บทที่ 28 ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม
กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ทุกคนชอบเป็นอย่างมาก พวกเขามีความสุขที่ได้ลุ้นกำไร และอยากรู้ว่าที่ทนเหนื่อยมาตลอดหลายวันจะคุ้มค่าสักแค่ไหน
เกาซูนำเงินสองครั้งก่อนมารวมกันทั้งหมด พบว่ามีทั้งหมด 5,950 กว่าหยวน ใกล้จะถึง 6,000 หยวนแล้ว!
“โอ้โฮ!” มู่เยี่ยนฟางไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ครอบครัวของเธอถือว่ามีฐานะดีในหมู่บ้านอยู่แล้ว
แต่เธอก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ “ถ้าเราขายเองไม่ดีกว่าเหรอ? เสียเงินให้คนอื่นไปตั้ง 2 หยวน คิดเป็นเงินก็ปาไป 900 ถึง 1,000 หยวนแล้วนะ!”
แต่เกาซูกลับยิ้มแล้วพูดว่า “เงิน 900 ถึง 1,000 หยวนที่เสียไป จะนำเงินกลับมามากกว่านั้นอีกนะคะพี่เยี่ยน”
มู่เยี่ยนฟางไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด คิดแค่ว่าเกาซูจะทำเสื้อผ้าขายต่อ
เกาซูเริ่มแบ่งเงินให้กับทุกคน
เธอหยิบเงิน 1,200 หยวนให้มู่เยี่ยนฟางกับตู้เหลียง
ทำเอามู่เยี่ยนฟางกับสามีตกใจจนพูดออกมาพร้อมกันว่า “ให้พวกเราทำไม?”
“ก็เพราะทั้งสองคนทำงานหนักมาตลอดนี่คะ!” เกาซูพูด
ตลอด 20 กว่าวันที่ผ่านมา ตระกูลมู่ช่วยเธอทำงานหนักแค่ไหน เธอมองเห็นทั้งหมด
“แต่นั่นมัน… เราเต็มใจทำเองนะ ฉันจะรับเงินได้ยังไง?” จริง ๆ แล้ว ทั้งมู่เยี่ยนฟางและตู้เหลียงไม่เคยคิดที่จะขอเงินส่วนแบ่งจากเกาซูเลย พวกเขาแค่อยากช่วยเหลือ ในความคิดของพวกเขา การที่ญาติพี่น้องช่วยเหลือกันเป็นเรื่องปกติมาก
เวลาทำนาก็เป็นแบบนี้มาตลอด ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน ยิ่งไปกว่านั้น เกาซูยังเสี่ยงขนาดนี้ ที่สำคัญยังเป็นเพราะพวกเขาสองคนอีก พวกเขารู้สึกผิดและเสียใจมากที่พาไปโรงงานจนเกือบสูญเงินเปล่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องช่วยเกาซูฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปให้ได้ แต่ไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าเธอจะมองเห็นความสำคัญของพวกเขาขนาดนี้
เกาซูยิ้ม แล้วแบ่งเงินอีก 600 หยวนให้มู่เฟิน ทำเอามู่เฟินตกใจไม่แพ้กัน
“เสี่ยวซู แม้จะเอาเงินของลูกไปทำไมล่ะ?” มู่เฟินไม่เคยคิดที่จะรับเงินของลูกสะใภ้เลย! และจะไม่เอาเด็ดขาด ที่วันนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็เพราะกลัวว่าสะใภ้จะผลาญเงินลูกชายอย่างไร้ประโยชน์ พอมาเห็นความสำเร็จตอนนี้ เธอก็รู้ภูมิใจที่รับเกาซูเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล
เกาซูรู้ว่าคนตระกูลมู่เป็นคนซื่อสัตย์ แต่ก็ไม่คิดว่าจะซื่อสัตย์ถึงขั้นยื่นเงินให้ปฏิเสธแบบนี้
เธอพูดด้วยความจริงใจว่า “แม่คะ พี่เยี่ยน ไม่ว่ายังไงพวกคุณก็ต้องรับเงินนี้ไป ถ้าพวกคุณไม่รับเงิน งั้นต่อไปพวกเราจะลงเรือลำเดียวกันยังไง? ถ้ายังเป็นแบบนี้ ต่อไปฉันจะไม่ชวนพวกคุณแล้ว!”
หลังจากยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นาน เกาซูก็สามารถพูดจนมู่เฟินกับมู่เยี่ยนฟางยอมรับเงินไปได้
มู่เยี่ยนฟางถามด้วยความคาดหวังว่า “งั้นเรายังจะทำแบบนี้อีกไหม?”
“แน่นอนสิคะ! หนูไม่หยุดแค่นี้แน่ เส้นทางรวยรอเราอยู่” เกาซูพูดจบก็แบ่งเงินต่อ คราวนี้หยิบเงิน 600 หยวนให้น้องสาวบ้าง
มู่เฟินไม่ได้ว่าอะไรที่น้องสาวได้เงิน 600 หยวนเหมือนกัน เพราะพวกเธอรับเงินไปแล้ว อีกอย่างช่วงนี้เธอก็ทำงานหนักมากเช่นกัน ไม่มีเหตุผลให้ต้องอิจฉาริษยากัน!
สุดท้าย เธอหยิบเงิน 60 ให้จงอี้ “จงอี้ก็ทำงานหนัก เป็นนายแบบให้ตั้งสองวัน ช่วยขายเสื้อผ้าไปได้ตั้งเยอะ ต้องให้รางวัล!”
จงอี้เป็นคนที่ตรงไปตรงมามากที่สุด เด็กน้อยไม่ปฏิเสธเลยสักคำ เขารับเงินไปทันที แล้วกล่าวขอบคุณโดยไม่ลืมที่จะโฆษณาตัวเอง
“ขอบคุณครับแม่ ต่อไปพาผมไปอีกได้เลยครับ”
เกาซูหยิบเงิน 35 หยวนให้เสี่ยวเปา “เสี่ยวเปาของเราก็ไปช่วยมาหนึ่งวัน คงเหนื่อยแย่เลยใช่ไหม”
เสี่ยวเปาไม่กล้ารับเงิน หนูน้อยมองพ่อแม่ของเธอเป็นเชิงถามว่าควรทำอย่างไรดี
“ไม่ต้องมองพ่อแม่ รับไปเดี๋ยวนี้เลย คนทำดีต้องได้ดี เข้าใจไหม” เกาซูพูด
มู่เยี่ยนฟางยิ้มแล้วพูดว่า “รับไปเถอะเสี่ยวเปา น้าเขาจะเสียน้ำใจนะ”
เมื่อแบ่งเงินเสร็จแล้ว ทุกคนก็เริ่มคิดถึงแผนการต่อไป และมู่เยี่ยนฟางก็เป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุด
เธอถามด้วยความตื่นเต้นว่า “แล้วเราจะไปซื้อเสื้อผ้าราคาถูกมาดัดแปลงอีกทีเมื่อไหร่?”
“ไม่ค่ะ เราไม่ทำแล้ว” เกาซูยิ้ม
คำพูดนี้สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน
ทุกคนแทบจะพูดออกมาพร้อมกัน “ทำไมล่ะ? แต่เมื่อกี้เธอพูดว่าจะทำอีกไม่ใช่เหรอ”
“จะให้ทำแบบนี้หามรุ่งหามค่ำไปได้ยังไงกันคะ? ร่างกายได้พังก่อนพอดี” เกาซูพูดกับมู่เยี่ยนฟางด้วยรอยยิ้ม “แล้วพี่เยี่ยนไม่ต้องดูแลบ้านช่องตัวเองหรือยังไง? มาเย็บผ้าอยู่ที่นี่ทุกวัน ไม่มีเวลาให้เสี่ยวเปาเลย เด็กก็ต้องการเวลานะคะ”
ตลอด 20 กว่าวันที่ผ่านมา มู่เยี่ยนฟางเหมือนกับปักหลักอยู่ที่บ้านของมู่อวิ่นเฉิงมาโดยตลอด เธอกับสามีแทบไม่ได้กลับบ้านตัวเองเลยด้วยซ้ำ
“ส่วนเธอ… ผิงอัน” เกาซูหันไปพูดกับน้องสาว “เธอไม่รู้เหรอว่าฉันคาดหวังอะไรกับเธอ? เย็บผ้าทุกวัน เธอจะมีเวลาเรียนหนังสือหรือยังไง?”
สิ่งที่เกาพูดมาล้วนถูกทั้งหมด แต่ก่อนหน้านี้เธอพูดว่าคิดจะทำการใหญ่เองไม่ใช่เหรอ?
มู่เยี่ยนฟางรีบพูดว่า “แล้วแบบนี้จะทำยังไงล่ะ?” แล้วพูดต่ออีกว่า “ฉันมีแรงเยอะ ไม่กลัวเหนื่อยหรอก!”
“พี่เยี่ยน!” เกาซูพูด “ที่บอกว่าจะทำการใหญ่น่ะ ไม่ใช่การที่พวกเราไม่กี่คนมาช่วยกันทำแบบนี้หรอกนะคะ ต้องอาศัยกำลังคนจำนวนมากต่างหาก”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปหาคนมาช่วยอีกเยอะ ๆ เป็นยังไง?” มู่เยี่ยนฟางไม่เข้าใจความคิดของเกาซูเลย
เกาซูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ ชีวิตที่ดีรออยู่ข้างหน้า! ตอนนี้ฉันต้องไปเยี่ยมอวิ่นเฉิงก่อน พวกคุณก็พักผ่อนให้เต็มที่ไปแล้วกัน มีเรื่องอะไรหรือมีใครมาหา ก็ให้รอฉันกลับมาก่อน ค่อยว่ากัน อีกอย่าง เราต้องเก็บความลับเรื่องเงิน อย่าไปอวดใครเด็ดขาดว่าเราหาเงินได้เท่าไหร่ เข้าใจที่ฉันพูดไหม”
ตอนนี้ไม่มีใครขัดคำพูดของเกาซูเลย ยิ่งไปกว่านั้น เกาซูกำลังจะไปเยี่ยมมู่อวิ่นเฉิง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแม่หรือพี่สาว ต่างก็หวังว่ามู่อวิ่นเฉิงจะมีครอบครัวเร็ว ๆ เพราะอายุของเขาก็ไม่น้อยแล้ว มีลูกน้อยก็จะยิ่งสร้างสีสันให้บ้านได้มากขึ้นไปอีก
หลังจากที่ทำงานหนักติดต่อกันมา 20 กว่าวัน ในที่สุดตระกูลมู่ก็ได้พักผ่อนอย่างสงบ
แม้ร่างกายจะเหนื่อยล้ามาก แต่เกาซูกลับนอนไม่หลับ
อีกไม่นานเธอก็จะได้ไปเยี่ยมญาติ จะได้ไปเยี่ยมสามีตายด้านที่มักจะหาเรื่องหลบเลี่ยงเธออยู่เรื่อย จะได้เจอเจ้าคนซื่อบื้อไม่เข้าใจความต้องการของเมียเสียที…
“พี่…” น้องสาวที่นอนไม่หลับเหมือนกันค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ ๆ “นี่ค่ะ… ฉันให้พี่”
เธอยื่นเงิน 600 หยวน ที่ได้มาวันนี้คืนให้พี่สาว
จริง ๆ แล้วเกาผิงก็เหมือนกับมู่เฟินและมู่เยี่ยนฟาง เธอไม่ได้คิดที่จะเอาเงินจากพี่สาวเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ตอนนั้น อยู่ต่อหน้าตระกูลมู่ เธอจึงเชื่อฟังและรับเงินไว้ ตอนนี้จึงแอบเอามาคืนให้พี่สาวเงียบ ๆ
แน่นอนว่าเกาซูจะไม่รับไว้
“ฉันยังค้างเงินพี่อีก 600 หยวนนะ…” น้องสาวหมายถึงเรื่องที่เกาซูเอาเงิน 600 หยวนเพื่อพาเธอออกมาจากบ้านหลังนั้น
“ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก เธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของพี่ คนอื่นพี่ยังแบ่งเงินให้เลย แล้วทำไมน้องสาวแท้ ๆ ถึงจะไม่ได้?” เกาซูพูดเรื่องที่เธอต้องตั้งใจเรียนหนังสือให้ฟังอีกครั้ง บรรยายถึงโลกภายนอกและอนาคตที่สวยงามให้เธอฟัง
“ก่อนที่พี่จะไปกองทัพ พี่จะพาเธอไปเปลี่ยนชื่อเสียก่อน เกาผิงอัน ตั้งชื่อใหม่ และเป็นคนใหม่ นับจากนี้ไป เธอจะต้องมีความสุขกับชีวิตของตัวเอง!”
ก่อนจะออกเดินทางไปกองทัพ เกาซูพาเกาผิงไปทำเรื่องเปลี่ยนชื่อตามที่พูดไว้ เพิ่มคำว่า ‘อัน’ เข้าไป จึงกลายเป็น ‘เกาผิงอัน’
MANGA DISCUSSION