ตอนที่ 111 หาเฉียนเสี่ยวเหลียนเพื่อให้จ่ายชดเชย
เดิมทีสวี่ม่ายซุ่ยเตรียมจะกลับบ้านไปทำกับข้าว พอได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่กลับแล้ว รีบเข้าไปถามอย่างตื่นเต้น “เกิดอะไรขึ้น”
ภรรยาเถี่ยจู้เห็นสวี่ม่ายซุ่ยเข้ามาก็ตอบกลับเธอด้วยอาการกระซิบกระซาบ “ได้ยินว่าเป็นเพราะเรื่องสินสอด เลยตีกันขึ้นมา เฉียนเสี่ยวเหลียนต้องการสินสอดหนึ่งพันหยวน แต่ป้าหวังอู่ไม่เห็นด้วย”
ภรรยาหมาจื่อ “เห็นด้วยก็แปลกแล้ว ตอนพวกเราแต่งงานกันนี่เรียกสินสอดแค่สองร้อย หล่อนกลับจะเอาถึงหนึ่งพัน ทำอย่างกับลูกสาวตัวเองเป็นเทพเซียนอย่างนั้นแหละ”
ภรรยาเถี่ยจู้ “ไม่น่าใช่เทพเซียนล่ะมั้ง”
“เธอรู้ไหมว่าแม่หวังอู่เตรียมสินสอดไว้เท่าไร”
สวี่ม่ายซุ่ย “เท่าไรล่ะ”
ภรรยาเถี่ยจู้ “เฟินเดียวก็ไม่ให้ แถมยังอยากให้แม่ต้าเฉียงช่วยจ่ายอีก พูดยังไม่ทันจบก็ถูกแม่ต้าเฉียงไล่ทุบตีออกไป”
“ป้าหวังอู่ก็ใจนักเลงอยู่พอตัว เอะอะกันตรงนั้นเลยว่าซุ่ยซุ่ยโดนหลานชายเขาหลับนอนด้วยแล้ว ดูซิใครจะกล้าแต่งหล่อน พูดจบก็พาหวังอู่เดินกร่างออกไป จนเฉียนเสี่ยวเหลียนโกรธและด่าพวกเขาตามหลังว่าคางคกอยากกินห่านฟ้า”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็สะท้อนใจมาก ใครจะคิดว่าเฉียนเสี่ยวเหลียนที่คิดร้ายมาจะโดนคิดร้ายกลับ สุดท้ายดันมาเจอบ้านนี้
“นักบัญชีสวี่ น้องสามีบ้านเธอเป็นยังไงบ้าง” ภรรยาเถี่ยจู้มองสวี่ม่ายซุ่ย ถามอย่างใคร่รู้
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่เป็นไร ได้อาบน้ำเย็นก็ดีขึ้นแล้ว”
ภรรยาหมาจื่อยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “น้องชายสามีเธอร่างกายแข็งแรงดีมากนะ กินยาเดรัจฉานแล้วยังลุกขึ้นมาได้ เธอไม่ได้ให้เฉียนเสี่ยวเหลียนชดเชยให้เธอสักนิดเหรอ”
คราวนี้สวี่ม่ายซุ่ยถึงได้สติกลับมา เมื่อวานเธอแค่ให้เฉียนเสี่ยวเหลียนจากไป ไม่ได้พูดเรื่องค่าชดเชยเลย
“ขอบใจมาก” สวี่ม่ายซุ่ยพูดพลางลุกขึ้น จากนั้นก็เตรียมจะไปคิดบัญชีกับเฉียนเสี่ยวเหลียน
ภรรยาหมาจื่อเห็นแผ่นหลังที่รีบร้อนจากไปของสวี่ม่ายซุ่ยก็พูดกำชับอย่างไม่วางใจ “เธออย่าลืมล่ะ ที่ฉันให้เธอไปทำ”
สวี่ม่ายซุ่ย “วางใจเถอะ ไม่ลืมหรอก”
อึดใจเดียวก็มาถึงบ้านเฉียนเสี่ยวเหลียน เมื่อเห็นประตูลานบ้านลงกลอนแน่นสนิท สวี่ม่ายซุ่ยก็ไม่ได้เกรงใจ ตรงไปเคาะอย่างแรง
“เฉียนเสี่ยวเหลียน!”
“เฉียนเสี่ยวเหลียน!”
เคาะอยู่สามครั้งถึงมีคนเปิดประตูออกมา ก็เห็นเฉียนเสี่ยวเหลียนที่หัวฟูอย่างกับรังนกมองมาที่เธอด้วยท่าทางเหนื่อยล้า “เธอมาทำอะไร?”
สวี่ม่ายซุ่ยก็พูดตรง ๆ อย่างไม่เกรงใจ “มาหาเธอเรื่องเงินชดเชย”
เฉียนเสี่ยวเหลียน “จ่ายค่าชดเชยให้เธอเรื่องอะไร?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ค่ารักษาพยาบาล เธออย่าบอกนะว่าเธอไม่ใช่คนวางยาของเจี้ยนจวิน คนที่ทำเรื่องพวกนี้ได้บนเกาะนี้มีไม่กี่คนหรอก ถ้าเธอไม่ยอมรับฉันจะไปหาหลิวไห่”
เรื่องตอนเย็นเมื่อวานแพร่กระจายไปทั่วเกาะเรียบร้อยแล้ว หลิวไห่ในฐานะหัวหน้าครอบครัวของเฉียนเสี่ยวเหลียนกับหลิวซุ่ยไม่มีหน้าตาและศักดิ์ศรีเหลืออีกต่อไป
และในฐานะทหารคนหนึ่ง เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อเขาหนักที่สุด
“สวี่ม่ายซุ่ย เธออย่ามาบีบบังคับคนให้จนตรอกเลย” เฉียนเสี่ยวเหลียนถลึงมองสวี่ม่ายซุ่ยจนตาแทบแตก
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นท่าทางบ้าคลั่งของหล่อนก็ตอบกลับอย่างใจเย็น “ถ้าเธอไม่ได้โลภเกินไป คิดร้ายจนเกินไป เรื่องคงไม่ถึงขนาดนี้แท้ ๆ”
เฉียนเสี่ยวเหลียนที่เดิมทีโกรธเป็นปลาปักเป้าพองลมได้ยินคำพูดนี้ก็มีท่าทางสลดลง “เธอจะเอาเท่าไร?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ค่าทำขวัญบวกค่ารักษาพยาบาล หนึ่งร้อยหยวน”
เฉียนเสี่ยวเหลียน “ทำไมเธอไม่มาปล้นไปเลยล่ะ เมื่อวานหมอที่ตรวจให้หลินเจี้ยนจวินไม่ได้เรียกเงินสักแดง”
สวี่ม่ายซุ่ยหัวเราะเยาะ “เธอก็พูดได้ไม่อายปากเลยนะ ยาอะไรที่เธอวางเธอยังไม่รู้แน่นอนเลย ของนั่นมันฤทธิ์ร้ายกาจขนาดไหน แค่นั่งกินลมตะวันตกเฉียงเหนือแล้วมันคงจะหายหรอกนะ”
“เธอจะให้ไม่ให้ ถ้าเธอไม่ให้ฉันก็จะไปหาหลิวไห่
แม้เฉียนเสี่ยวเหลียนจะโกรธแทบตาย แต่เพื่ออนาคตของหลิวไห่ก็ทำได้แค่กล้ำกลืนฝืนทน กลับไปหยิบธนบัตรรูปประชาชนสามัคคีมูลค่าสิบหยวน*[1]จำนวนสิบใบมาให้เธอ
“อืม”
สวี่ม่ายซุ่ยรับเงินมานับพลางพูด “ในเมื่อทุกคนรู้เรื่องหลิวซุ่ยบ้านเธอหมดแล้ว เธอยังจะกลัวอะไร เห็นว่าสำนักสันติบาลเป็นแค่ไม้ประดับงั้นเหรอ” พูดคำนี้จบสวี่ม่ายซุ่ยก็หันหลังกลับไปโดยไม่เหลียวมามอง
เฉียนเสี่ยวเหลียนมองแผ่นหลังที่จากไปของสวี่ม่ายซุ่ย นิ่งงันอยู่สักพัก ก็หันไปมัดผมพลางพูด “แม่มันสิ! ถ้ามันไม่ให้เงินฉัน ฉันก็จะส่งมันไปนอนห้องกรง!”
สวี่ม่ายซุ่ยเดิมทีไม่อยากเตือนหล่อน แต่ในฐานะผู้หญิงแล้วก็รู้สึกว่าเดรัจฉานอย่างหวังอู่สมควรได้รับการลงโทษ สุดท้ายเหตุผลก็อยู่เหนืออารมณ์ เลยเตือนเฉียนเสี่ยวเหลียนสักหน่อย
ใครจะรู้ว่าคำเตือนของเธอไม่ได้ส่งหวังอู่ไปเข้าคุก แต่กลับส่งหลิวซุ่ยไปยังบ้านอันยากจนข้นแค้นของหวังอู่ จนสวี่ม่ายซุ่ยที่ได้ยินข่าวการแต่งงานของทั้งสองคนในภายหลังยังนึกสะท้อนใจ
สวี่ม่ายซุ่ยไม่ได้เก็บเงินนี้ไว้ กลับบ้านไปก็เอาให้หลินเจี้ยนจวิน เขามองเงินที่เธอส่งมาให้ ถามอย่างสับสนว่า “พี่สะใภ้ นี่พี่ทำอะไร”
สวี่ม่ายซุ่ย “นี่คือเงินที่เฉียนเสี่ยวเหลียนให้นายไปบำรุงรักษาร่างกาย”
หลินเจี้ยนจวิน “ผมไม่ต้องการ”
สวี่ม่ายซุ่ย “ทำไมไม่เอา พวกหล่อนสองแม่ลูกทำร้ายนายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนสภาพกลายเป็นอะไรแล้ว นายเก็บเงินไว้ซะ” เธอพูดพลางยัดเงินไว้ใต้หมอนเขาอย่างดื้อรั้น ไม่รอให้หลินเจี้ยนจวินได้สติกลับมา คนก็ไปแล้ว
อีกอย่างหลินเจี้ยนจวินก็นอนไม่ขยับอยู่ที่บ้านตั้งนาน ต้องให้สวี่ม่ายซุ่ยไปเข้าเวรที่ลานนวดข้าวแทน
สวี่ม่ายซุ่ยมองเขาที่ดูกะปวกกะเปียกก็ไม่ได้ขัดขวาง พวกทีมสันทนาการมาแสดงได้สี่วันแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย
ในตอนนี้ก็เห็นซ่งเฉียนกับหัวหน้าหน่วยอยู่ด้วยกัน พอทั้งคู่เห็นสวี่ม่ายซุ่ยกลับมา ซ่งเฉียนก็ลุกขึ้นหัวเราะแหะ ๆ ให้เธอแล้วพูดว่า “นักบัญชีสวี่ เกรงว่าพวกเราคงต้องรบกวนที่นี่อีกสองสามวันแล้ว”
สวี่ม่ายซุ่ยได้ฟังก็หันไปทางหัวหน้าหน่วย เห็นหัวหน้าหยิบบ้องยาสูบตอบกลับด้วยสีหน้าอมทุกข์ “หน่วยเฟินสุ่ยบอกว่ายังไม่ถึงที่ของเขา เขาเลยยังไม่มารับคน”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่มาก็ดี งั้นก็แสดงให้พวกเราดูได้อีกตั้งหลายวัน”
หัวหน้าหน่วย “เธอก็พูดง่ายนี่ หลายวันมานี้พวกเรายังต้องเสียอาหารให้นะ ยามพวกหล่อนอยู่นี่ ใจของทุกคนก็ไม่อยู่ที่ลานนวดข้าวแล้ว”
