บทที่ 87 เสียงกลืนน้ำลาย
เหยียนซีกังวลมาก ๆ เกี่ยวกับเงินที่หามาอย่างยากลำบากของตน หลังจากที่เห็นว่าพวกมันยังอยู่ครบ เธอก็โล่งใจ
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นโจรหรือคนว่างงานก็ช่าง ตราบใดที่ไม่มายุ่งกับเธอก็พอแล้ว
เด็กหญิงมองไปทั่วบ้านใหม่ โดยปกติแล้วเธอจะไปที่โกดังผักดองก่อน ในเดือนสิบเอ็ดเธอต้องนำผักหลายร้อยจินกลับมาเกือบทุกวัน หลังจากส่งสินค้าให้เถ้าแก่เฉียนหลายรอบ ตลอดสองฝั่งน้ำของหมิงซีก็ถูกแช่แข็ง การแล่นเรือจึงไม่สะดวกอีกต่อไป มันจึงยังมีไหผักดองเหลืออยู่มากมาย โชคดีที่อากาศเย็นพอจะเก็บไว้ได้นาน เหยียนซีจึงเปิดหน้าต่างโกดังเพื่อให้อากาศถ่ายเท และเพื่อยืดอายุผักดองได้นานขึ้นด้วย
สำหรับผักดองเหล่านี้ เถ้าแก่เฉียนตั้งใจที่จะขนส่งมันด้วยรถม้าก่อนวันปีใหม่ เนื่องจากช่วงปีที่ผ่านมามีงานเลี้ยงมากมาย และอาหารประเภทปลาต้มผักกาดดอง หม้อไฟผักดองและหมูต้มผักดอง…เหยียนซีได้แนะนำตำรับอาหารมากมายที่ทำจากผักดอง ซึ่งตอนนี้มันมีค่ามาก ๆ ในห้องโถงจัดเลี้ยง
เธอได้ยินมาว่า ไม่เพียงแต่ในเมืองถงอันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วหย่งโจวด้วย เพราะมีตระกูลใหญ่สั่งจองกับทางภัตตาคารเฉินจี้ ซึ่งเถ้าแก่เฉียนเคยพูดด้วยรอยยิ้มว่าภัตตาคารไม่ขายของสำเร็จรูป แต่ขายผักดองเท่านั้น ซึ่งผู้ซื้อก็สามารถสร้างรายได้จากการนำไปขายต่อ
บ้านหลังคากระเบื้องอีกหลังเป็นโกดังเสบียงของตระกูลหลิว ทั่วทั้งห้องจนสุดมุมผนังจะมีผักกาดขาวที่ยังไม่ดองและผักอื่น ๆ อยู่ เนื่องจากตอนนี้มีผักดองเพียงพอ จึงทำให้ผักเหล่านี้ไม่ต้องรีบร้อนที่จะดองมัน เด็กหญิงจึงแผ่พวกมันกระจายจนทั่วห้องเพื่อให้มันแห้งไปเองช้า ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง พวกเธอสามารถกินได้ถ้าต้องการ และผักกาดขาวก็เป็นอาหารที่ดีมากเช่นกัน
อีกทั้งกลางห้องยังมีโครงไม้ผึ่งเส้นบะหมี่เอาไว้ สำหรับเส้นบะหมี่เหล่านี้จะต้องตากอีกสองวันเพื่อให้แห้งสนิท
ข้างผนังด้านซ้ายมือจะมีขาตั้งรูปสามเหลี่ยมตั้งอยู่ บนเสาไม้ไผ่ด้านบนขาตั้งมีหมูเค็มหลายเส้นห้อยเอาไว้ เนื่องจากบ้านตระกูลหลิวไม่เลี้ยงหมู ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็มักจะซื้อเนื้อมาตากให้แห้ง ในวันปีใหม่ค่อยเอาออกมาตุ๋น และเพื่อป้องกันการโดนหนูขโมยกิน จึงแขวนไว้กลางอากาศเช่นนี้
