ตอนที่ 10 เจรจา
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นเขาเหงื่อออกเต็มหัว ก็หันมาถามหลินเซียว “ลูกล่ะ ยังเดินไหวไหม”
หลินเซียวถือไข่ไก่ กัดฟันพูดตอบ “ยังไหว”
สวี่ม่ายซุ่ยเห็นเด็กสองคนเหนื่อยหอบ ก็รีบหาที่ให้พวกเขานั่งรอ “ลูกสองคนอยู่ดูของที่นี่นะ แม่จะเอาของส่วนหนึ่งไปเก็บ อีกสักพักค่อยมารับ”
เวลานี้เพิ่งเริ่มนโยบายวางแผนครอบครัว ทุกบ้านต่างก็ไม่ขาดลูกหลาน คนค้ามนุษย์ก็ยังมีน้อย ปล่อยลูกไว้กลางทางคงไม่ต้องเป็นห่วงนัก
หลินเซียวมองของในมือแม่ ผงกหัวรับ “ได้ครับ งั้นแม่ไปเร็ว ๆ หน่อย”
สวี่ม่ายซุ่ย “แม่จะรีบไปรีบกลับ ลูกสองคนดูของชิ้นนี้ให้แม่ที ถ้าเกิดว่ามีคนมาแย่งไป บ้านเราคงได้นั่งกินแกลบ”
หลินเซียว “รู้แล้ว”
กำชับพวกเขาเสร็จ สวี่ม่ายซุ่ยก็รีบเดินกลับไปบ้าน โชคดีที่ตอนนี้อากาศร้อน คนออกมาข้างนอกน้อย ถือของมากขนาดนี้จึงไม่มีปัญหา หลังเธอเอาของไปเก็บแล้วก็ค่อยมารับเด็กสองคน
เด็กสองคนตากแดดอยู่ด้านนอกจนหน้าแดงเหมือนก้นลิงหมดแล้ว เมื่อเห็นแม่ก็รีบร้องงอแงเข้ามาหา สวี่ม่ายซุ่ยที่ถือถุงมือซ้ายถือตะกร้ามือขวาแล้วยังหนีบเด็กสองคนไว้ด้วยพูดด้วยสีหน้าจนใจ “ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”
หลินฟานเพิ่งอายุได้ห้าขวบก็ตัวติดกับสวี่ม่ายซุ่ยไม่ยอมห่าง เธอจึงได้แต่นั่งยองแบกเขากลับบ้าน
หลินเซียวเช็ดเหงื่อบนหน้า ขมวดคิ้วพูด “แม่ ให้ตะกร้าผมมาถือเถอะ”
สวี่ม่ายซุ่ยมองหลินเซียวที่ตากแดดจนตัวคล้ำอย่างไม่อาลัยอาวรณ์ “ให้แม่ถือน่ะดีแล้ว ถ้าลูกร้อนก็กลับบ้านไปก่อน ในบ้านมีน้ำเย็น ๆ”
หลินเซียวฟังแล้วก็ส่ายหน้า “ผมจะไปด้วยกันกับแม่”
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง สามแม่ลูกก็มาถึงบ้าน ตอนนี้หลินฟานที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนร่างของสวี่ม่ายซุ่ยได้หลับไปแล้ว เธอวางของในมือแล้วบอกหลินเซียวให้ดื่มน้ำด้านนอก ขณะแบกหลินฟานเข้าห้องนอนแล้ววางเขาบนเตียงอย่างระมัดระวัง
เธอถอดรองเท้าให้เขา เอาเสื้อคลุมท้อง แล้วจึงออกไป
เวลานี้หลินเซียวเหนื่อยจนขึ้นไปนอนบนโต๊ะแล้ว สวี่ม่ายซุ่ยเดินไปลูบหน้าผากเขา เห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติจึงดื่มน้ำพลางพูดว่า “เหนื่อยก็ไปนอนได้”
หลินเซียวส่ายหัว “ผมไม่อยากนอน”
สวี่ม่ายซุ่ยหยิบกระเป๋าด้านข้าง ล้วงเอาขนมเถาซูออกมาส่งให้หนึ่งชิ้น “กินรองท้องไปก่อน แม่จะไปทำกับข้าว”
หลินเซียวเห็นขนมเถาซูที่สวี่ม่ายซุ่ยส่งให้ก็ถามด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ “ให้ผม แล้วไม่ต้องเก็บไว้ให้ญาติเหรอ?”
เด็กสองคนอยู่กับสวี่ม่ายซุ่ยมาจนโตขนาดนี้ นอกจากตอนไปบ้านยายแล้ว ก็ไม่เคยได้กินขนมเถาซู
สวี่ม่ายซุ่ย “แม่ซื้อให้พวกลูก ไม่ได้จะเอาไปให้ญาติ”
“เอาล่ะ ลูกอยู่ดูหลินฟานเล่นตรงนี้นะ แม่จะไปทำกับข้าว” พูดจบก็หิ้วข้าวของเข้าไปในครัว
เด็กสองคนยังไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เช้า สวี่ม่ายซุ่ยเลยวางแผนจะทำอะไรง่าย ๆ ที่ทำให้กินอิ่มก่อน โดยตักข้าวมานึ่งชามหนึ่ง กินกับมะเขือเทศสองลูก ส่วนตอนเที่ยงก็ทำอะไรที่มันง่ายหน่อย อย่างมะเขือเทศผัดไข่กับมะเขือยาวคลุกกระเทียม
เครื่องปรุงในบ้านต่างก็มีครบ แม่เฒ่าหลินไม่ค่อยชอบกระเทียม ก็เลยเหลือไว้ผัดได้ไม่น้อย
หลังล้างมะเขือยาวกับมะเขือเทศจนสะอาดแล้ว ก็นำมะเขือยาวทั้งหมดไปนึ่ง หยิบไข่สามใบมาตอกใส่ชาม จากนั้นเทใส่กระทะที่ร้อนจนพอสุกแล้วตักออก ใส่มะเขือเทศลงไปผัดจนน้ำซึมออกมา แล้วเทไข่ที่พอสุกลงไปใหม่ จนทั้งครัวมีแต่กลิ่นหอมของอาหารอบอวล
หลินเซียวเองก็ถูกดึงดูดเข้ามา “แม่ แม่ทำอะไรถึงได้หอมขนาดนี้?”
สวี่ม่ายซุ่ยตอบกลับ “มะเขือเทศผัดไข่ ลูกไปอยู่ไกลหน่อย มันร้อน”
อากาศหน้าเตาไฟในฤดูร้อนนี่ร้อนเสียจนแทบจะย่างคนได้แล้ว
หลินเซียวสูดลมหายใจทำปากแข็ง “ผมไม่ร้อน”
สวี่ม่ายซุ่ยถือโอกาสส่งจานมา “ถ้าลูกไม่ร้อนก็เอาจานไปล้างให้แม่ไป”
หลินเซียวฟังจบก็ถือจานออกไปข้างนอก ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมจานที่ล้างสะอาด สวี่ม่ายซุ่ยรับจานมาใส่ไข่ที่ผัดเสร็จแล้ว ตามด้วยหยิบตะเกียบคีบไปจ่อปากหลินเซียว “ชิมหน่อย รสชาติเป็นยังไง”
หลินเซียวตะลึงไปชั่วขณะก็อ้าปากรับ แต่สวี่ม่ายซุ่ยรีบเดินไปจับ “เป่าก่อน”
หลินเซียวถึงได้เป่าจนแก้มพอง พูดชมอย่างพอใจ “อร่อยจริง ๆ”
สวี่ม่ายซุ่ย “ยกจานเข้าไปในห้อง เดี๋ยวจะมีอะไรอร่อยกว่านี้อีก”
หลินเซียวขานรับ “อืม” แล้วก็ยกจานอย่างระมัดระวังไปที่ห้อง
เด็กน้อยเดิมทีก็ใกล้ชิดกับกับแม่ ยิ่งชีวิตนี้สวี่ม่ายซุ่ยไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเด็กสองคนดีขึ้นมาในพริบตา
ในขณะที่มะเขือยาวกับข้าวยังไม่พร้อม สวี่ม่ายซุ่ยก็รีบหยิบกระเทียมขึ้นมาสองสามหัวแล้วทุบเป็นกระเทียมสับ รอให้มะเขือยาวนึ่งสุกดีแล้วก็ใช้ตะเกียบฉีกออกเทกระเทียมสับลงไป เท่านี้มะเขือยาวกระเทียมสับก็เป็นอันเสร็จสิ้น
เมื่อกับข้าวพร้อมแล้ว สวี่ม่ายซุ่ยก็ยกข้าวเข้ามาในห้องสองชาม
ตอนนี้หลินฟานตื่นแล้ว หลินเซียวกำลังใส่รองเท้าให้เขา พอใส่เสร็จเด็กน้อยคนนี้ก็รีบวิ่งตึงตังออกมา “แม่ หอมจังเลย!”
สวี่ม่ายซุ่ยลูบหัวเขาแล้วถามว่า “หิวล่ะสิ เดี๋ยวแม่พาลูกไปล้างมือกินข้าว”
“หลินเซียว ลูกก็ออกมาล้างมือด้วยนะ”
ขณะรอสวี่ม่ายซุ่ยคลุกข้าวกับมะเขือเทศ หลินเซียวก็ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ “ไม่ต้องรอพ่อมากินด้วยกันเหรอ?”
เมื่อก่อนไม่ว่าเรื่องอะไร สวี่ม่ายซุ่ยก็จะยึดหลินเจี้ยนเยี่ยเป็นหลัก ถ้าเขาไม่กลับมาก็ยังไม่เริ่มกิน ทำให้เด็กน้อยสองคนหิวจนตาลายทุกครั้ง
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่ต้อง ลูกสองคนยังไม่ได้กินข้าวเช้า กินก่อนเลย”
รอหลินเจี้ยเยี่ยเลิกงานกลับมาก็เห็นเด็กสองคนกอดข้าวคนละชาม กำลังกินอย่างเพลิดเพลิน “ทำอะไรหอมขนาดนี้”
สวี่ม่ายซุ่ยหันไปมองเขาแวบหนึ่ง “มะเขือยาวคลุกกระเทียมสับ ฉันตักข้าวไว้ให้คุณแล้ว”
ตอนเข้าบ้านมาหลินเจี้ยนเยี่ยก็ล้างมือเสร็จแล้ว เห็นกับข้าวบนโต๊ะถูกกินไปครึ่ง นัยน์ตาก็ฉายแววประหลาดใจ “ฝีมือคุณดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
สวี่ม่ายซุ่ย “ก็ดีขนาดนี้มาตลอด แค่แต่ก่อนไม่อยากทำ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “…”
“ผักพวกนี้นี่ วันนี้เธอซื้อมาเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่ใช่ พี่สะใภ้จ้าวเอามาให้วันนี้ คุณไปบอกพี่จ้าวว่าบ้านเราไม่มีผักเหรอ?”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ยังต้องพูดอีกเหรอ? ก็บ้านเราว่างซะขนาดนี้ ใครดูเขาก็รู้”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันอยากจะคุยเรื่องนี้กับคุณพอดี ฉันว่าจะปลูกผักที่บ้าน”
หลินเจี้ยนเยี่ยนั่งลงคีบมะเขือยาวผัดกระเทียมเข้าปากหนึ่งคำแล้วตอบกลับ “ไหนคุณบอกว่าไม่ชอบความยุ่งยากนี่”
สวี่ม่ายซุ่ย “ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ เพราะไม่มีผักกินนี่แหละ”
หลินเจี้ยนเยี่ยขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ว่าผมเพิ่งให้เงินไปเหรอ?”
สวี่ม่ายซุ่ย “ใช้หมดแล้ว”
หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณซื้ออะไรไป”
สวี่ม่ายซุ่ย “ซื้อผ้าไปสองสามฉื่อ แล้วก็ซื้อข้าวสารกับแป้ง แล้วยังมีเหลือนิดหน่อย”
หลินเจี้ยนเยี่ย “คุณไปเอาคูปองผ้ามาจากไหน”
สวี่ม่ายซุ่ย “ฉันสะสมไว้เองค่ะ”
หลินเจี้ยนเยี่ยมองเด็กสองคนแล้วตอบ “ซื้อก็ซื้อสิ ที่ผมก็ยังมีอยู่บ้าง เดี๋ยวเอาไปให้คุณใช้บางส่วน”
สวี่ม่ายซุ่ย “ตอนนี้ฉันยังใช้ไม่หมด คุณเก็บไว้ก่อน พรุ่งนี้ฉันอยากไปบ้านแม่น่ะค่ะ”
หลินเจี้ยนเยี่ย “ไม่ใช่ว่าเพิ่งไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเหรอ?”
เพราะเรื่องที่สวี่ม่ายซุ่ยเคยทำไม่ดีเอาไว้ คนในหมู่บ้านเลยพูดกันให้ทั่ว เธอจึงไม่ค่อยกลับไป
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ที่บ้านแม่มีเรื่องอะไรหนอ ม่ายซุ่ยถึงกลายเป็นคนแบบนี้
ชิวเฟิง
MANGA DISCUSSION