บทที่ 45 ผิดที่บ้านนอก
หลังจากกินข้าวเสร็จ เกาซูก็กลับมาที่โรงงาน เธอตรวจสอบเสื้อผ้าที่แก้ไขทั้งหมดอีกครั้ง แต่มีเพียงไม่เกิน 10 ชิ้นเท่านั้นที่ผ่านการตรวจสอบจากเธอ
หญิงสาวนำเสื้อผ้าที่ไม่ผ่านทั้งหมดมากองไว้ด้านหน้า ช่วงบ่าย พนักงานก็ทยอยกลับมาทำงานจนเกือบครบ
เมื่อคนมาครบหมดแล้ว เกาซูและผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยก็ยืนอยู่หลังกองเสื้อผ้าที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก มองดูคนที่นั่งคุยกันบ้าง กินเมล็ดแตงโมบ้าง ในโรงงานที่วุ่นวาย แต่ไม่มีใครเริ่มทำงานเลยแม้แต่คนเดียว
ช่างน่าโมโหจริง ๆ!!
ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยแนะนำ “ทุกคน!! ช่วยเงียบสักครู่ก่อน กรุณาเงียบสักครู่!!”
ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยตะโกนอยู่นาน แต่ก็ไม่มีใครสงบลง เขาจึงต้องตะเบ็งเสียงตะโกนออกไปเป็นครั้งสุดท้าย “สวัสดีทุกคน ฉันขอแนะนำหน่อยแล้วกัน นี่คือนักออกแบบคนใหม่ที่เราเชิญมา…”
“คนงานชั่วคราวนั่นใช่ไหมล่ะ ฮ่า ๆ ๆ”
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นทั่วทั้งโรงงาน
“เป็นคนงานชั่วคราว ยังมีหน้ามาสั่งสอนเราอีก!”
“พวกเราทำเสื้อผ้ามาทั้งชีวิต รู้ดีกว่าเธอเยอะ!”
“ใช่! เสื้อผ้าที่พวกเราทำก็ดีอยู่แล้ว จะมาแก้ไขอะไรนักหนา”
“เด็กเมื่อวานซืนเอ๊ย!”
“เอาความสามารถแกมารวมกันยังไม่สู้เราแค่คนเดียว!!”
“แค่ขายดีในเมืองหน่อยก็ทำเป็นเชิดหน้า! ตลกชะมัด!”
“ขายได้แน่เรอะ โม้หรือเปล่า? ผู้จัดการโรงงานก็เชื่อด้วยเหรอเนี่ย น่าเบื่อจริง ๆ”
“ใช่ ผู้จัดการฝ่ายขาย ทำงานในโรงงานเสื้อผ้ามาทั้งชีวิต กลับถูกผู้หญิงต่างถิ่นหลอกง่าย ๆ ไม่อายบ้างเหรอ”
“อย่าบอกนะว่าเห็นเธอสวยแล้วก็ใจอ่อน? ฮ่า ๆ ๆ ๆ! ผู้จัดฝ่ายขายของเราถูกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เล่นงานแล้ว!”
ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยหน้าแดงก่ำ ไม่ใช่เพราะถูกเกาซูหลอกอย่างที่คนงานพูด แต่เป็นเพราะเขาอับอายที่ตนเองเป็นถึงผู้จัดการแต่กลับถูกคนงานด่าเล่นอย่างกับหมาตัวหนึ่ง
เกาซูสังเกตเห็นว่า ในบรรดาคนงานทั้งหมด มีเพียงไม่กี่คนที่ตะโกนโวยวาย ปลุกปั่น และยุยงให้คนอื่น ๆ หัวเราะ และร่วมกันก่อกวน
เธอจึงเดินตรงไปยังกลุ่มคนเหล่านั้น แล้วหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มคนหนึ่ง
เขาคือคนที่ตะโกนเสียงดังที่สุด และน่าจะเป็นหัวโจกในการทำเรื่องเหล่านี้
ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะเดินเข้าไปในฝูงชนแบบนี้ ทำให้ทุกคนเงียบลงทันที มองดูเธอและชายหนุ่มคนนั้นเผชิญหน้ากัน
ในโรงงาน เหลือเพียงเสียงกะเทาะเมล็ดทานตะวันเป็นครั้งคราว ซึ่งฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ
เกาซูยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วยิ้มอย่างสุขุมมองเขาอย่างไม่หวาดหวั่น
ภาพชวนตื่นเต้นนี้ ทำให้ทุกคนนิ่งค้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
ชายหนุ่มถูกเกาซูจ้องมองแบบนั้น ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย เขาเชิดคอขึ้นแล้ว “มองอะไรไม่ทราบ?”