เหยียนซีถึงขั้นซื้อปาท่องโก๋มาชุบยาเบื่อหนูแล้ววางไว้รอบ ๆ อย่าว่าแต่วางยาหนูตัวใหญ่ได้สักตัวเลย เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าหนูเหล่านี้ไปเรียนรู้มาจากไหน แม้ไม่มีอะไรจะกิน แต่พวกมันก็ไม่เคยกินเหยื่อที่เธอวางทิ้งไว้เลย
สำหรับผนังทางด้านขวา มีชั้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มีกระด้งหลายใบวางอยู่บนชั้นไม้ ภายในกระด้งไม้ไผ่เหล่านี้มีหน่อไม้ฤดูหนาวตากแห้ง ผักดองแห้งและถั่วแขกแห้งอยู่
ถัดจากชั้นวางยังมีสิ่งที่เป็นลูกหนามวางอยู่บนพื้น นั่นก็คือเกาลัด
มีต้นเกาลัดสองต้นอยู่บนเนินเขาหลังบ้านตระกูลหลิว จึงมีเกาลัดให้เก็บทุกปี
นางหวังเคยพาเหยียนซีขึ้นไปเก็บเกาลัดบนเขาหนึ่งครั้ง
ถ้าเธอไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เธอก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกาลัดเติบโตมาจากลูกหนาม เมื่อลูกหนามสุกแล้วก็จะหล่นลงพื้น ผลเกาลัดจึงโผล่ออกมาจากรอยแตก
ตอนอยู่บนเขา เหยียนซีใช้แหนบหยิบลูกหนามใส่ตะกร้าทีละลูก แล้วเอามากองไว้ที่นี่ ตอนนี้ลูกหนามแหลมคมแตกหมดแล้ว จึงสามารถเห็นผลเกาลัดข้างในได้
เหยียนซีเพียงแค่หยิบกระด้งมา แล้วตีลูกหนามด้วยแผ่นไม้ จากนั้นแยกลูกหนามออก ดึงเก้าอี้ตัวเล็กมาจากมุมห้องแล้วนั่งลง เธอหยิบเกาลัดทีละลูกแล้วโยนลงในกระด้ง
หากเก็บเกาลัดไว้ในลูกหนาม มันก็จะเก็บได้นานมากขึ้น
ดังนั้นเกาลัดที่แยกออกมาจากลูกหนาม ก็จะเห็นได้ว่าเปลือกยังมีความชื้นอยู่ ทั้งเต่งตึงและไม่เหี่ยวเลย
กระนั้นก็มีเกาลัดน้อยเกินไป เพราะฤดูหนาวนี้เธอยุ่งสุด ๆ มิฉะนั้น เธออาจจะมีเวลาไปเก็บมาเยอะขึ้น และทำเกาลัดคั่วน้ำตาลขายไปแล้ว
ผู้คนในยุคอนาคต มักจะลากรถเข็นขายมันหวานเผา ว่ากันว่าหนึ่งฤดูหนาวสามารถสร้างรายได้มากกว่าหนึ่งแสน
ส่วนเกาลัดคั่วน้ำตาลเป็นอาหารอันโอชะที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในช่วงฤดูหนาว สำหรับยุคนี้ ในสถานที่ที่เธออาศัยอยู่ทั้งที่เป็นฤดูหนาวแล้ว แต่กลับไม่มีกลิ่นหอมของเกาลัดคั่วน้ำตาลอยู่เลย?
