บทที่ 79 วางแผนซื้อวัว
แล้วครอบครัวของนายอำเภอหงชื่นชอบขนมไหว้พระจันทร์บัวหิมะมากเพียงใดน่ะหรือ?
เหยียนซีได้ทราบคำตอบในวันถัดไป เพราะหลิวเหิงแจ้งข่าวแก่ตนได้เพียงหนึ่งวัน ในเช้าวันต่อมา นายอำเภอหงได้ส่งนักการประจำศาลาว่าการมาพร้อมสาวใช้อีกหนึ่งคน
เหยียนซีมองไปที่สาวใช้คนนี้ซึ่งสวมเสื้อตัวในสีอ่อน ทับด้วยเสื้อนอกสีฟ้า รูปร่างเพรียวบางและหน้าตาจิ้มลิ้ม เธอเคยเห็นอีกฝ่ายที่วัดชิงหลงในตอนนั้น น่าจะเป็นสาวใช้ประจำตัวฮูหยินผู้เฒ่าของนายอำเภอหง ที่ชื่อว่าสี่เชว่
การที่สี่เชว่ได้เห็นเหยียนซีในครั้งนี้ กิริยาของนางก็สุภาพกว่าที่วัดชิงหลงมาก
นางถือของขวัญไว้ในมือ และเมื่อเดินเข้าประตูมา นางก็ประกาศชื่อแซ่ของตนก่อน จากนั้นจึงทำความเคารพนางหวัง “บ่าวขอคารวะฮูหยินและแม่นางน้อยเจ้าค่ะ เนื่องจากขนมไหว้พระจันทร์บัวหิมะที่หลิวซิ่วไฉส่งไปที่บ้านก่อนหน้านี้ ฮูหยินผู้เฒ่าได้ชิมแล้วเห็นว่าอร่อยมาก จึงให้บ่าวมาสอบถามว่ามีอีกหรือไม่ หวังว่าจะไม่รบกวนฮูหยินและแม่นางน้อยเกินไปเจ้าค่ะ”
นางวางของขวัญที่นำมาด้วยไว้บนโต๊ะหินที่ลานบ้าน และทักทายทั้งสองคนอีกครั้ง “เจ้านายของบ่าวได้สั่งให้บ่าวนำคำขอโทษมาด้วย ต้องขออภัยที่รบกวนฮูหยินและแม่นางน้อยเจ้าค่ะ”
“หามิได้ หามิได้ เกรงใจกันเกินไปแล้ว นั่นก็เป็นแค่ของว่าง ไม่ได้เปลืองแรงเลยสักนิด ใต้เท้าไม่จำเป็นต้องสุภาพกับพวกเราเช่นนี้เลย” นางหวังรีบทักทายตอบด้วยรอยยิ้ม
“พี่สี่เชว่ ข้าไม่คิดว่าจะได้พบกันอีกเร็วขนาดนี้” เหยียนซีทักทายอย่างอบอุ่น “เชิญเข้ามานั่งก่อนเถิด พี่ชายของข้าเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้แล้ว ข้าเองก็ตั้งใจว่าจะทำวันนี้และขอให้คนนำไปส่งที่ตัวอำเภอ เนื่องจากขนมไหว้พระจันทร์บัวหิมะต้องใช้เวลาทำนานกว่าปกติ”
“ไม่มีปัญหา และต้องขอรบกวนพวกฮูหยินด้วย บ่าวสามารถรอให้ฮูหยินและแม่นางน้อยทำงานเสร็จได้เจ้าค่ะ” เห็นได้ชัดว่าวันนี้สี่เชว่นำของติดตัวมาด้วย
“รบกวนอันใดกันเล่า พี่สี่เชว่ ท่านโปรดรอสักครู่ เราจะลงมือทำตอนนี้เลย” เหยียนซีรีบสนองต่อคำขอเร่งด่วน เกรงว่าฮูหยินผู้เฒ่าของบ้านนายอำเภอหงเป็นนักชิมตัวยงเสียกระมัง?
เหยียนซีเพียงคาดเดาในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะหยุดมือ และถือว่าโชคดีที่ยังมีแป้งตั้งหมิ่น แป้งข้าวจ้าวและแป้งข้าวเหนียวเหลืออยู่ในบ้าน
วิธีการทำครั้งที่แล้วเป็นอย่างไร ครั้งนี้ก็ทำตามทุกขั้นตอน มันไม่ได้ลดทอนเวลาลงเลย
นางหวังช่วยเหยียนซีเตรียมการห่อไส้ ด้านเหยียนซีกำลังยุ่งกับการผสมแป้งและเริ่มกวนในกระทะ
สี่เชว่อยากจะไปช่วยในครัว แต่พอเห็นว่านางหวังกับเหยียนซีได้ใช้พื้นที่ทั้งหมดแล้ว จึงไม่มีที่ว่างให้นางช่วยอีก
นางยืนอยู่ในลานบ้านตระกูลหลิวพลางมองไปรอบ ๆ นางเห็นอุปกรณ์เย็บปักที่นางหวังวางไว้ตรงมุมห้อง และเห็นพื้นรองเท้าที่เย็บเสร็จครึ่งหนึ่งอยู่ในตะกร้า นางจึงย้ายเก้าอี้ไปนั่งที่มุมห้องแล้วหยิบพื้นรองเท้าขึ้นมา
เหยียนซีหาโอกาสยกชาและของว่างมาให้ นางจึงรีบยืนขึ้นเพื่อขอบคุณและพูดเพียงว่า “บ่าวไม่คู่ควร” แต่นางก็รับมาวางไว้ข้าง ๆ และทำงานในมือต่อไป
กิริยาเวลาการก้าวไปข้างหน้าและถอยกลับล้วนมีพื้นฐานที่ดี แม้จะมีสัมมาคารวะ แต่ไม่ถ่อมตัวเกินไป ดูเหมือนว่านายอำเภอหงจะมีกฎที่เข้มงวดมาก เพราะเท่าที่เธอได้ติดต่อกับบ่าวรับใช้หลายคนในช่วงเวลาที่ผ่านมา กลับไม่ได้รู้สึกสบายใจที่อยู่ด้วยเช่นนี้เลย
ขณะที่เธอยุ่งอยู่ในครัว ก็จะหาเวลามาเติมน้ำและเติมชาเป็นระยะ หรือทักทายเพื่อไม่ให้สี่เชว่รู้สึกว่าตนได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี
บัดนี้เธอได้ทำขนมไหว้พระจันทร์บัวหิมะสี่สี จำนวนยี่สิบชิ้นเสร็จแล้ว ครั้งนี้เธอเลือกใบงาขี้ม้อนที่สะอาดสำหรับรองด้านล่าง และบรรจุขนมไหว้พระจันทร์อย่างเบามือ
เมื่อยื่นให้สี่เชว่ เด็กหญิงก็กำชับเป็นพิเศษว่า “พี่สี่เชว่ เนื่องจากมีแป้งข้าวเหนียวผสมอยู่ในขนมไหว้พระจันทร์บัวหิมะ ดังนั้นการกินแบบเย็นจะได้รสชาติดีที่สุด แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็อายุมากแล้ว อย่าลืมให้จิบน้ำร้อนตามมาก ๆ เพราะความหวานจะสะสมในร่างกายมากเกินไป”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณแม่นางน้อยสำหรับคำแนะนำ บ่าวจะรายงานฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อกลับไปแน่นอน” สี่เชว่ค้อมกายคารวะและกำลังจะจากไป
“พี่สี่เชว่ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ท่านรอก่อนเถิด อยู่กินอาหารรองท้องที่บ้านข้าก่อน”
