บทที่ 58 ไม่พอขายจริง ๆ
เหยียนซียืนอยู่ตรงประตูภัตตาคารร้องขายกระเป๋าปัก
บัณฑิตสองสามคนที่ถูกเหยียนซีขวางไว้ เมื่อเห็นเด็กคนหนึ่งขวางทาง ก็กล่าวออกมาว่า “ไม่” โดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อได้ยินคำถามชัด ๆ ว่าต้องการถอนกิ่งกุ้ยฮวาในวังจันทราหรือไม่ ก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “เอาสิ ย่อมต้องเอาอยู่แล้ว”
เหยียนซียื่นกระเป๋าปักลายดอกกุ้ยฮวาออกไป “ยินดีกับนายท่านที่ได้ถอนกิ่งกุ้ยฮวาในวังจันทรา ราคาสิบห้าอีแปะ”
สิ่งใดที่แพงที่สุดกันเล่า
ย่อมเป็นสิ่งของที่สามารถเติมเต็มสิ่งที่ใจของลูกค้าต้องการได้
เซียมซีหนึ่งแท่งที่วัดชิงหลงกว้างเพียงแค่สองนิ้ว ก็เป็นเพราะเป็นพุทธโอวาทที่พระโพธิสัตว์นำทาง สถานะจึงได้เปลี่ยนไปในทันที
ในเมืองถงอัน ตอนนี้ล้วนมีแต่เหล่าถงเซิงที่มาเพื่อร่วมสอบเยวี่ยนซื่อ ต่อให้เธอหยิบผ้าขี้ริ้วหนึ่งผืนมาแล้วบอกว่าเป็นของที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการสอบ เพียงเพื่อความเป็นมงคล พวกเขาก็เต็มใจจ่ายเงิน
เหยียนซีเลือกภัตตาคารแห่งนี้ เพราะดูก็รู้ว่ามีการตกแต่งที่ดูหรูหรา เหล่าบัณฑิตที่เข้าออกสถานที่แห่งนี้จะต้องไม่ใช่คนจนเป็นแน่
ดังนั้นเหยียนซีจึงตั้งราคากระเป๋าสิบห้าอีแปะโดยไม่เกรงใจ
บัณฑิตผู้นั้นได้ยินคำว่า ‘ยินดีที่ได้ถอนกิ่งกุ้ยฮวาในวังจันทรา’ ก็จ่ายเงินสิบห้าอีแปะอย่างมีความสุข และรับกระเป๋าไป
เหยียนซีตะโกนขายของอย่างไม่รู้จบ สักพักก็เอากระเป๋าลายความสุขอายุยืน และกระเป๋าลายว่านจื้อ*[1]ออกมารวมกัน บอกว่านี่คือ ‘ความสุขพร้อมโชคและเงินทอง จะประสบความสำเร็จในการสอบ’ จากนั้นก็นำลายดอกกุ้ยฮวาเพิ่มลายกิ่งไผ่ ตะโกนว่า ถอนกิ่งกุ้ยฮวาในวังจันทราดังขึ้นอีกทีละนิด
ถนนสายหลักเส้นนี้คนเดินผ่านไปมาไม่น้อย มีบัณฑิตบางส่วนที่เดินผ่าน ได้ยินเสียงเด็กหญิงตะโกนขายก็จงใจหยุดแล้วให้คนรับใช้มาซื้อไปบ้าง
สุราชั้นดีในภัตตาคารไหหนึ่งก็ล้วนเริ่มต้นที่หนึ่งตำลึง ใช้อีกไม่กี่สิบอีแปะเพียงเพื่อคำที่เป็นมงคลก็ถือว่าคุ้มค่าเหลือเกินแล้ว
ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม กระเป๋าหลายสิบใบที่เหยียนซีแบกใส่หลังมาก็ถูกขายไปจนหมดเกลี้ยง สุดท้ายมีบัณฑิตคนหนึ่งพาเด็กรับใช้สองคนมา เพียงเห็นว่าที่ชั้นสินค้าว่างเปล่าก็ขมวดคิ้วมุ่น
เหยียนซีไม่กล้าพูดคำพูดที่ไม่มงคลเช่นนั้น เธอหัวเราะแล้วแก้เชือกสีแดงที่ห้อยตรงชั้นวางกระเป๋าลง ผูกเป็นเชือกจีนถักแบบสมัยใหม่อย่างรวดเร็ว “ขอให้นายท่านสมหวังในทุกเรื่อง ประสบความสำเร็จกับทุกสิ่ง”
บัณฑิตผู้นั้นหัวเราะฮ่า ๆ พลางหยิบเอากระเป๋าเงินติดตัวออกมาแล้วกล่าวว่า “ให้เจ้าเป็นรางวัล” จากนั้นก็ให้เด็กรับใช้เอาเชือกจีนถักนั้นจากไป
เหยียนซีกลัวว่าหากมีอีกคนมาขอคำมงคลอีก เธอจะไม่สามารถถักเชือกอีกเส้นได้แล้ว จึงรีบเก็บร้านพัลวันก่อนส่งให้คนงานร้านเย็บปัก “เจ้าของร้านเฉียน กระเป๋าของข้าขายหมดแล้ว รบกวนท่านเอาผ้าที่ตกลงกันไว้มอบให้ข้าด้วย”
ก่อนหน้านี้เจ้าของร้านเฉียนคิดว่าเขาน่าจะมีความสามารถขายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ผลก็คืออีกฝ่ายกลับขายจนหมดเกลี้ยง ทำกิจการอวยพรเช่นนี้ ทุกคนล้วนคุ้นเคยดี เหยียนซีกล่าวออกมาตรง ๆ เช่นนี้ ล้วนทำให้คนโบราณที่ใช้ความหมายแฝงล้วนตะลึง
เจ้าของร้านเฉียนยังไม่ทันเอ่ยปาก ก็มีเสียงปรบมือดังมาจากภัตตาคาร “กล่าวได้ดี รับมือได้ดี”
เหยียนซีเงยหน้าไปมอง ก็เห็นกลุ่มคนที่ชั้นบน หนึ่งในนั้นก็คือหลิวเหิง
เฉินโหย่วฝูปรบมือ กล่าวกับหลิวเหิงด้วยรอยยิ้ม “เชิญน้องเจ้าขึ้นมานั่งหน่อยดีหรือไม่”
หลิวเหิงส่ายหน้า “ท่านแม่ข้าไม่วางใจให้นางมาที่เมืองหลวงกับข้า นี่ก็ได้เวลาแล้ว ให้นางรีบกลับไปพักผ่อนที่โรงเตี๊ยมจะดีกว่า”
เหยียนซีมาทำการค้าขายคนเดียวก็เรื่องหนึ่ง ถ้าหากวันนี้อยู่ที่บ้านกินข้าวด้วยกันโดยมีเพื่อน ๆ เป็นแขกก็อีกเรื่อง
แต่ตอนนี้เป็นห้องส่วนตัวที่ภัตตาคาร นั่งกินข้าวกับผู้ชายแปลกหน้า หรือถ้าหากพวกเฉินโหย่วฝูดื่มสุรา เช่นนั้นสำหรับเด็กหญิงแล้ว จะไม่เหมาะเป็นอย่างมาก เขาย่อมไม่ให้เหยียนซีต้องคับข้องใจเช่นนั้น
“เกรงว่าอาจารย์จะกลับมาแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถิด อีกเดี๋ยวข้าก็จะกลับ”
เหยียนซีพยักหน้า เธอไม่เข้าใจการป้องกันระหว่างชายหญิงที่อ้อมค้อมเช่นนี้ เด็กหญิงเลยมองหลิวเหิงไปกินข้าวกับเพื่อน ๆ ที่ตนเองก็ไม่รู้จัก
ตอนนี้เกรงว่าเผยซิ่วคงจะกลับโรงเตี๊ยมแล้ว เธอย่อมอยากจะกลับให้เร็วหน่อย เด็กหญิงจึงโบกมือให้คนด้านบนอย่างอารมณ์ดี และรีบกลับไปที่โรงเตี๊ยม
ตอนที่เฉินโหย่วฝูเรียกให้เหยียนซีขึ้นไปข้างบน กลับไม่ทันได้นึกถึงชื่อเสียงของหญิงสาว เพียงได้ยินว่าหลิวเหิงให้เหยียนซีกลับไป เขาก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “หลิวเสียนตี้อย่าได้ถือโทษ เป็นเพราะน้องสาวเจ้าฉลาดเฉลียวอย่างมาก ข้าเพียงชื่นชมอย่างบริสุทธิ์ก็เท่านั้น”
“ขอบคุณความหวังดีของพี่เฉินมาก น้องสาวข้ายังอายุน้อยไม่เคยเห็นโลกกว้าง หากเสียมารยาทก็หวังว่าจะไม่ถือโทษโกรธกัน”
พวกเขาล้วนทำตัวสุภาพต่อกันอยู่ในร้านอาหาร ก่อนจะเปิดเผยเรื่องนี้ออกมา จากนั้นก็นั่งลงพูดคุยกันถึงบทกลอน
เจ้าของร้านเฉียนเห็นว่าเหยียนซีเป็นน้องของเพื่อนนายน้อย ก็ย่อมไม่ให้อีกฝ่ายยกของด้วยตนเอง ถามให้ชัดเจนถึงโรงเตี๊ยมที่พวกเขาพัก บอกเหยียนซีว่าอีกเดี๋ยวคนงานของเขาจะนำของไปส่งให้
เหยียนซีทำท่าโค้งคำนับไปยังเหล่าคนที่มาดูความคึกคักรอบ ๆ รวมไปถึงชายหนุ่มผู้นั้นที่ช่วยทวงความยุติธรรม จากนั้นก็จากไปท่ามกลางเสียงชื่นชมและวิจารณ์ของทุกคน
กลับมาถึงโรงเตี๊ยม เผยซิ่วไปพบเพื่อนยังไม่กลับมา เห็นว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว วันนี้ขายกระเป๋าหมดอย่างน่าประหลาดใจ ต่อให้มีเพียงตนเองกินคนเดียว เธอเองก็ตั้งใจจะทำอาหารดี ๆ สักมื้อกิน เพื่อปลอบใจตนเองเสียหน่อย
เธออยากจะพัฒนาฝีมืออาหาร หลังจากสอบถามจากเจ้าของโรงเตี๊ยมแล้ว เด็กหญิงก็ไปเดินดูที่ตลาดใกล้ ๆ ตอนนี้ยังไม่มีพวกตลาดอาหารเช่นยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่รอบ ๆ ล้วนเป็นชาวบ้านที่เอาผักผลไม้จากบ้านของตนมา รีบไปตั้งร้านยังที่ที่คนนิยมขายผักกัน
เหยียนซีเห็นว่าชนิดของผักไม่ต่างจากที่อำเภอหมิงสุ่ยนัก พอดีกับที่มีคนขายปลา ปลานั้นราคาถูกกว่าเนื้อมาก เพียงหนึ่งร้อยอีแปะก็สามารถซื้อได้กว่ายี่สิบตัวแล้ว ที่แผงปลายังมีปลาช่อนตัวใหญ่สดใหม่ ดูมันยังกระโดดโลดเต้นได้อยู่เลย
คนยุคปัจจุบันล้วนกล่าวว่าปลานั้นมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าเนื้อ ไขมันต่ำทั้งยังบำรุงสมอง และปลาช่อนก็ยิ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามันสามารถบำรุงได้ดี
เดี๋ยวหลิวเหิงก็จะต้องสอบแล้ว ซื้อไปบำรุงสักตัวก็ไม่เลว ซุปปลามีคุณค่าทางอาหารสูงสุด แต่ครั้งนี้เธอยังเอาผักดองมาด้วย มาถึงที่นี่ก็นานแล้ว เธอก็คิดถึงรสชาติของต้มปลาผักกาดดองเล็กน้อย
เหยียนซีเลือกปลาช่อนตัวใหญ่ตัวหนึ่ง พ่อค้าปลาจริงใจบอกว่าหาเงินทอนยากนัก จึงได้เลือกปลาเล็ก ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือมาสองสามตัวเพื่อเป็นของแถม
เหยียนซีถือกลับโรงเตี๊ยม ยืมมีดมาจากครัวของโรงเตี๊ยม จากนั้นก็หั่นเนื้อปลาช่อน
จากนั้นก็นำผักกาดดองที่ตนนำมาด้วยล้างให้สะอาด
กระทะร้อน น้ำมันเย็น ทั้งยังมีพริก และยังใช้ได้เพียงขิงฝานเป็นส่วนผสมหลัก เพิ่มพริกไทยและพริกเสฉวนไปอีกเล็กน้อย เครื่องปรุงทั้งสองชนิดนี้เธอเพิ่งค้นพบตอนมาถึงเมืองถงอัน มีเครื่องปรุงสองชนิดนี้ รสชาติของหมาล่าก็อยู่ไม่ไกลแล้ว
ในฐานะคนยุคปัจจุบัน ใครจะต้านทานความยั่วยวนของหมาล่าได้เล่า
หากปลาไม่สุกดีก็จะมีกลิ่นคาวมากไป และส่งผลต่อความอยากอาหาร อย่างไรวันนี้ก็หาเงินได้อย่างไม่คาดคิดแล้ว เหยียนซีอยากจะจุ้มเนื้อปลาลงไปในน้ำมันอย่างฟุ่มเฟือยเสียหน่อย ต่อจากนั้นก็ขอเพียงใส่ผักกาดดองลงไป ใส่เนื้อปลา แล้วปรุงรสชาติให้เข้ากันเป็นใช้ได้
ทำอาหารจานหลักเสร็จแล้ว ก็ต้องใช้น้ำมันที่ใช้ทอดปลาช่อนเสร็จแล้วซ้ำ นำเหล่าปลาตัวเล็ก ๆ มาจัดการ ชุบแป้งเปียกเล็กน้อยแล้วทอดน้ำมันท่วมให้เหลืองทองกรุบกรอบ ก็มีกลิ่นหอมเตะจมูกเช่นกัน
อาหารทุกมื้อจะขาดผักไปไม่ได้ เพื่อเก็บแรงไว้หน่อย ก็ใช้น้ำเดือดต้มผักปวยเล้ง
ต้มปลาผักกาดดองหม้อใหญ่ เพียงพอให้กินสองมื้อแล้ว
จนกระทั่งเธอทำงานเสร็จเรียบร้อย กำลังคิดจะตักข้าวขึ้นโต๊ะไปกินที่ห้องพัก เจ้าของร้านเฉียนก็พาลูกน้องนำเศษผ้ามาส่ง
เจ้าของร้านเฉียนเป็นเถ้าแก่กิจการของตระกูลเฉินในเมืองถงอัน เรื่องเล็กเช่นนี้ เดิมทีย่อมไม่ต้องให้เขามาลงมือทำด้วยตัวเอง
แต่เขาก็เป็นคนกระทำการทุกขั้นตอน เมื่อรู้ว่าเหยียนซีเป็นน้องของหลิวเหิง และหลิวเหิงยังเป็นคนที่นายน้อยของตนเต็มใจจะกินอาหารร่วมกัน เขาก็ย่อมต้องไว้หน้าเหยียนซีให้มาก
ดังนั้นเขาจึงได้พาลูกน้องมา และตัวเองก็มาด้วย
MANGA DISCUSSION