อย่างไรก็ตาม เกาลัดคั่วน้ำตาลจะต้องใช้น้ำตาลปริมาณมาก ซึ่งจะทำให้ต้นทุนและราคาแพงขึ้น สำหรับในตำบลชิงหลงแห่งนี้ หรือแม้แต่ทั่วอำเภอหมิงสุ่ย ก็อาจจะขายไม่ได้มากนัก
ของว่างราคาแพงขนาดนี้ อย่างน้อยต้องนำไปขายที่เมืองถงอัน
ตอนนี้เหยียนซีกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางมองไปที่เกาลัดในกระด้ง เด็กหญิงกำลังนึกถึง เค้กเกาลัด ไก่ตุ๋นเกาลัด เกาลัดคั่วน้ำตาล…เมื่อคิดถึงความอร่อยจากอาหารจานเกาลัดเหล่านี้ เธอก็รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น
เพื่อตอบแทนตัวเองสำหรับการทำงานหนัก เธอจึงโยนเกาลัดสองสามลูกลงในอ่างถ่านแบบง่าย ๆ
เมื่อเธอแยกเกาลัดได้ครึ่งหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงแตกในอ่างถ่าน เสียงนี้บ่งบอกว่าเกาลัดที่โยนลงไปนั้นถูกเผาจนแตกออกแล้ว เหยียนซีพบกิ่งไม้ที่จะใช้เป็นตะเกียบได้ เธอจึงคีบเกาลัดออกมาแล้วโยนลงพื้น จากนั้นเอื้อมมือไปคว้ามัน แต่มันร้อนจนแทบลวกมือ เด็กหญิงจึงโยนมันกลับลงที่พื้นอย่างรวดเร็ว รอไปอีกสักพัก เธอก็หยิบมันขึ้นมาเป่าขี้เถ้าออก ลอกเปลือกแล้วโยนเนื้อเกาลัดสีทองทั้งลูกเข้าปาก อืม ความหวานตลบอบอวลไปทั่วทั้งปากเลย
การได้กินเกาลัดในฤดูหนาว ถือเป็นความเพลิดเพลินที่สุดอย่างหนึ่ง
หลังจากเหยียนซีกินเกาลัดเสร็จแล้ว เธอก็ไปแยกเกาลัดออกจากลูกหนามต่อ ใช้เวลาช่วงเช้าตรู่ก็ปอกเปลือกเกาลัดเสร็จสิ้น เด็กหญิงวางแผ่ในกระด้งเพื่อตากให้แห้ง เพราะเมื่อปล่อยให้เกาลัดแห้งเล็กน้อย ก็จะทำให้ลอกเปลือกได้ง่ายขึ้น
เธอใส่หัวเผือกและเกาลัดลงในอ่างถ่าน แล้วก็หิ้วอ่างใส่ถ่านมาถึงบ้านหลังคามุงกระเบื้องหลังกลาง
ในบ้านมุงกระเบื้องหลังตรงกลางนี้ เป็นสถานที่อัดแน่นไปด้วยกองผ้า
ทั้งเศษผ้าที่เหยียนซีได้มาจากข้างนอก เสื้อผ้าที่เหลือจากการลงทุนครั้งนี้ และเสื้อผ้าฤดูร้อนราคาถูกที่เธอซื้อมาจากเถ้าแก่เฉิน ซึ่งมันถูกวางกองกันอยู่ในนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดของปี หากมีการผันเปลี่ยนฤดูกาล ก็จะมีเสื้อผ้าของฤดูเก่ามาลดราคาเสมอ
เหยียนซีสอบถามเถ้าแก่เฉินตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว โดยบอกว่าเมื่ออากาศเย็นลง ก็ขอให้เขาช่วยดูว่าใครมีเสื้อผ้าฤดูร้อนค้างส่งที่สามารถขายในราคาถูกได้บ้าง
เถ้าแก่เฉินก็ให้ความสนใจเอามาก ๆ และหาซื้อในจำนวนมากทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ได้รับแรงบันดาลใจจากความคิดของเหยียนซี ทำให้เขาเดินทางไปยังตัวเมืองหลักเพื่อซื้องานค้างส่งในฤดูร้อน แล้ววางแผนที่จะขายมันในราคาที่ถูกหลังจากฤดูใบไม้ผลิ
ระยะนี้เหยียนซียุ่งเกินไป ทำให้ไม่มีเวลาจัดระเบียบโกดังเก็บผ้าเลย
ในเมื่อวันนี้พอมีเวลาว่าง เธอจึงนั่งในโกดังผ้าและจัดผ้าเหล่านี้ ดั่งสำนวนที่ว่า คนไม่ตรองการณ์ไกล ความยุ่งยากใจก็จะใกล้เข้ามา และสิ่งเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับกิจการในปีหน้าด้วย
ไม่จำเป็นต้องจัดเรียงผ้าทั้งหมดก็จริง แต่เหยียนซีตรวจสอบอย่างรอบคอบ ถ้าในกรณีที่หนูแอบเข้ามากัด นั่นจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่เลยทีเดียว
สำหรับเศษผ้าทั้งเล็กและใหญ่ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดระเบียบ
เหยียนซีวางอ่างถ่านไว้ใกล้เท้าของตน แล้วดึงผ้ามาวางซ้อนกันสองกองตามขนาด ยังทำการตัดมุมบางส่วนออกเพื่อให้ผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้นด้วย
จวบจนถึงเวลาเที่ยงก็เป็นอันเสร็จงานอันแสนยุ่งเหยิง ตอนนี้เธอยังมีความสุขที่ได้กินเกาลัดจึงไม่รู้สึกหิว เนื่องด้วยเหยียนซีอยู่บ้านคนเดียวจึงเกียจคร้านเกินกว่าจะทำอาหาร เด็กหญิงเขี่ยเตาถ่านดู เมื่อเห็นว่าเผือกยังไม่สุก อยู่ ๆ ก็นึกถึง ‘เท็ปปังยากิ’ ที่เคยกินเมื่อชาติที่แล้ว
ในยุคนี้ยังไม่มีวิวัฒนาการสำหรับทำกระทะเหล็ก แต่สำหรับวิธีปรับปรุงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
เหยียนซีจึงเดินไปที่ลานบ้านเพื่อหาหินรูปทรงแบน ๆ และโยนมันลงในอ่างถ่าน จากนั้นเธอก็หั่นหมูเค็มสองสามชิ้นด้วยใบมีดโกน และหยิบใบผักกาดขาวมาสองใบ
ในเวลานี้หินแบนในอ่างถ่านก็ร้อนแล้ว เธอใช้กิ่งไม้พลิกหิน แล้ววางหมูเค็มสองสามชิ้นบนหิน เมื่อเนื้อสัมผัสกับหินก็มีเสียง ซ่า และในไม่ช้าน้ำมันก็ไหลออกมา
เหยียนซีคีบหินขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่ง และโยนใบผักกาดขาวด้วยมืออีกข้างไปบนหินที่ยังมีไขมันเกาะอยู่ เธอย่างมันสักพัก ค่อยคีบมาห่อหมูเค็ม กลิ่นหอม ๆ ของใบผักและความเค็มของหมูแห้ง นับว่าอร่อยไม่เบา ให้ความรู้สึกเหมือนกินเนื้อย่างเลย
ทว่าผักกาดขาวไม่ดีเท่าผักกาดหอม เสียดายที่ช่วงนี้ไม่มีผักกาดหอมนอกฤดูกาล เพราะหากใช้ผักกาดหอมมาห่อเนื้อย่างก็จะอร่อยมากขึ้น
แม้รสชาติจะไม่ดีเท่าผักกาดหอม แต่กลิ่นหอม ๆ เค็ม ๆ ของหมูแห้งก็กระตุ้นต่อมรับรสได้ดีนัก ไม่นานก็มีกลิ่นเนื้อลอยเต็มห้อง
ขณะที่เหยียนซีกำลังรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย เธอก็ได้ยินเสียงกลืนน้ำลาย
เสียงคนกลืนน้ำลาย?
ทันใดนั้นเด็กหญิงก็กระโดดโหยงด้วยความตกใจ
MANGA DISCUSSION