“ไม่ได้ ไม่ได้เลยเจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่ายังคงรอให้บ่าวกลับไป หากได้มาอีกคราวหน้า บ่าวค่อยขอรบกวน” สี่เชว่ไม่หยุดเดินแม้แต่ก้าวเดียว นางรีบเข้าไปในรถม้าพร้อมกับสิ่งของในมือ
เหยียนซีและนางหวังแอบสงสัยว่าเป็นผู้ใดในบ้านของนายอำเภอหงที่ชอบกินเหลือเกิน แต่เนื่องจากเป็นสี่เชว่มาเยือน ก็อาจจะเป็นของโปรดสำหรับฮูหยินผู้เฒ่า กระนั้นพวกนางก็ยุ่งกับงานมากเกินไป จึงทำเพียงพูดคุยกันอย่างสบาย ๆ และทั้งสองคนก็รีบไปทำงานต่อ
ตอนนี้เธอมีบ้านหลังคามุงกระเบื้องหลังใหญ่ติดกันสามหลัง เหยียนซีจึงใช้บ้านทางตะวันออกสุดเป็นโกดังเก็บผักดอง
สำหรับลานบ้านของตระกูลหลิวนั้น หลังจากคุยกับนางหวังแล้ว นางทำการเปิดประตูเล็ก ๆ ทิ้งไว้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะลงสลักไว้เสมอ บัดนี้จึงสามารถเดินผ่านระหว่างสองฝั่งได้โดยไม่ต้องออกจากประตูหน้า
พวกนางทำตัวเหมือนมดขนเสบียง โดยช่วยกันย้ายไหผักดองที่ลานบ้านไปยังโกดังข้าง ๆ เมื่อมีโกดังสินค้าแล้ว กิจการก็เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ทั้งวัตถุดิบ การผลิต สินค้าคงคลัง และการจัดจำหน่าย ในที่สุดเหยียนซีก็สร้างกระบวนการผลิตได้สำเร็จ
ในที่ดินฝั่งนี้จะมีการเจาะบ่อน้ำเพื่อสะดวกต่อการมีน้ำใช้สอย สำหรับพื้นรอบบ่อน้ำก็ปูด้วยหินแร่สีเขียว และเหยียนซียังให้วางแท่นหินยาวไว้ข้างบ่อน้ำ ซึ่งมีความกว้างเท่ากับโต๊ะ เวลาลางทีล้างผักจำนวนมากก็จะสะดวกขึ้นมากด้วย
เธอยังได้ขุดคูน้ำเอาไว้ จากนั้นใช้ไม้ไผ่เก่ามาทำเป็นรางน้ำเพื่อใช้ระบายน้ำไปสู่ลำห้วยข้างนอก ด้วยวิธีนี้จะไม่ทำให้น้ำในบ่อถูกปนเปื้อน
ในตอนบ่าย หวังชีนำผักกาดเขียวมาเต็มเกวียน และจัดส่งถึงหน้าบ้านหลังใหม่
“เจ้านาย ผักกาดเขียวเหล่านี้ราคาหนึ่งอีแปะต่อสองจิน ข้าจึงซื้อมาสองร้อยจิน” หวังชีปาดเหงื่อพลางอธิบายให้เหยียนซีรู้ว่าวันนี้เขาใช้เงินไปเท่าไร จากนั้นเขาก็ง่วนอยู่กับการขนผักเข้าลานบ้านใหม่
เหยียนซีคิดว่าที่บ้านมีผักกาดดองอยู่ไม่มากแล้ว เด็กหญิงจึงเริ่มงานล้างผักและตากแห้งอย่างรวดเร็ว
การทำผักกาดดองเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม หวังชีช่วยขนย้ายไหดินเผา เพราะเห็นว่าดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกแล้ว ในตอนนี้ยังต้องเช่าเกวียนสำหรับขนส่งสินค้าและต้องส่งคืนในตอนเย็น มิฉะนั้นจะต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่ม
เหยียนซีรีบบอกให้หวังชีเอาเกวียนไปคืน
หวังชีมาที่นี่บ่อยครั้งและตอนนี้นางหวังก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนคนรุ่นหลังของครอบครัว ตอนที่นางมาส่งหวังชีนั้นอาหารที่บ้านยังไม่พร้อม นางจึงห่อหมั่นโถวสองลูกที่เจอในครัวและยัดใส่มือเขา สำหรับเอาไว้รองท้องระหว่างทาง
หวังชีก็ไม่ปฏิเสธ และสอดหมั่นโถวไว้ในอกเสื้อลูกหนึ่ง อีกลูกหนึ่งก็กินอยู่ในปากพลางตะโกนสั่งวัวเทียมเกวียนให้เดินทางกลับเข้าเมือง
ในลานบ้านใหม่ เหยียนซียังได้ยินเสียงดังเอี๊ยดของเกวียนเทียมวัวที่กำลังแล่นออกไป เธอพูดด้วยความอิจฉาว่า “เราต้องรีบหาซื้อวัว เพราะการมีเกวียนเป็นของตัวเองย่อมสบายกว่า”
“วัวไม่ได้ราคาถูกเลย ถ้าไปตลาดแล้วค่อยสอบถามดู เผื่อว่าจะมีครอบครัวใดเอาลูกวัวมาขาย หากทางการสนับสนุนให้ชาวนาขายวัวมากกว่านี้ก็คงจะดี” นางหวังพึมพำพลางทอดถอนใจ
บัดนี้ทางราชสำนักยังให้ความสำคัญกับการเกษตรเป็นอย่างมาก และเพื่อส่งเสริมการเกษตรและเลี้ยงหม่อนไหม หากครอบครัวใดมีที่ดินมากกว่าห้าหมู่ ก็สามารถลงทะเบียนกับทางการเพื่อซื้อวัวได้แบบถูกกฎหมาย จากนั้นทางการก็จะอุดหนุนเงินทุนบางส่วน อย่างเช่น วัวที่ต้องใช้เงินหลายตำลึงในการซื้อ อาจจะได้จ่ายเพียงหนึ่งหรือสองตำลึงก็พอ
“อาจจะต้องไปดูที่วัวของท่านอาสาม เพราะวัวเด็กจะมีราคาเพียงหนึ่งหรือสองตำลึงเท่านั้น อย่างไรก็มีลูกวัวเกิดต่อเนื่อง และสร้างรายได้ให้เขาทุกปี”
“แต่ทางการก็มากว้านซื้อวัวทุกปีไม่ใช่หรือ” เหยียนซียิ่งคิดยิ่งปวดหัว
“หรือให้เอ้อร์หลางสอบถามจากใต้เท้าดีเล่า?” อย่างไรท่านนายอำเภอหงก็ให้สาวใช้มาที่บ้านเพื่อรับขนมไหว้พระจันทร์บัวหิมะ ดังนั้นพวกตนก็น่าจะสามารถถามเกี่ยวกับสิ่งนี้ได้
“ท่านป้า ลืมเรื่องนี้ไปได้เลย หากไปถามใต้เท้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่าเรื่องจะสำเร็จหรือไม่ แต่บุญคุณได้ติดค้างไปแล้ว” หากในกรณีที่นายอำเภอหง หวังจะได้กินขนมของพวกเธอสักสองสามเดือน เพราะคิดว่าพวกนางหวังจะอาศัยเส้นสาย คงจะเป็นความประทับใจที่ไม่ดีเลย
เหยียนซีกัดฟันพูด “มันอาจจะแพงกว่า สิ่งที่เราต้องจ่ายนั้นอาจมีมูลค่าสามหรือห้าตำลึงเลย”
นางหวังก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะหนี้บุญคุณเช่นนี้ คนตัวเล็ก ๆ แบบพวกนางไม่สามารถจ่ายไหว จึงดีกว่าที่จะไม่โลภในของราคาถูก
อีกไม่กี่วันจะมีตลาดนัด พวกนางควรไปที่ตลาดวัวและแกะเองเลยดีกว่า เผื่อว่าจะมีตัวไหนที่สามารถซื้อได้
MANGA DISCUSSION