เกาซูยิ้มเล็กน้อย “ฉันเห็นว่าคุณพูดเก่งน่ะ เลยอยากขอคำแนะนำหน่อย เสื้อผ้าของฉันมีปัญหาตรงไหนเหรอ ดูท่าว่ามันคงมีปัญหาจริง ๆ พวกคุณเลยไม่อยากทำมัน”
“ฉัน… คือ…” ชายหนุ่มพูดติดอ่าง มองไปรอบ ๆ ไม่รู้ว่ากำลังมองอะไร
“พูดไม่ออกใช่ไหมล่ะ?” เกาซูยังคงยิ้ม “พูดไม่ได้แบบนี้ คงหมายความว่ามันไม่ได้มีปัญหา แต่ที่มีปัญหาน่ะ… มันคือคุณต่างหาก”
“ใครบอกว่าฉันพูดไม่ออก!” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้น แต่สายตากลับเลื่อนลอย มองไปรอบ ๆ ชัดเจนว่ากำลังมองหาความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ
“ฉันจะพูดเอง!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากฝูงชน
เป็นผู้หญิงอายุราว 30 กว่า เธอเป็นหนึ่งในคนที่เอะอะเสียงดังมากที่สุดในเมื่อครู่นี้
เกาซูกอดอก เยื้องย่างไปหาเธออย่างมีรังสีผู้นำ
เมื่อเห็นเกาซูเดินตรงมา ชายคนนี้กลับไม่กล้าสบตา เบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง
เกาซูไม่สนใจ เดินผ่านเขาไป เพราะตอนนี้ เธอเจอเป้าหมายใหม่แล้ว
หญิงวัยกลางคนรู้ตัวว่าตอนนี้ตนเองก็กำลังถูกไล่บี้ จึงวิ่งไปที่ราวแขวนเสื้อผ้า ชี้ไปที่เสื้อตัวอย่าง แล้วพูดเสียงดังว่า “ตัวนี้!”
เธอชี้ไปที่เสื้อโค้ตตัวหนึ่ง
“ทำไมช่วงเอวถึงได้เล็กขนาดนี้ คนอ้วนหน่อยใส่ก็อึดอัดแย่ มันไม่เหมาะสมเลยสักนิด!”
“ตัวนี้ก็ด้วย!” เธอชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตตัวหนึ่ง “ทำไมต้องใส่ลูกไม้ที่ปลายแขนเยอะแยะขนาดนี้ จะซักผ้า จะทำกับข้าว ก็ไม่คล่องตัวเลย”
“แล้วก็กางเกงตัวนี้อีก!” เธอชี้ไปที่กางเกงตัวหนึ่ง “ทำไมต้องทำให้มันรัดติ้วขนาดนี้ ใครจะกล้าใส่ ใส่ไปเดี๋ยวจะหาว่าอนาจารเอาได้”
จริง ๆ แล้ว เสื้อผ้าเหล่านี้แค่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เสื้อโค้ตทรงตรง แค่ใส่ลูกเล่นช่วงเอวเท่านั้น ลูกไม้ที่ปลายแขนก็มีเพียงเล็กน้อย ไม่ได้เยอะจนรบกวนการใช้งาน ส่วนกางเกง ก็ไม่ใช่กางเกงรัดรูปแบบสมัยนิยม เป็นแค่กางเกงขายาวธรรมดา ที่ทำให้ขาดูยาวขึ้น ไม่ถึงขั้นอนาจาร ไม่เช่นนั้น คนในเมืองหลวงคงไม่แห่กันมาซื้อหรอก
พูดอีกอย่างก็คือ ผู้หญิงคนนี้กำลังหาเรื่องตำหนิเท่านั้นเอง
เกาซูฟังจบ ก็หันกลับมายิ้ม แล้วพูดกับทุกคน “งั้นก็แสดงว่า… ทุกคนก็คิดแบบนี้สินะ”
“ใช่!” มีเสียงตอบรับดังขึ้น
จากนั้น เสียงตะโกนก็ดังกึกก้องทั่วโรงงาน “ใช่แล้ว! พวกเราขอคัดค้าน! พวกเราไม่ยอมเปลี่ยน!”
แม้สถานการณ์จะเป็นไปอย่างน่าอึดอัด แต่เกาซูกลับไม่หวั่นไหวเลยสักนิด
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว! ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นช่างตัดเสื้อมีฝีมือ บางคนก็มีประสบการณ์หลายสิบปี คงจะรู้ดีกว่าฉัน ถ้าเราไม่ใส่ใจ ไม่ทุ่มเท เสื้อผ้าที่ทำออกมาก็คงไม่ดี ดังนั้น ใครไม่อยากเปลี่ยน ก็ไม่ต้องเปลี่ยน ฉันไม่บังคับ”
ทุกคนมองหน้ากัน นี่มันแผนอะไร ไม่ใช่ว่าจะบังคับให้พวกเขาเปลี่ยนเหรอ ทำไมถึงยอมง่าย ๆ แบบนี้ ล่ะ
บางคนก็กระซิบกระซาบกัน “เด็กสาวตัวเล็ก ๆ ไม่กล้าเถียงกับพวกเราหรอก ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยยังทำอะไรพวกเราไม่ได้เลย เธอก็แค่คนงานชั่วคราว จะทำอะไรพวกเราได้”
“ถูกต้องแล้ว! พวกเราแต่ละคนอายุปูนนี้แล้ว จะไปฟังเด็กเมื่อวานซืนได้ยังไง!”
“นั่นสิ! ให้มันรู้ซะบ้าง ว่าใครคือเจ้าถิ่น!”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เกาซูก็ไม่พูดอะไรกับพวกเขาอีก เธอทำเพียงแค่เรียกมู่เยี่ยนฟาง “พี่เยี่ยน มาค่ะ เราทำงานพวกนี้ใหม่กันเถอะ”
“ได้!” มู่เยี่ยนฟางโกรธจนแทบคลั่ง
ถ้าเป็นที่หมู่บ้านเธอ ป่านนี้คงกระโดดเข้าไปด่ากราดแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ ที่นี่เป็นโรงงานต่างถิ่น เธอไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม กลัวจะทำให้เกาซูเดือดร้อน ยังไงก็ควรเชื่อฟังน้องสะใภ้ดีกว่า
ดังนั้น เมื่อเกาซูเรียก เธอก็รีบตอบรับทันที และยังดึงตู้เหลียงเข้ามาร่วมด้วย
ตู้เหลียงเคยทำงานดัดแปลงเสื้อผ้ามาสักพักแล้ว ถึงแม้จะเย็บผ้าไม่เก่ง แต่วัดขนาด ขีดเส้น ก็ยังพอทำได้
ทั้งสามคนเริ่มลงมือทำงาน ท่ามกลางโรงงานขนาดใหญ่
ส่วนคนงานคนอื่น ๆ ยังคงนั่งคุยกัน กินเมล็ดทานตะวัน บางคนก็ตั้งวงเล่นไพ่ เล่นหมากรุก เสียงดังไม่แพ้ตลาดสด
ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยทนดูไม่ไหว จึงเดินเข้าไปเก็บไพ่และหมากรุก ไล่ให้พวกเขาไปทำงาน
แต่คนงานพวกนั้นไม่สนใจ หยิบไพ่สำรับใหม่ขึ้นมา ยังท้าทายอีกว่า “มีปัญญาก็ไล่พวกเราออกไปสิ! ประจานพวกเราสิ! เหอะ! เจ้าพวกสมองทึบ”
ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ย โกรธจนพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะจัดการกับคนพวกนี้อย่างไร ได้แต่เดินคอตกมาหาเกาซู แล้วพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ “เกาซู ฉันดูสิ… ฉัน… ฉันมันไม่ได้เรื่อง”
เกาซูยิ้ม แล้วเอ่ยให้กำลังใจ ถึงอย่างไร เธอก็๋ไม่ได้คาดหวังอะไรจากคนนิสัยมักง่ายไม่กี่คนอยู่แล้ว “ไม่เป็นไรค่ะ คุณไปทำงานของคุณเถอะ”
“แต่จะให้ฉันทิ้งเธอไว้แบบนี้ มันจะดีเหรอ” ผู้จัดการฝ่ายขายเซี่ยรู้สึกอึดอัดแทนเกาซู
แต่หญิงสาวกลับดูสงบนิ่ง และมั่นใจ “ไม่เป็นไรค่ะ ให้ฉันจัดการเองเถอะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
หัวหน้าฝ่ายขายถอนหายใจ เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนเกาซูและคนอื่น ๆ
เสื้อผ้ากองพะเนิน เสียงดังอึกทึก มู่เยี่ยนฟางเย็บผ้าไป น้ำตาก็คลอเบ้าไป แต่เดิมเธอดีใจมากที่ได้เข้ามาทำงานในโรงงาน ยังไปคุยโม้กับครอบครัวสามีว่า ต่อไปนี้เธอเป็นคนงานในโรงงานแล้ว! ใครจะไปรู้ว่าจะถูกเหยียดหยามแบบนี้!
MANGA DISCUSSION