ซ่งเฉียนได้ยินคำพูดที่ดูกังวลของหัวหน้าหน่วยก็พูดยิ้ม ๆ ว่า “เรื่องนี้พวกคุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ หลายวันมานี้พวกเราจะช่วยพวกคุณ กลางวันไม่แสดง กลางคืนค่อยฉายหนังก็พอ”
หัวหน้าหน่วย “เธอพูดง่ายจังนะ พวกเราไม่ต้องแบ่งอาหารให้พวกเธอหรือไง”
ซ่งเฉียน “พวกเราไม่เอาก็ได้ พวกเรามานี่คือเตรียมเสบียงกันมาหมด ส่วนข้าวที่พวกเรากินที่นี่หลายวันมานี้ ถึงเวลาฉันจะเขียนข้อความให้คุณ คุณก็ไปเอาในเมือง”
หัวหน้าหน่วยฟังจบก็ตกใจ “นี่มันเรื่องตอนไหนกัน ก่อนหน้าทำไมไม่มี”
ซ่งเฉียน “สาเหตุมาจากเรื่องที่พวกคุณไม่ต้อนรับทีมสันทนาการไม่ใช่เหรอ ทำให้หน่วยงานในเมืองไม่มีทางเลือกจึงต้องประกาศแจ้งในปีนี้”
หัวหน้าหน่วยฟังจบก็ยิ้มกว้าง ตอบกลับว่า “ก็ได้ งั้นพวกเธอก็วางใจพักอยู่นี่ได้ อยากพักเท่าไรก็พักเท่านั้น”
ตั้งแต่มีความช่วยเหลือจากทีมสันทนาการ ประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขาก็สูงขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ดูคึกคักอย่างกับไปฉีดเลือดไก่มา แต่ละคนมีความมุ่งมั่นเต็มร้อย แต่หน่วยเฟินสุ่ยทำเหมือนลืมเรื่องทีมสันทนาการไปเลย หัวหน้าหน่วยส่งคนไปถามให้พวกเขามารับคนไปตั้งหลายครั้งก็ไม่มีคนมารับ
รอให้ในทีมส่งข้าวเป็นภาษีการเกษตรเสร็จ ซ่งเฉียนที่ทำการแสดงให้กำลังใจไปได้พอสมควรเลยวางแผนจะพาคนกลับเมือง
สวี่ม่ายซุ่ยมองเหล่าสาวน้อยที่กำลังเก็บของ ก็ถามอย่างกังวลอยู่บ้าง “พวกเธอจะไปเลยเหรอ ไม่ไปหน่วยเฟินสุ่ยจริง ๆ เหรอ”
[1] 张大团结 เป็นธนบัตรมูลค่า 10 หยวนของจีนที่ออกใช้ช่วงปี 1965 ภาพด้านหลังธนบัตรเป็นกลุ่มประชาชนชาวจีนในหลากหลายอาชีพและเชื้อชาติ พร้อมกับคำว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนใน 5 ภาษา ได้แก่ ภาษาจีนฮั่น ทิเบต อุยกูร์ มองโกล และจ้วง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ชาติก่อนซุ่ยซุ่ยท่าจะทำกรรมหนักนะ ถึงได้มีแม่แบบนี้ ส่งไปแต่งงานกับคนที่ข่มขืนตัวเองนี่มันไม่ต่างจากส่งไปนรกเลย
ทีมสันทนาการจะออกจากเกาะไปแล้ว อย่างนี้ไต้ฉิงก็จะต้องไปแล้วน่ะสิ
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION