บทที่ 53 หลักฐาน
เกาซูยังมองไม่เห็นฟู่จิงซือในฝูงชน ดูเหมือนว่าเขาจะหลบซ่อนตัวอยู่ แต่ไม่เป็นไร ถ้าเขาไม่ยอมออกมา เธอก็จะไปตามหาเอง!
เกาซูจัดเสื้อผ้าและผมเล็กน้อย จากนั้นก็สาวเท้ามุ่งหน้าไปยังเขตหอพัก
ระหว่างทาง เสี่ยวเจียววิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเกาซู จับมือเธอแล้วกระซิบบอกอะไรบางอย่าง
เกาซูพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ “อืม ฉันรู้แล้ว”
หลังจากนั้น เสี่ยวเจียวก็เดินเคียงข้างเกาซู ตามเธอเข้าไปในอาคารหอพักหลังหนึ่ง
“คุณเกาซู ทำไมเรามาที่นี่ล่ะ? ไม่ใช่ที่นี่นะ…” เสี่ยวเจียวพูดอย่างร้อนรน
แต่เกาซูไม่ได้ตอบอะไร เธอมุ่งตรงไปที่ห้องพักห้องหนึ่งบนชั้นสอง แล้วเคาะประตูเสียงดัง
เสียงเคาะประตูดังสนั่นหวั่นไหว
แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างใน
ตอนนี้ ผู้คนที่มามุงดูเหตุการณ์ต่างเบียดเสียดกันอยู่เต็มระเบียงชั้นสอง แทบจะไม่มีที่ว่างเหลือ แม้กระทั่งบนบันไดและชั้นล่างก็เต็มไปด้วยผู้คนที่เงยหน้ามองขึ้นไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและตื่นเต้น
แต่ไม่ว่าเกาซูจะเคาะประตูเสียงดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครเปิดประตูออกมาจากข้างใน
“เป่าเจียงซานอยู่บ้าน! ฉันเพิ่งเห็นเขาเมื่อกี้!” มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากใครสักคนในกลุ่มคนดู
ดังนั้น ผู้ชมบนชั้นสองจึงเริ่มช่วยกันตะโกนและเคาะประตู เสียงร้องเรียก “เป่าเจียงซาน เทียนหรูเฟิง ฉันรู้ว่าพวกคุณอยู่บ้าน” ดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดประตูก็เปิดออก
ชายวัย 30 กว่าปียืนอยู่หลังประตู มองเกาซูด้วยสีหน้าเย็นชา “เธอเป็นใคร? มาทำอะไรที่บ้านของเรา?” พูดจบก็ทำท่าจะปิดประตู แต่เกาซูไวพอที่จะยื่นมือเข้าไปขวางไว้
“คุณรู้สึกผิดอะไรอยู่หรือไง?” เกาซูตะโกนถาม
“ฉันไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ จะไปรู้สึกผิดอะไรได้?” สีหน้าของชายคนนั้นยิ่งบึ้งตึงขึ้น “เธอพาคนมากมายมาก่อกวนที่บ้านของฉัน ฉันจะแจ้งหน่วยรักษาความปลอดภัยแล้วนะ!”
เกาซูหัวเราะเยาะ “ไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ? แล้วทำไมถึงพยายามทุกวิถีทางที่จะไล่ฉันออกจากโรงงาน?”
“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร จะไปไล่เธอออกทำไม?” สีหน้าของชายคนนั้นเริ่มโกรธ พยายามจะปิดประตูอีกครั้ง
แต่เกาซูใช้แรงดันประตูไว้ เสี่ยวเจียวก็เข้ามาช่วยอีกแรง
“เพราะคุณกลัวว่าฉันจะมาแย่งบทดาวเด่นของคุณไงล่ะ!” เกาซูจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “คุณเป็นนักออกแบบของโรงงานไม่ใช่เหรอ? เสื้อผ้าหลายพันตัวที่ฉันเอามาดัดแปลงล้วนเป็นผลงานการออกแบบของคุณทั้งนั้น คุณคงไม่พอใจสินะที่คนงานชั่วคราวอย่างฉันกล้าวิจารณ์ว่างานออกแบบของคุณมันห่วยแตกแค่ไหน แถมยังกล้าดัดแปลงมันจนขายได้ราคาดีกว่าของคุณตั้งหลายเท่า!”
สีหน้าของชายคนนั้นแสดงความตื่นตระหนกชั่วขณะ “เธอกำลังพูดเหลวไหลอะไรของเธอ?”
“ฉันพูดเหลวไหลงั้นเหรอ?” เกาซูพูดเสียงดัง “คนงานชั่วคราวอย่างฉันมาที่โรงงาน แบบที่ออกแบบก็ขายดีมาก แล้วต่อไปจะเป็นยังไง? โรงงานจะจ้างฉันมาเป็นนักออกแบบจริง ๆ จัง ๆ หรือเปล่านะ? แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณล่ะ? แพ้ใครไม่แพ้ แต่ดันแพ้ผู้หญิง ฉันพูดถูกไหมล่ะ? เพราะฉะนั้น คุณถึงได้ให้น้องเขยของคุณ ซึ่งก็คือฟู่จิงซือ ยุยงคนงานในโรงงานให้มาแตกคอกับฉัน!”
“พูดเหลวไหล! ไปให้พ้นเลยไป!” ชายคนนั้นแสดงสีหน้าโมโหจนควบคุมไม่อยู่
“คุณร้อนใจแล้วใช่ไหมล่ะ? ร้อนใจแบบนี้ แสดงว่าฉันพูดถูกสินะ!”
เกาซูมองเขาอย่างเย็นชา “แล้วผลเป็นยังไงล่ะ? วิธีของฟู่จิงซือล้มเหลว คนงานในโรงงานไม่อยากร่วมก่อเรื่องกับฟู่จิงซืออีกแล้ว ทุกคนอยากใช้ชีวิตดี ๆ ทำงานดี ๆ แล้วคุณจะทำยังไงได้? นอกจากการหาวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำลายผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็คือการสร้างข่าวลือเสียหายเรื่องชู้สาว! ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ?”
“พูดบ้าอะไร!” สีหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นซีดเผือด “เธอมาพูดแบบนี้? มีไม่มีหลักฐานอะไรไหม วันนี้มาทำลายชื่อเสียงของฉันที่นี่ ฉันจะทำให้เธอได้รับผลกรรมแน่!”
“แน่นอน! ฉันไม่พูดอะไรส่งเดชให้คนถามย้อนศรแบบนี้หรอก”
ทันทีที่เกาซูพูดว่า ‘มีหลักฐาน’ สีหน้าของเป่าเจียงซานก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
กลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังต่างก็พากันส่งเสียงก่นด่าลั่นบริเวณ
“ไม่นึกเลยว่านายจะเป็นคนแบบนี้!”
“ความจริงแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นฝีมือของเป่าเจียงซานนี่เอง!”
“ฉันเสียใจจริง ๆ ที่ไปร่วมมือกับฟู่จิงซือ ที่แท้ก็โดนเป่าเจียงซานหลอกใช้!”
“ธะ… เธอ… มีหลักฐานอะไร?” ท่าทีของเป่าเจียงซานอ่อนลง แต่ก็ยังคงปากแข็ง
เกาซูยิ้มมุมปาก “คำพูดหยาบคายที่ถูกเขียนไว้บนกำแพงเพื่อใส่ร้ายฉัน เป็นฝีมือของฟู่จิงซือ! มีคนเห็นนะ! ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ ก็อย่าทำแต่แรกสิ โธ่! นึกว่าจะฉลาด ที่แท้ก็ดีแต่ยืมมือคนอื่นมาจัดการ หึหึ น่าอายจริง ๆ”
ได้ยินดังนั้น เป่าเจียงซานกลับมามั่นใจอีกครั้ง “มีคนเห็นงั้นเหรอ? ใครเห็น? ให้เขาออกมายืนยันสิ!”
ความมั่นใจของเขามาจากการที่ฟู่จิงซือไปเขียนตอนกลางดึก ใครจะอยู่ในโรงงานตอนนั้น? อีกอย่าง ฟู่จิงซือบอกว่าเขาดูแล้ว ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลยสักคน!
เสี่ยวเจียวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทำท่าจะพูด แต่ถูกเกาซูห้ามไว้
เกาซูยิ้ม แล้วพูดว่า “ฉันไม่บอกหรอกว่าใครเห็น บอกไปเดี๋ยวคุณก็ไปรังแกเขาอีก ฉันยังมีหลักฐานสำคัญกว่านั้นอีก!”
เป่าเจียงซานมองเธอด้วยสายตาอาฆาต หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เขาคงอยากจะสับเธอเป็นชิ้น ๆ ไปแล้ว
“น้องเขยสุดที่รักของคุณ ฟู่จิงซือ… ชอบดื่มเหล้าใช่ไหมล่ะ? บังเอิญจริง ๆ ครอบครัวของฉันสามคนก็ชอบกินอาหารอร่อย ๆ วันนั้นน้องเขยของคุณเมาที่ร้านอาหาร แล้วคุยโวโอ้อวดกับเพื่อนว่าจะจัดการฉันยังไง จะทำให้ฉันอยู่ที่โรงงานนี้ไม่ได้ บังเอิญฉันได้ยินเข้า และวันนั้นพี่เขยของฉันเพิ่งซื้อเครื่องบันทึกเสียงมาใหม่ พวกเราก็นั่งเล่นกันที่ร้านอาหาร ฉันเลยบันทึกเสียงนั้นไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ นี่ถือเป็นหลักฐานได้ไหมนะ?” เกาซูเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเย็นชา
ในทันใดนั้น ใบหน้าของเป่าเจียงซานก็ซีดเผือดลงไปอีกครั้ง ราวกับร่างไร้วิญญาณ
“อ้อ!! จริงสิ… น้องเขยของคุณยังพูดด้วยนะว่า คุณเป็นคนสั่งให้เขาทำแบบนี้ ทั้งหมดนี้ฉันบันทึกเสียงไว้หมดแล้วล่ะ ถ้าตำรวจมาถึง ฉันจะส่งหลักฐานทั้งหมดให้กับตำรวจ…”
เกาซูไม่ทันสังเกตว่า ในฝูงชนด้านล่างได้เปิดทางให้ใครบางคนเดินขึ้นมาบนบันได และทางเดินบนชั้นสองนั้น กว้างพอสำหรับคนเพียงคนเดียว มีใครบางคนกำลังเดินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เกาซูพูดประโยคนี้จบ เสียงตะโกนของผู้หญิงก็ดังขึ้นจากข้างใน “แก… แกมันหญิงโสเภณี! ไปยั่วผู้ชายทั่วโรงงานยังไม่พอหรือไง ยังมาอาละวาดที่หน้าบ้านฉันอีก!”
จากนั้น วัตถุสีดำขนาดใหญ่ก็ลอยออกมา พุ่งตรงไปที่เกาซู
เกาซูเตรียมหลบ แต่มีมือหนึ่งของใครบางคนมากั้นไว้ข้างหน้าเธอ รับสิ่งนั้นไว้อย่างมั่นคง มันตกลงบนพื้นส่งเสียงดังสนั่น
ที่แท้มันคือหม้อ!
ทว่า เกาซูไม่มีเวลาสนใจว่าสิ่งที่ตกอยู่บนพื้นคืออะไรแล้ว
เธอเหลือบมองด้านข้าง แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง!
เธอขยี้ตา เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้มองผิด!
เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!
มู่อวิ่นเฉิง!
เธอร้องเรียกด้วยความดีใจ “ทำไมคุณถึงมาที่นี่!?”
สีหน้าของเขาดูไม่เป็นมิตรนัก ทั้งเย็นชาและแฝงไปด้วยความโกรธ “ถ้าฉันไม่มา คงไม่รู้ว่าเธอโดนรังแกมากขนาดไหน!”
เกาซูอยากจะบอกว่า เธอไม่ได้โดนรังแกสักหน่อย เธอกำลังจัดการปัญหาอยู่ต่างหาก!
จากนั้น ในฝูงชนก็เริ่มเกิดความโกลาหล ผู้คนที่อยู่บนบันไดและชั้นล่างต่างพากันหลีกทาง ตำรวจก็มาถึงกันแล้ว
มู่เยี่ยนฟางที่ไปแจ้งความก็มาด้วย เมื่อเห็นน้องชาย เธอก็ร้องไห้ออกมาทันที “เสี่ยงเฉิง! ทำไมถึงมาที่นี่ได้? มาจนได้สินะ! ฮือ… เมียของแกโดนคนพวกนี้รังแกจนจะแย่แล้ว!”
เกาซูถึงกับพูดไม่ออก พี่น้องคู่นี้ช่างเหมาะสมกันจริง ๆ!
เมื่อมีการแจ้งความ ก็ต้องนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปยังสถานีตำรวจ
หลังจากการสอบสวนเบื้องต้น เป่าเจียงซาน เกาซู ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยและภรรยา รวมถึงคนที่ทะเลาะกับภรรยาของผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ย ต่างก็ถูกพาตัวไปยังสถานีตำรวจ
เหลือเพียงฟู่จิงซือคนเดียวเท่านั้น
MANGA DISCUSSION