวฉันกับลูกต้องไปกับเรา ส่วนแกอยากให้ใครปรนนิบัติก็ปรนนิบัติไป”
สะใภ้ใหญ่หลินเห็นหลินเจี้ยนเฉ่าโดนด่าจนพูดไม่ออกก็รีบเข้าไปพูด “สะใภ้บ้านสวี่ เธอพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก พวกเรามาครั้งนี้คือปรึกษากันสามคนพี่น้อง แต่ว่าหล่อนไม่เห็นด้วย”
สวี่ม่ายซุ่ย “พี่สะใภ้ หล่อนบอกว่ายายเฒ่าหลินนอนโรงพยาบาลจ่ายไปเก้าพันหยวน ให้เราเฉลี่ยแบ่งกัน ฉันกับเจ้าสี่ให้หล่อนไปหกพัน ที่สำคัญคือใบเสร็จอะไรหล่อนก็ไม่มี”
สะใภ้ใหญ่สวี่ดูแลครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก ปัญหาใหญ่เรื่องอะไรไม่เคยพบมาก่อน ก็พ่นเสมหะออกมาใส่หน้าสะใภ้หลินทันที “ถุย เก้าพันหยวน ทำไมแกไม่บอกว่าแกจ่ายไปเก้าหมื่นหยวนเลยล่ะ บ้านแกที่คิดร้ายแบบนั้น แกจ่ายให้หล่อนไปเก้าพันหยวนก็ดีถมเถแล้ว”
สะใภ้ใหญ่สวี่เข้าใจความคิดคนบ้านหลินทันทีโดยไม่ต้องเอ่ย ยายเฒ่าหลินนอนโรงพยาบาลสามวันจ่ายไปเก้าสิบหยวน ก็ถูกเจ้าหลินคนโตลากกลับบ้าน ไม่งั้นคงไม่เป็นหนักขนาดนี้
สะใภ้ใหญ่หลิน “เธอพูดอะไรกัน พวกเธอบ้านสวี่ไม่ยอมรับใช่ไหม รอฉันก่อนเถอะ ฉันจะไปหาหัวหน้าเดี๋ยวนี้”
สะใภ้ใหญ่สวี่พูดอย่างไม่เกรงกลัวสักนิด “หาก็หา พอดีเลยฉันจะได้บอกหัวหน้าว่าพวกเธอบ้านหลินทำเรื่องชั่วช้าอะไรไว้บ้าง นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังทำเหมือนยุคศักดินาแต่ก่อนอยู่อีก คงคิดว่าแม่สามีเป็นเทพเจ้าจริงๆ สินะ ถุย”
ตอนที่ทั้งสองกำลังทะเลาะกันอย่างดุเดือดอยู่นี้เอง ผู้บังคับการโหวก็พาพวกจ้าวเป่ากั๋วสองสามคนเข้ามา “ทะเลาะอะไรกัน?”
สะใภ้ใหญ่หลินกับหลินเจี้ยนเฉ่าเห็นหัวหน้ามาก็เปลี่ยนสีหน้า ทำเป็นร้องไห้ใจจะขาด หันไปโผใส่เขาทันที “หัวหน้า คุณมาจนได้”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
มารยาจริงๆ คนบ้านหลิน ถ้ามันวุ่นวายนักก็ให้ม่ายซุ่ยหย่าขาดจากคนบ้านนี้เถอะ
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION