บทที่ 115 ข่าวดีเดินทางมาถึง
เผยซิ่วและหลิวเหิงพาเหยียนซีกลับมาที่บ้านพัก คู่สามีภรรยาผู้ดูแลบ้านกำลังรอฟังผลอยู่ด้วยเช่นกัน ทันทีที่เห็นว่าพวกเขามาถึง ก็รู้ว่ายังไม่ได้ทราบผลการสอบ จึงเพียงแค่อวยพรสองสามประโยค และบอกให้ทั้งสามกลับเข้าไปพักผ่อนด้านในก่อน พวกเขาทั้งสองจะเฝ้าหน้าบ้านให้เอง
ชาวบ้านโดยรอบรู้ว่ามีผู้เข้าสอบเซียงซื่อมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะลอบมองเวลาเดินผ่าน
บ้านพักเล็ก ๆ ของตระกูลเฉินเงียบสงบท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงจอแจ ผู้คนในเมืองเดินไปมา มีเสียงฆ้องเสียงกลองดังเป็นระยะ ๆ ความเงียบสงบในบ้านพักแห่งนี้ช่างเป็นอะไรที่น่าพิสมัย
คนเหล่านั้นพูดคุยกันเสียงดังบ้างก็ร้องว่ากำลังจะเดินทางไปที่ใด บ้างก็ถามหาโรงเตี๊ยมใกล้ ๆ นี้
เมืองหย่งโจวที่ถือว่าเป็นเมืองใหญ่พลันคับแคบขึ้นมาในทันตา ไม่ว่าจะเหนือหรือใต้ล้วนแน่นขนัดไปด้วยผู้คน ได้ยินเสียงสนทนาดังขึ้นจากทุกแห่งหน
ทันทีที่ทั้งสามผ่านประตูเข้าไปในลานบ้าน ก็ได้ยินเสียงตีฆ้องดังมาจากที่ไกล ๆ พร้อมกับความวุ่นวาย เสียงค่อย ๆ เบาลง เห็นชัดว่าเป็นคนมาประกาศข่าวดีจากการสอบที่ตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ ในเมือง
แม้ว่าจะไม่ได้เห็นฉากนั้นกับตา แต่ก็พอจะจินตนาถึงสถานการณ์เหล่านั้นได้ว่าน่าตื่นเต้นเพียงใด
บรรยากาศของการประกาศผลการสอบขุนนางทำให้รู้สึกราวกับว่าทั้งเมืองหย่งโจวกำลังอยู่ในหม้อน้ำเดือด เต็มไปด้วยเสียงประทัด ฆ้อง กลอง เมื่อเปรียบเทียบกับการประกาศผลสอบเยวี่ยนซื่อ ก็คงไม่ต่างอะไรจากการเปรียบเทียบตลาดเล็ก ๆ ในตำบลชิงหลงกับตลาดใหญ่ในตัวเมืองถงอัน ความยิ่งใหญ่ของมันช่างแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
แม้เผยซิ่วจะอยู่ในอาการสงบ แต่หลังจากได้ยินเสียงฆ้องและกลองสองสามครั้ง สายตาของเขาก็อดมองออกไปนอกลานไม่ได้
หลิวเหิงหยุดนิ่งแล้วตั้งใจฟังเสียงนั้นอยู่พักหนึ่ง
ไม่นานหลังจากที่ทั้งสามกลับมาถึง การประกาศอันดับก็เริ่มต้นขึ้น และเริ่มประกาศชื่อของผู้ที่ได้อันดับท้าย ๆ ออกมาก่อน
ยิ่งด้านนอกวุ่นวายมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่ามีรายชื่อถูกประกาศเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชื่อเท่านั้น และรายชื่อที่ถูกประกาศเพิ่มเข้ามาใหม่ ก็คือรายชื่อของคนที่ได้อันดับดีขึ้นเรื่อย ๆ
เหยียนซีพบว่าหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอกำลังเต้นรัวเร็วอย่างไม่อาจควบคุมได้ ความรู้สึกตอนนี้ผสมปนเปกันระหว่างความคาดหวังและความหวาดกลัวต่อผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดา เมื่อเกิดอาการเช่นนี้ขึ้นก็ยิ่งรู้สึกว่าการนั่งเฉย ๆ ยิ่งทำให้ทรมานใจ จึงเริ่มลุกขึ้นไปที่เตาเพื่อตั้งน้ำ ชงชาหอมกรุ่นออกมา
อันที่จริงตอนนี้เป็นเวลาอาหารกลางวันแล้ว แต่ทั้งสามกลับไม่มีใครอยากอาหาร และไร้ซึ่งความรู้สึกหิว
เหยียนซีรินน้ำชาให้ทุกคนเสร็จตอนที่เสียงฆ้องและกลองดังเข้ามาในบ้านพักตระกูลเฉิน เสียงของมันค่อย ๆ ใกล้เข้ามา จู่ ๆ บรรยากาศโดยรอบก็ราวกับว่ามีเรื่องน่าประหลาดใจถูกเปิดเผยขึ้น ในไม่ช้าเสียงนั้นก็ดังสนั่นไปทั่ว ผู้คนรีบเข้ามาล้อมรอบหน้าบ้านพักของตระกูลเฉิน
เหยียนซีวางกาน้ำชาลงอย่างรวดเร็ว ถกชายกระโปรงขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง “ข้าจะออกไปดูหน้าบ้าน”
หลิวเหิงและเผยซิ่วเองก็ยืนขึ้นและเดินตามออกไป
สองสามีภรรยาวัยชรากำลังยืนอยู่ด้านหน้า โค้งคำนับให้หลิวเหิงและเผยซิ่วพร้อมรอยยิ้มกว้างมุมปากแทบชิดใบหู
ทันทีที่ทั้งสามไปถึงหน้าประตู พวกเขาก็พบว่ามีกลุ่มคนกำลังตีฆ้องและกลองเพื่อป่าวประกาศข่าวดี เมื่อเปิดประตูออกไป ประทัดสายยาวก็ถูกจุดและส่งเสียงดังไม่หยุด คนเหล่านั้นเคาะเครื่องดนตรีแล้วร้องตะโกน “ข่าวดี! นายท่านเผยซิ่วแห่งอำเภอหมิงสุ่ย ในรัชสมัยองค์จักรพรรดิเทียนฉี การสอบเซียงซื่อ ณ หย่งโจวปีที่เก้า ได้อันดับที่ 5”
“ท่านอาจารย์ ท่านสอบผ่านเป็นอู่จิงขุย*[1]แล้วขอรับ!” หลิวเหิงผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้ยินชื่อของตนเอง แต่ก็หันไปยินดีกับเผยซิ่วอย่างมีความสุขเมื่อรู้ผล
เหยียนซีก็ยิ้มด้วยความยินดีเช่นกัน
เมื่ออยู่ในบรรยากาศที่แสนมีชีวิตชีวาเช่นนี้ ความตื่นเต้นและความสุขเกิดขึ้นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จของใครคนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่ก็ตาม
เมื่อเผยซิ่วได้ยินชื่อของตน ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากที่เห็นอาการดีใจของเหยียนซีและหลิวเหิง เขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เดินไปด้านหน้าด้วยความเรียบร้อย หากเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ ที่สอบผ่าน อาการของเขาค่อนข้างสงบนิ่ง
เผยซิ่วเป็นที่รู้จักดีในเรื่องความสามารถตั้งแต่ยังเยาว์วัย ทุกคนในอำเภอหมิงสุ่ยต่างพูดว่าเขาต้องก้าวหน้าขึ้นอีกมาก แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่สอบผ่านได้เป็นซิ่วไฉแล้ว เขาจะไม่มีโอกาสได้สอบเซียงซื่อเสียทีจนกระทั่งตอนนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสอบเซียงซื่อและผ่านในทันที ทว่าก็เป็นผลมาจากการเตรียมตัวมาไม่น้อย เขาเคยสงสัยว่าตัวเองจะอยู่ในลำดับที่เท่าไรหากเข้าสอบเซียงซื่อ และตั้งตารอคอยวันนี้มาอย่างยาวนาน เพราะเขาคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด และในที่สุดเมื่อสอบผ่าน ความรู้สึกปลาบปลื้มจึงไม่ได้เปี่ยมล้นมากมายนัก
บรรดาผู้ที่มาป่าวประกาศข่าวต่างแสดงความยินดีอย่างกึกก้องหลังจากแจ้งข่าวเสร็จสิ้น
เผยซิ่วอยู่ท่ามกลางพวกเขาที่ล้อมรอบตัวจึงจำเป็นต้องเอาเงินออกมาแจก
ในเวลานี้ไม่ควรตระหนี่เรื่องการให้รางวัล ไม่อย่างนั้นอาจทำให้พวกเขาที่เป็นผู้กระจายข่าวขุ่นเคือง และเกิดข่าวลือแปลก ๆ เกี่ยวกับตนเองได้
ทว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าตนเองจะผ่านถึงระดับอู่จิงขุย รางวัลที่แจกควรจะมากกว่าปกติเล็กน้อย แต่เงินที่เขาเตรียมมาไม่ได้มากมายขนาดนั้น
ระหว่างที่เผยซิ่วมีท่าทีลังเลว่าจะแก้สถานการณ์อย่างไรดี หลิวเหิงก็เอากระเป๋าเงินของเขาส่งให้ “ท่านอาจารย์ ถึงเวลาแจกรางวัลแล้วขอรับ”
เผยซิ่วเอาเงินที่ตัวเองเตรียมไว้ตอนแรกออกมารวมกับที่ได้รับจากหลิวเหิง แจกให้กับเหล่าผู้ประกาศข่าว เมื่อพวกเขาได้เงินมากเพียงพอก็เอ่ยแสดงความยินดีอีกครั้ง
หลังจากรางวัลถูกแจกจ่ายเรียบร้อย พวกเขาก็หันกายจากไป แต่หลังจากเดินออกไปได้ครึ่งทาง กลุ่มผู้ประกาศอีกกลุ่มก็เดินเข้ามา ทั้งสองกลุ่มพบกันที่มุมถนน ทำให้ถนนเส้นเล็ก ๆ หน้าบ้านพักตระกูลเฉินแน่นขนัดในพริบตา ผู้ประกาศข่าวสองกลุ่มขวางเส้นทางเอาไว้จนหมด
มีผู้คนจำนวนมากที่ออกมารายงานข่าวดีไปทั่วเมือง นอกจากผู้ประกาศข่าวอย่างเป็นทางการของเมืองแล้วก็ยังมีชาวบ้านที่ตระเวนร่วมแสดงความยินดีและรับเงินรางวัลด้วยเช่นกัน
ชาวบ้านโดยรอบที่ถูกดึงดูดเข้ามาทางนี้ด้วยเสียงฆ้องและกลองเมื่อครู่พบว่าไม่ทันที่ทุกคนจะได้แยกย้ายกันหลังทราบข่าวดี ก็ต้องหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าผู้ประกาศกลุ่มที่สองเพิ่งจะมาถึง
มีคนชี้ไปที่พวกเขาแล้วหัวเราะขึ้น “อู่จิงขุยเชียวนะ พวกเจ้ามาช้าไปหน่อยแล้ว”
“ใช่มีคนมาประกาศแล้ว และพวกเขาก็รับรางวัลไปแล้วด้วย”
อันดับหนึ่งในการสอบเซียงซื่อจะถูกเรียกว่าเจี้ยหยวนและห้าอันดับแรกจะเรียกว่าจิงขุย ดังนั้นชาวบ้านจึงเอาคำว่าอู่จิงขุยขึ้นมาล้อเลียน เพราะรางวัลที่ได้จากอู่จิงขุยจะเยอะกว่าลำดับปกติ
ทุกคนจึงเยาะเย้ยกลุ่มที่สองที่พลาดรางวัลใหญ่เสียแล้ว
เมื่อกลุ่มผู้ประกาศที่มาทีหลังเห็นว่ากลุ่มแรกได้รางวัลไปแล้วก็อดกังวลขึ้นมาไม่ได้ว่าตนเองจะมาช้าไป
คนกลุ่มแรกก็จงใจปิดกั้นถนนไม่ให้ผู้คนผ่านไปมา ระหว่างที่ทั้งสองกลุ่มกำลังโต้เถียงกัน เจ้าหน้าที่จากทางการบนหลังม้าที่อยู่ด้านหลังพวกเขาก็ป่าวประกาศขึ้น
เจ้าหน้าที่ตะโกนเสียงดังทันทีที่เข้าสู่ถนนหน้าบ้านพักตระกูลเฉิน “ข่าวดี นายท่านหลิวเหิงแห่งตำบลชิงหลง อำเภอหมิงสุ่ย ในรัชสมัยองค์จักรพรรดิเทียนฉี การสอบเซียงซื่อ ณ หย่งโจวปีที่เก้า ได้อันดับที่ 2 ย่าหยวน*[2]!”
คนกลุ่มแรกที่มาประกาศข่าวดีโห่ร้องด้วยความประหลาดใจ “บ้านพักหลังนี้ฮวงจุ้ยดีเหลือเชื่อ เพิ่งจะมีคนได้อู่จิงขุยไม่เท่าไร ย่าหยวนอีกคนก็ตามมา”
กลุ่มที่สองผลักกลุ่มแรกออกไปและร้องตะโกน “พวกเรามาแสดงความยินดีกับนายท่านหลิว” ระหว่างที่กล่าวเช่นนั้นก็พากันตีฆ้องและกลอง “ขอแสดงความยินดีกับนายท่านหลิว ยินดีด้วย!”
เหล่าผู้ประกาศข่าวกลุ่มแรกก็พากันตีฆ้องเสียงดังเซ็งแซ่ตามมาด้วยเช่นกัน
ผู้ดูแลบ้านทั้งสองต่างยินดีกันยกใหญ่
เจ้าหน้าที่ลงจากหลังม้าเพื่อมาแจ้งข่าวดี
ขณะที่หลิวเหิงกำลังยินดีกับอาจารย์เผยปนกับความกังวลใจในผลการสอบของตน ทันใดนั้นเองข่าวน่ายินดีที่นำมาซึ่งความสุขของเขาก็ตามมาถึง
“พี่เอ้อร์หลาง ท่านสอบผ่านแล้ว และยังได้ที่สองอีกด้วย” ท่ามกลางเสียงตีฆ้องและกลอง เหยียนซีก็ตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น เธอตะโกนสุดเสียง แต่แทบไม่มีใครได้ยิน
หลิวเหิงได้ยินข่าวดีของตัวเองก็พลันคิดขึ้นในใจ เมื่อครู่เขาเอาเงินรางวัลทั้งหมดให้อาจารย์เผยไปแล้ว แล้วคราวนี้จะทำอย่างไรต่อดีเล่า ?
[1] อู่จิงขุย หมายถึง ผู้ผ่านการสอบเซียงซื่อ อันดับที่ 5
[2] ย่าหยวน หมายถึง คำเรียกลำดับที่ 2 ในการสอบเซียงซื่อ
MANGA DISCUSSION