ตอนที่ 104 หลิวซุ่ยสะกดรอยตามหลินเจี้ยนจวินแล้วหึงหวง
แม่หู่จือฟังจบก็ลังเลสักพักก่อนตอบ “ถ้าจะให้พูดฉันว่าพี่อย่าขวางเลย ซุ่ยซุ่ยนี่ดีมากนะ ดองกับเจี้ยนจวินไปพวกพี่ก็ไม่เสียเปรียบ”
สวี่ม่ายซุ่ยฟังจบก็เผลอตอบกลับ “จะไม่เสียเปรียบได้ยังไง พวกฉันเสียยับเลยแหละ”
แม่หู่จือมองสวี่ม่ายซุ่ยที่มีท่าทางรังเกียจก็ผงะไป จากนั้นก็พูดว่า “พี่จะเสียเปรียบยังไง ลูกสาวชาวบ้านเขารีบจะแต่งเข้าบ้านพี่ พี่มีอะไรไม่ยินดี”
สวี่ม่ายซุ่ยรู้ว่าแม่หู่จือไม่ใช่คนที่เป็นห่วงเป็นใยคนอื่นก็ถามหล่อนตรง ๆ “เฉียนเสี่ยวเหลียนให้เธอมาเกลี้ยกล่อมใช่ไหม”
แม่หู่จือตะลึง “พี่รู้ได้ยังไง”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันไม่ต้องเดาก็รู้”
หลี่ต้านีเห็นน้ำเสียงสวี่ม่ายซุ่ยไม่ดีก็ยื่นมือไปแตะแม่หู่จือ กระซิบว่า “เรื่องนี้เธออย่ายุ่งเลย มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่แม่ต้าเฉียงพูด”
เวลานี้แม่หู่จือถึงได้สติกลับมา กระซิบถามหลี่ต้านีว่า “พี่สะใภ้เป็นอะไร มีวิธีอะไร”
หลี่ต้านี “ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ หลังจากนี้เธอก็จะรู้เอง”
แม่หู่จือบึนปาก “พอละ ๆ ฉันไม่ถามแล้ว”
ขณะที่พวกหล่อนกำลังดูภาพยนตร์อย่างคึกคัก หลินเจี้ยนจวินในเวลานี้กลับกำลังตกที่นั่งลำบาก
“พี่ พี่ไม่กลับไปเหรอ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “กลับไปก็ไม่มีเรื่องอะไร ฉันรอนายกินเสร็จแล้วเอากล่องข้าวกลับไปด้วยกัน”
หลินเจี้ยนจวินถือตะเกียบพลางพูด “ถึงเวลาเดี๋ยวผมเอากลับไปเองก็ได้”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็มองเขาอย่างเคลือบแคลง เห็นเขาถือแค่ตะเกียบไม่ขยับปากก็ถามด้วยความสงสัย “นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
หลินเจี้ยนจวินส่ายหัวตอบกลับโดยไม่รู้ตัว “ไม่มีอะไร”
หลินเจี้ยนเยี่ยยิ้มเยาะ “นายหันมามองฉันตั้งเจ็ดแปดครั้งในหนึ่งนาทีแล้วนะ หน้าฉันมีข้าวติดหรือไง”
หลินเจี้ยนจวิน “ไม่มี”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ไม่มีแล้วทำไมนายไม่กิน”
หลินเจี้ยนจวินลังเลอยู่นาน รวบรวมความกล้าหันไปพูดกับหลินเจี้ยนเยี่ย “พี่ พี่เอาข้าวไปส่งคนได้ไหม”
หลินเจี้ยนเยี่ยฟังจบก็เลิกคิ้วพลางถาม “นายจะส่งให้ใคร”
หลินเจี้ยนจวิน “ผมอยากส่งให้ไต้ฉิงของทีมสันทนาการ ครั้งก่อนผมทำเท้าหล่อนแพลง สองสามวันมานี้หล่อนได้กินแต่ข้าวหม้อใหญ่กับทีมสันทนาการ คงไม่ได้รับสารอาหารมากมายอะไร”
หลินเจี้ยนจวินมองน้องชายที่ลังเล อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “ไม่คิดเลยว่านายจะมีความรู้สึกแบบนี้กับเขาด้วย”
หลินเจี้ยนจวิน “พี่อย่าพูดส่งเดชน่า”
“ผมแค่รู้สึกผิด ผู้หญิงดี ๆ คนหนึ่งมาแสดงให้พวกเราถึงที่ ยังไม่ทันได้แสดงก็ขาแพลงแล้ว มันคงทรมานมาก”
หลินเจี้ยนเยี่ยชำเลืองมองน้องชายที่รู้สึกผิด โบกมืออย่างขอไปที “พอแล้ว รีบไป นายไม่มีความผิดอะไรแล้ว”
หลินเจี้ยนจวินฟังจบก็รีบเก็บข้าวของ พูดกับหลินเจี้ยนเยี่ยด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “ขอบคุณนะพี่ พี่อยู่นี่ช่วยเฝ้าให้ฉันหน่อย” พูดจบ เจ้าตัวก็วิ่งไปจนไม่เห็นเงา
หลินเจี้ยนเยี่ยมองท่าทางร้อนรนของหลินเจี้ยนจวิน ยิ้มพลางส่ายหัว “ไอ้เด็กนี่ ยังจะบอกอีกว่าไม่สนใจเขา”
หลังหลินเจี้ยนจวินออกมาจากลานนวดแป้งก็วิ่งถือกล่องข้าวไปศูนย์ยุวปัญญาชน พอดีกันกับหลิวซุ่ยที่มาตามหาเขา
หลิวซุ่ยเห็นเขาแล้วก็กำลังจะตะโกนเรียก ผลคือยังไม่ทันได้เรียก หลินเจี้ยนจวินก็วิ่งผ่านไปแล้ว
หลิวซุ่ยมองแผ่นหลังของเขา ก่อนตามไปอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ
เนื่องจากระหว่างทางหลินเจี้ยนจวินตกอยู่ในห้วงแห่งความยินดีที่จะได้ให้ข้าวกล่องไต้ฉิง เลยไม่ทันได้สังเกตหลิวซุ่ยที่อยู่ด้านหลัง
พอถึงศูนย์ยุวปัญญาชน ไต้ฉิงก็กำลังวางซ้อนของอยู่
“ทำไมเธอถึงไม่ไปวางซ้อนในบ้าน” หลินเจี้ยนจวินเดินเข้ามาพลางพูด
ไต้ฉิงเห็นหลินเจี้ยนจวินเข้ามา นัยน์ตาพลันฉายความยินดี “นายมาได้ยังไง หัวหน้าซ่งบอกว่านายต้องเข้าเวรอยู่ที่ลานนวดข้าวไม่ใช่เหรอ”
หลินเจี้ยนจวินลูบหัวยิ้มซื่อ ๆ แล้วตอบกลับ “พี่ชายฉันดูแทนฉันอยู่ ฉันมาส่งข้าวให้เธอ”
“ส่งข้าวอะไรให้ฉันล่ะ ฉันกินอิ่มแล้ว”
หลินเจี้ยนจวิน “เธอกินแค่ข้าวหม้อใหญ่จะไปมีสารอาหารอะไร พี่สะใภ้ฉันพึ่งทำซี่โครงหมู ฉันเลยเอามาส่งให้เธอสักหน่อย”
ไต้ฉิงได้ยินว่าซี่โครงหมูก็ตาเป็นประกาย “ซี่โครงหมู ฉันไม่ได้กินซี่โครงหมูมานานแล้ว”
หลินเจี้ยนจวิน “ฉันจะวางไว้ให้เธอในห้องนะ เธอไปชิมดู”
ไต้ฉิงรีบพูดทันที “ไม่ต้อง ฉันจะกินที่นี่”
หลินเจี้ยนจวิน “กินที่นี่ทำไม เดี๋ยวยุงกัด”
ไต้ฉิงรีบตบยุงที่ขาพลางตอบ “นั่นก็ยังดีกว่าฟังนกยวนยางป่าร้อง”
หลินเจี้ยนจวิน…
“ก็ได้ ฉันวางข้าวให้เธอไว้ตรงนี้นะ” พูดจบก็เตรียมจะไป
ไต้ฉิงมองหลินเจี้ยนจวินที่กำลังจะไปเผลอถามว่า “นายไม่รอฉันกินเสร็จก่อนเหรอ”
หลินเจี้ยนจวิน “ฉันต้องกลับไปดูลานนวดข้าว”
ไต้ฉิง “นายบอกว่าพี่ชายนายเฝ้าอยู่ไม่ใช่เหรอ”
หลินเจี้ยนจวิน “พี่ชายฉันแค่ช่วยเฝ้าชั่วคราวน่ะ”
ไต้ฉิง “งั้นนายรอให้ฉันกินเสร็จแล้วค่อยไป ฉันอยู่คนเดียว มันน่าเบื่อมาก”
หลินเจี้ยนจวินมองไต้ฉิงอย่างลังเลสักพักก่อนตอบกลับ “งั้นก็ได้”
เขาพูดพลางนั่งลงด้านข้างไต้ฉิงแล้วยังใส่ใจเปิดข้าวกล่องให้หล่อน
ไต้ฉิงมองซี่โครงหมูที่ตุ๋นจนนุ่มถึงกระดูก อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม “มองแวบเดียวก็รู้ว่าอร่อย”
หลินเจี้ยนจวิน “เธอรีบชิมเร็ว พี่สะใภ้ฉันทำอร่อยมากนะ”
ไต้ฉิงส่งเสียง “อืม” แล้วก็หยิบตะเกียบขึ้นมากิน
ด้านหลินเจี้ยนจวินที่อยู่ด้านข้างก็รอหล่อนกินอย่างเงียบ ๆ
หลิวซุ่ยที่หลบอยู่ด้านนอกมองทั้งสองที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขก็โกรธจนหน้าเขียว นิ้วมือจิกเข้าไปในซอกกำแพง ดินเหนียวด้านในถูกแงะออกมาไม่น้อย
รอไต้ฉิงกินข้าวเสร็จ หลินเจี้ยนจวินก็ไม่ได้รอนาน เก็บกล่องข้าวเสร็จก็บอกลาไต้ฉิงแล้วจากไป
หลิวซุ่ยนั่งรออยู่ด้านนอก เห็นหลินเจี้ยนจวินออกไปก็ตามเขาไปอีกอย่างลับ ๆ
หลินเจี้ยนเยี่ยอยู่ที่ลานนวดข้าวมาตลอด พอเห็นหลินเจี้ยนจวินก็หยอกล้อ “อา ยังตัดใจกลับมาได้นะ”
หลินเจี้ยนจวินตอนนี้ใจกล้าแล้ว เลยทำเป็นไม่ได้ยิน มองเขาตามอำเภอใจแวบหนึ่ง
หลินเจี้ยนเยี่ยเองก็ไม่สนใจ ถามต่อว่า “คนเขาก็กินข้าวแล้ว นายกินหรือยังล่ะ”
หลินเจี้ยนจวินตอบอย่างซื่อตรง “ยัง”
หลินเจี้ยนเยี่ย “นายนี่มันทึ่มจริง ๆ ในบ้านยังมีข้าว นายกลับไปกินเสร็จค่อยกลับมา”
หลินเจี้ยนจวิน “งั้นผมไปแล้ว งานที่นี่จะทำยังไง”
หลินเจี้ยนเยี่ย “นายเห็นว่าพี่นายเป็นคนตายหรือไง?”
หลินเจี้ยนจวิน “งั้นพี่ก็ดูเถอะ ฉันกลับแล้ว” พูดจบก็หันขวับเดินไป
ระหว่างทางที่เขากลับไป เดิมทีหลิวซุ่ยที่ตามเขามาตลอด จู่ ๆ ก็วิ่งออกมาจากด้านหลัง ตะโกนเรียกเขาด้านหน้า “พี่เจี้ยนจวิน”
หลินเจี้ยนจวินเห็นหลิวซุ่ยที่เข้ามาขวางด้านหน้าก็เผลอขมวดคิ้ว “เธอมาได้ยังไง?”
หลิวซุ่ยมองหลินเจี้ยนจวิน กัดริมฝีปากพลางพูด “พี่เจี้ยนจวิน ตอนนี้แม่ฉันไม่คัดค้านแล้ว เราคบกันได้แล้ว”
หลินเจี้ยนจวิน “ฉันพูดกับเธอไปชัดแล้วว่าเราสองคนไม่เหมาะสมกัน ไม่เกี่ยวกับการที่แม่เธอจะเห็นด้วยหรือไม่”
หลิวซุ่ยได้ฟังก็ร้อนรน “จะไม่เกี่ยวได้ยังไง ตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะแม่ฉัน เราก็ดองกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
หลินเจี้ยนจวิน “ไม่มีแม่เธอ เราก็ไม่ดองกันหรอก เพราะนิสัยเข้ากันไม่ได้”
หลิวซุ่ย “ทำไมจะเข้ากันไม่ได้ พี่คงไม่ได้ไปชอบคนอื่นแล้วใช่ไหม ใช่คนที่ชื่อไต้ฉิงนั่นหรือเปล่า”
หลินเจี้ยนจวินมองหล่อนด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ใช่ เธออย่าพูดเหลวไหล”
หลิวซุ่ย “ฉันไม่ได้พูดเหลวไหล ฉันเห็นพวกพี่อยู่ด้วยกันหมดแล้ว”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เจี้ยนจวินอย่าตกเป็นข่าวอะไรเลยนะ กลัวคนอื่นมาเห็นแล้วเข้าใจผิดจริง ๆ
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION