บทที่ 19 การสอบฝู่ซื่อที่ไม่คาดคิด
“ข้าน้อยขอคำนับเหล่าฮูหยิน ขอเหล่าฮูหยินมีแต่โชคดีเจ้าค่ะ” เหยียนซีทำตามท่าทางของสาวใช้คนเมื่อครู่ พลางโค้งตัวลงคำนับ เมื่อคำนับเสร็จก็เงยหน้าขึ้น เธอเห็นเหล่าฮูหยินผู้ปักปิ่นทอง รูปร่างผอมบางนั่งอยู่ในเกี้ยว
ในบรรดาดอกไม้ที่เหยียนซีนำมา ดอกหอมหมื่นลี้นั้นมีกลิ่นหอมที่สุด เมื่อลมพัดมาก็จะมีกลิ่นหอมโชย ทำให้คนรู้สึกสบายอย่างมาก
เหล่าฮูหยินผู้นั้นนั่งรถม้ามาตลอดทาง จึงเหนื่อยล้าเล็กน้อย เพียงลมบนเขาพัดมาก็ได้กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกหอมหมื่นลี้ พลันรู้สึกสบายตัวขึ้นมาทันที “เด็กเพียงนี้ยังรู้จักออกมาขายของ ทางบ้านของเจ้าคงลำบากสินะ ผู้ใหญ่ที่บ้านเจ้าเล่า กระเช้าดอกไม้นี้ขายอย่างไรหรือ”
“เรียนเหล่าฮูหยิน ข้ามากับท่านป้าเจ้าค่ะ เป็นเพราะได้ยินว่าวันนี้นายหญิงแห่งบ้านท่านขุนนางปกครองอำเภอจะมาให้ทานซิ่วท้อที่วัดชิงหลง พวกเราก็อยากจะรับพรด้วยจึงได้มาตั้งแต่เช้าตรู่ ท่านป้าของข้าไปรับซิ่วท้อเจ้าค่ะ บ้านข้าไม่มีฝีมืออย่างอื่น ก่อนหน้านี้ได้ยินคนบอกว่าถ้าถวายดอกไม้ให้พระจะได้บุญสิบประการ ดังนั้นข้าจึงได้สานกระเช้าดอกไม้มาเจ้าค่ะ”
เด็กหญิงเอ่ยถามเสียงดังฟังชัดอีกครั้ง “นายหญิง ท่านคือเจ้าของวันเกิดแห่งบ้านท่านขุนนางปกครองอำเภอใช่หรือไม่เจ้าคะ”
“เด็กหญิงผู้นี้ตาถึงจริง ๆ นายท่านของข้าคือขุนนางอำเภอนี้” สาวใช้ที่มาเรียกเธอเมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าเป็นหัวหน้าสาวใช้ข้างกายเหล่าฮูหยิน พอจะมีตำแหน่ง ทว่าคำถามของเหยียนซีนั้น เหล่าฮูหยินย่อมไม่ตอบ เธอจึงกล่าวต่อ
“ดีเหลือเกิน ข้าได้พบเหล่าฮูหยินจริง ๆ ด้วย” เหยียนซีหยิบกระเช้าดอกไม้ใหญ่ที่งดงามสดใสขึ้นมาอย่างมีความสุขเต็มเปี่ยม ข้างบนนั้นยังมีกล่องเล็ก ๆ ที่มีฝาปิดอยู่ด้วย
“สิ่งนี้ข้าขอมอบให้เหล่าฮูหยิน ขอให้เหล่าฮูหยินอายุยืนยาวดั่งเขาทักษิณ มีโชคลาภดุจทะเลบูรพาเจ้าค่ะ” กล่าวจบเด็กหญิงก็ชี้ไปยังกล่องเล็ก ๆ นั้น
“เมื่อวานหลังจากพวกข้าบอกว่าจะมาวัดชิงหลง เมื่อคืนนี้ข้าก็ฝันว่ามีท่านยายใจดีพาข้าไปขุดโสมไผ่ในป่า นางบอกว่าเห็ดเยื่อไผ่ทั้งเก้านี้คือการยืมดอกไม้ถวายพระ ให้ข้ามอบมันให้ผู้ที่มีชะตาต้องกันเจ้าค่ะ”
เด็กหญิงเปิดฝานั้นออก เผยให้เห็นเห็ดเยื่อไผ่ทั้งเก้า “พี่ชายข้าบอกว่า ความหมายของการยืมดอกไม้ถวายพระ ก็คือการยืมมือข้ามอบของให้ผู้อื่น ข้าจึงคิดว่า เดิมทีวันนี้ท่านป้าคงไม่พาข้ามาที่วัดชิงหลง แต่เพราะได้ยินว่านายหญิงจะมาแจกทานซิ่วท้อ นางจึงได้พาข้ามา เช่นนั้นโสมไผ่เหล่านี้ คงจะเป็นพระโพธิสัตว์ยืมมือข้ามอบให้นายหญิง เดิมทีข้ากลัวว่าจะไม่ได้พบผู้สูงศักดิ์ แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้พบท่านจริง ๆ นี่ต้องเป็นการนำทางของพระโพธิสัตว์เป็นแน่เจ้าค่ะ”
หลังเหยียนซีกล่าวคำจบ ก็นำกระเช้าดอกไม้และกล่องนั้นยกขึ้นเหนือหัวอย่างเคารพนบนอบ
คนโบราณเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ เมื่ออยู่หน้าประตูวัด ย่อมไม่มีใครกล้าเอาเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติมาพูดเล่นเป็นแน่
อีกทั้งคำพูดนี้ของเหยียนซี หลังจากเหล่าฮูหยินได้ยินก็ยิ่งมีความสุข จะมีอะไรเทียบกับวันเกิดที่มีโชคจากการนำทางของพระโพธิสัตว์ได้กัน สิ่งนี้ยิ่งทำให้คนมีความสุขไม่ใช่หรือ
โสมไผ่เป็นหนึ่งในสมุนไพรแปดอย่าง ทุกคนต่างก็บอกว่าหาได้ยาก
ในบรรดาหญิงเหล่านั้น ต่อให้มีคนไม่เห็นด้วยในใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาว่าเด็กสาวบ้านนอกโกหกในเวลาเช่นนี้
ดังนั้น เพียงเหยียนซีกล่าวจบ คนที่อยู่รอบ ๆ ก็คอยเอาอกเอาใจขึ้นมาอย่างสนุกสนาน
“นายหญิงช่างโชคดียิ่งนัก โสมไผ่นี้เป็นของดีบำรุงร่างกาย หาได้ยากนัก”
“พระโพธิสัตว์รู้ว่าวันนี้ท่านจะมาไหว้พระ จึงได้นำทางมาเป็นพิเศษ”
“นั่นน่ะสิ นี่เป็นยาวิเศษที่พระโพธิสัตว์มอบให้ เหมือนกับหวังหมู่เหนียงเหนียงประทานลูกท้อให้อย่างไรอย่างนั้น นายหญิงช่างโชคดียิ่งนัก”
แม้แต่พระสงฆ์ที่รับแขกอยู่ก็เอ่ยออกมาเช่นกัน “อามิตตาพุทธ เหล่าฮูหยินมีเมตตา พระโพธิ์สัตว์ย่อมเป็นห่วงเป็นใย”
เหล่าฮูหยินได้ฟังก็มีความสุข จะมัวดูว่ากระเช้าดอกไม้เป็นอย่างไรเสียที่ไหน จึงให้สาวใช้รับเอามา “เด็กอย่างเจ้าช่างมีจิตใจดีนัก พวกเจ้า มอบรางวัลเสีย”
สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ นำกระเป๋าเงินออกมาแล้วยัดใส่มือของเหยียนซีทันที
“เหล่าฮูหยิน โสมไผ่เหล่านี้ให้เปล่า ๆ เจ้าค่ะ”
“เด็กโง่ นี่ไม่ใช่เงินซื้อกระเช้าดอกไม้กับโสมไผ่ของเจ้า นี่เอาไว้ให้เจ้าไปซื้อขนมกิน” เหล่าฮูหยินมองกระเป๋าเงินแวบหนึ่ง ก็ยังรู้สึกไม่พอใจนัก
“เจ้าค่ะ ขอบคุณเหล่าฮูหยิน” เหยียนซีกล่าวขอบคุณอย่างคิดไม่ถึงกับเรื่องดี ๆ เช่นนี้
“กระเช้าดอกไม้ของเจ้าสานได้ประณีตนัก หากถามราคาต่อหน้าพระจะดูไม่ดี สี่เชว่เจ้านำเงินให้เด็กคนนี้อีกพวง และช่วยข้าเลือกกระเช้าดอกไม้อีกสักสองใบ เมื่อครู่เด็กคนนี้บอกว่าถวายดอกไม้ให้พระจะดูงดงามไม่ใช่หรือ ให้เหล่าคุณหนูถวายพระสักสองใบ ความคิดเฉียบแหลม อายุยังน้อยแต่กลับมีใจเลื่อมใสเพียงนี้ จะต้องได้รับพรเป็นแน่ ต้องให้รางวัลนางอีก”
“เจ้าค่ะ” สาวใช้ที่ชื่อสี่เชว่มาเลือกกระเช้าดอกไม้อีกสองใบ จากนั้นก็นำเงินอีกหนึ่งพวงใส่เข้าไปในกระเป๋า
เงินพวงหนึ่งมีมูลค่าหนึ่งพันอีแปะ นับเป็นหนึ่งตำลึง กระเช้าดอกไม้สองใบหนึ่งพันอีแปะ ก็ถือว่าขายกระเช้าดอกไม้ใบละห้าร้อยอีแปะ เมื่อคนรอบ ๆ ได้ยินก็อิจฉาตาร้อนขึ้นมา
ทว่าจะอิจฉาก็ไม่ได้ ใครให้คนเขาได้รับความสนใจจากผู้สูงศักดิ์เล่า
“เจ้าค่ะ ๆ ขอบคุณเหล่าฮูหยิน ขอบคุณพี่สาวคนสวย พระโพธิสัตว์จะต้องอวยพรให้เหล่าฮูหยินสมหวังดั่งตั้งใจทุกประการ…” เพียงเหยียนซีจับถุงเงิน คำพูดมงคลก็ยิ่งถูกเอ่ยออกมา
เหล่าฮูหยินเห็นนางแต่งตัวไม่ดี ท่าทางคำนับก็ธรรมดา แต่คำพูดคำจากลับดูงดงามอย่างมาก “ดูจากคำพูดคำจาของเจ้า เคยอ่านหนังสือที่บ้านหรือไม่”
“เรียนฮูหยิน พี่ชายข้าศึกษาเล่าเรียน ข้าก็เพียงแค่จดจำคำจากเขาไม่กี่คำเท่านั้นเจ้าค่ะ ปีนี้พี่ชายของข้าสอบผ่านเซี่ยนซื่อ เขาบอกว่าล้วนเป็นเพราะท่านขุนนางสั่งสอนอย่างถูกต้อง อำเภอหมิงสุ่ยของเราจึงได้มีคนตั้งใจศึกษาเล่าเรียน แต่น่าเสียดายที่เขาป่วย จึงพลาดการสอบฝู่ซื่อเมื่อเดือนสี่เจ้าค่ะ”
“ฝู่ซื่อหรือ” เหล่าฮูหยินครุ่นคิด “ปีนี้การสอบฝู่ซื่อมีเดือนห้า พี่ชายของเจ้ายังสอบทันนะ”
“ขอบคุณเหล่าฮูหยินที่บอกให้ทราบเจ้าค่ะ ข้ากลับบ้านไปจะบอกข่าวกับพี่ชายทันที นี่ช่างเป็นพระโพธิสัตว์ดลบันดาลจริง ๆ ได้พบกับผู้สูงศักดิ์ ไม่เช่นนั้นพวกข้าคงไม่ทราบเจ้าค่ะ”
เรื่องการเริ่มสอบฝู่ซื่อนี้ไม่ใช่ความลับอันใด สำหรับเหล่าฮูหยินก็เป็นเพียงคำพูดจากน้ำใจเท่านั้น
แต่สำหรับตระกูลหลิวแล้ว เป็นเรื่องดีเกินคาดจริง ๆ !
เหล่านายหญิงและคุณหนูคนอื่น ๆ เดิมทีก็ทำตามคำสั่งของหัวหน้าครอบครัว มาเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับขุนนางปกครองอำเภอ
พวกนางเห็นว่าเหล่าฮูหยินซื้อ ก็ย่อมเต็มใจใช้เงินเล็กน้อยเพื่อความสนุกเช่นกัน
เหล่าฮูหยินบอกว่าต่อหน้าพระ ให้พูดคำว่าสิบอีแปะให้น้อย เมื่อให้เงินร้อยอีแปะมากหน่อย ก็พากันเลือกกระเช้าดอกไม้ทีละใบ
เมื่อเห็นคนกลุ่มนี้เดินเข้าประตู เด็กหญิงก็แตะถุงเงิน อดไม่ได้ที่จะกระโดดโลดเต้น
นางหวังจุดธูปไหว้พระที่วิหารขุยสิง จากนั้นก็ไปรับซิ่วท้อ รีบเร่งกลับมาก็เห็นเหยียนซียืนอยู่ตรงแผงไม้ไผ่ว่างเปล่า “ซีเอ๋อร์ กระเช้าดอกไม้ของเราเล่า”
“ท่านป้า ๆ เหล่าฮูหยิน ฮูหยิน และพวกคุณหนูใจดีนัก ซื้อไปหมดแล้วเจ้าค่ะ มีข่าวดีอีกด้วย การสอบฝู่ซื่อปีนี้จะมีขึ้นในเดือนห้า เรารีบกลับบ้านไปบอกพี่เอ้อร์หลางกันเถิด”
“นี่… เป็นเรื่องจริงหรือ” นางหวังถามอย่างงุนงง “ขายกระเช้าดอกไม้หมดแล้วหรือ”
“เหล่าฮูหยินบอกเองกับปากเลยเจ้าค่ะ ท่านป้า พวกเราต้องรีบกลับกันแล้ว”
“อ้อ จริงด้วย รีบกลับเร็วหน่อย ก่อนผู้เฒ่าขุยซิงอวยพร เอ้อร์หลางบอกมาตลอดว่าการสอบฝู่ซื่อคือเดือนสี่”
จริง ๆ แล้วนี่คือข้อเสียของการที่ชนบทขาดแคลนข่าวสาร ถ้าหากไม่ใช่เพราะวันนี้มาขายกระเช้าดอกไม้ที่วัดชิงหลง ก็คงไม่ทราบข่าวเช่นนี้จากเหล่าฮูหยิน
สำหรับนางหวังแล้ว นี่คือหลักฐานพิสูจน์ว่าเหยียนซีคือดาวนำโชคของลูกชายนางจริง ๆ
MANGA DISCUSSION