บทที่ 161 กู้หนี้
หลังจากสำรวจพื้นที่เสร็จแล้ว เกาซูและมู่อวิ่นเฉิงก็ได้คุยกับนายหน้า ผู้รับเหมาก่อสร้าง และเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงงาน
“คุณเกาซู ผมประเมินแล้วว่าการก่อสร้างโรงงานขนาดนี้ จะต้องใช้งบประมาณอย่างต่ำประมาณ 1,000,000 หยวนครับ” ผู้รับเหมาก่อสร้างบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “และนี่ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่คุณจะต้องนำเข้ามาจัดวางเองนะครับ”
เกาซูรู้สึกใจหายวาบ เธอกระซิบบอกมู่อวิ่นเฉิง “อวิ่นเฉิง ตอนนี้เรามีเงินแค่ 300,000 หยวนเอง ยังขาดอีกตั้ง 700,000 หยวน หรืออาจจะต้องหามากกว่านั้นเผื่อซื้อเครื่องจักร…”
มู่อวิ่นเฉิงจับมือภรรยาไว้แน่น “ไม่ต้องกังวลไป เรากลับไปปรึกษากับพ่อแม่ก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไขกันดีกว่า”
เมื่อกลับถึงบ้าน เกาซูและมู่อวิ่นเฉิงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อแม่ของมู่อวิ่นเฉิงฟัง ทั้งสี่คนนั่งล้อมวงกันที่โต๊ะอาหาร พยายามหาทางออกร่วมกันอย่างสามัคคี
“เรากู้เงินจากธนาคารดีไหม?” มู่อวิ่นเฉิงเสนอความคิดขึ้นมา “ฉันสามารถใช้ตำแหน่งในกองทัพเป็นหลักประกันได้”
มู่เฟินและมู่เยว่มองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนที่มู่เฟินจะพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นเป็นความคิดที่ดีนะเสี่ยวเฉิง แม่ว่าเราควรลองไปคุยกับธนาคารดู”
จากนั้นมู่เยว่ก็เสริมขึ้นบ้าง “อืม… ด้วยตำแหน่งของลูกตอนนี้คงเป็นไปได้ อีกอย่าง ด้วยความสามารถของเสี่ยวซู คงหาเงินมาใช้หนี้ได้ภายในเวลาไม่นาน เอาเถอะ พ่อก็จะสนับสนุน”
เกาซูรู้สึกโล่งใจที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว “ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้าใจและพร้อมจะลงเรือลำเดียวไปกับหนู” เธอพูดพลางโค้งคำนับพ่อแม่สามีด้วยความเคารพ
วันรุ่งขึ้น มู่อวิ่นเฉิงพาเกาซูไปที่ธนาคารแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ เขาเดินตรงไปที่แผนกสินเชื่อ และทักทายชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน
“หลี่เจียน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” มู่อวิ่นเฉิงทักทายอย่างสนิทสนม
ชายหนุ่มที่ชื่อหลี่เจียนเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ ใบหน้าของเขาพลันสว่างวาบขึ้นทันทีที่เห็นมู่อวิ่นเฉิง
“อวิ่นเฉิง! เพื่อนรัก!” หลี่เจียนลุกขึ้นยืนและรีบเดินอ้อมโต๊ะมาจับมือทักทายเพื่อนเก่า “นี่คงเป็นภรรยาของนายสินะ? อวิ่นเฉิง ตาดีไม่เบา ได้ผู้หญิงสวย ๆ แบบนี้มาเป็นคู่ นายนี่มันเก่งจริง ๆ”
มู่อวิ่นเฉิงพยักหน้าและเก็บซ่อนรอยยิ้มไม่ได้ “อืม ใช่แล้ว นี่คือเกาซู ภรรยาของฉันเอง” เขาแนะนำอีกครั้ง “เกาซู นี่คือหลี่เจียน เพื่อนสมัยเด็กของฉันเอง”
เกาซูยิ้มทักทายหลี่เจียนอย่างสุภาพ ก่อนที่ทั้งสามคนจะนั่งลงคุยกัน มู่อวิ่นเฉิงเล่าถึงแผนการสร้างโรงงานของเกาซูให้หลี่เจียนฟัง พร้อมทั้งอธิบายถึงความต้องการสินเชื่อ
หลี่เจียนฟังอย่างตั้งใจ สีหน้าของเขาดูสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ “นี่เป็นแผนธุรกิจที่น่าสนใจมากเลยนะ” เขาพูดพลางพยักหน้า “และฉันก็เห็นศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจนี้ด้วย”
เขาหันไปยิ้มให้มู่อวิ่นเฉิง “นายโชคดีจริง ๆ ที่ได้ภรรยาที่ทั้งสวยและเก่งแบบนี้นะ อวิ่นเฉิง”
มู่อวิ่นเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ขณะที่เกาซูก็หน้าแดงเล็กน้อยกับคำชม
“เอาล่ะ” หลี่เจียนพูดต่อ “คุณเกาซู ผมคิดว่าเราน่าจะสามารถช่วยคุณได้นะครับ แต่เราต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อน ผมอยากให้คุณเตรียมแผนธุรกิจโดยละเอียด งบการเงินคาดการณ์ และเอกสารยืนยันตัวตนทั้งหมดมาให้ผมนะครับ”
เกาซูพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น “ได้ค่ะ คุณหลี่เจียน ฉันจะรีบเตรียมให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดค่ะ”
“ดีมากครับ” หลี่เจียนยิ้ม “ถ้าคุณสามารถนำเอกสารทั้งหมดมาให้ผมภายในวันสัปดาห์นี้ ผมจะพยายามเร่งกระบวนการอนุมัติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เกาซูและมู่อวิ่นเฉิงมองหน้ากันด้วยความดีใจ นี่เป็นข่าวดีที่พวกเขารอคอยมานาน
“ขอบคุณมากนะ หลี่เจียน” มู่อวิ่นเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง “นายช่วยพวกเราได้มากจริง ๆ”
หลี่เจียนโบกมือไปมา “ไม่เป็นไรหรอก นี่คือหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว และฉันก็ดีใจที่ได้ช่วยเพื่อนอย่างนายด้วย”
ก่อนที่จะกลับ หลี่เจียนยังให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมเอกสารและข้อควรระวังต่าง ๆ ในการขอสินเชื่อ เกาซูจดทุกอย่างลงในสมุดเล่มเล็กอย่างตั้งใจ
เมื่อออกจากธนาคาร เธอรู้สึกมีความหวังและกำลังใจมากขึ้น เธอหันไปยิ้มให้มู่อวิ่นเฉิง “เพื่อนคุณคนนี้ดูท่าทางจะช่วยเราได้จริง ๆ อวิ่นเฉิง ฉันว่าคุณไปติดต่อสำนักงานเขตเพื่อขอคัดเอกสารยืนยันตัวตนก่อนดีกว่า เพราะตั้งแต่พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดยาวจริง ๆ แล้ว สำนักงานคงปิดแน่ ๆ”
“อืม ไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนเดินทางไปยังสำนักงานเขตเพื่อคัดสำเนาเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ จากนั้นก็แวะซื้อขนมติดไม้ติดมือกลับไปฝากจงอี้และพ่อแม่
ตลอดทั้งคืน เกาซูหมกมุ่นอยู่กับการเขียนโครงการธุรกิจเสนอกู้สินเชื่อ เธอพยายามอย่างหนักเพื่อจะสามารถตอบคำถามของทางธนาคารให้ครอบคลุม
จนท้ายที่สุด วันที่รอคอยก็มาถึง เกาซูยื่นเอกสารจนครบถ้วนตามที่หลี่เจียนต้องการ และทางหลี่เจียนก็แจ้งมาว่าจะทราบผลการยื่นขอไปราว ๆ หนึ่งถึงสองเดือนเนื่องจากต้องทำการตรวจทุกอย่างโดยละเอียดเสียก่อน
“เสี่ยวซู เสี่ยวเฉิง เสี่ยวอี้ ตั้งใจร่ำเรียนและกลับมาบ้านอีกนะ แม่จะรอ” มู่เฟินเอ่ยทั้งน้ำตาคลอ ขณะที่มาส่งลูก ๆ ที่สถานีรถไฟ
เกาซู มู่อวิ่นเฉิง และจงอี้ ขึ้นรถไฟกลับเมืองหลวงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและเปี่ยมด้วยความหวัง ระหว่างทาง เกาซูไม่ได้ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เธอหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่านทบทวน พลางอธิบายเนื้อหาบางส่วนให้จงอี้ฟังไปด้วย
ตั้งแต่ที่จงอี้ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนดี ๆ เขาก็หัวไวขึ้น และรักการเรียนรู้ตามไปด้วย
เมื่อกลับถึงเมืองหลวง เกาซูทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนัก เธอตื่นแต่เช้าเพื่ออ่านหนังสือก่อนไปเรียน และยังอยู่ในห้องสมุดจนดึกดื่นเพื่อทบทวนบทเรียน ความหวังที่จะสร้างโรงงานของตัวเองเป็นแรงผลักดันให้เธอมุ่งมั่นกับการศึกษามากขึ้นกว่าเดิม
ในช่วงสุดสัปดาห์ เกาซูและครอบครัวได้แวะไปเยี่ยมตระกูลหลู่บ่อยครั้ง เธอแบ่งปันข่าวดีเกี่ยวกับแผนการสร้างโรงงานให้ทุกคนฟัง ทำให้บรรยากาศในบ้านคึกคักเป็นพิเศษ
เกาซูใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่นหมากรุกกับหลู่หวางจวง โดยมีสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้านคอยเอาใจช่วย
ด้วยกิจกรรมมากมายทั้งการเรียน การทำงาน และการใช้เวลากับครอบครัว ทำให้เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เกาซูกำลังเตรียมตัวไปเรียน เธอได้รับจดหมายจากหลี่เจียน
เธอรีบเปิดซองจดหมายอ่านด้วยมือที่สั่นเทา และทันทีที่ได้เห็นเนื้อหาในจดหมาย สีหน้าของเธอพลันสว่างวาบขึ้นทันที
‘สินเชื่อได้รับการอนุมัติแล้วครับ! ขอให้คุณเกาซูและมู่อวิ่นเฉิงเดินทางกลับมาเซ็นสัญญาภายในหนึ่งเดือนนี้นะครับ’
เกาซูรู้สึกตื่นเต้นจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่เธอต้องรอให้มู่อวิ่นเฉิงกลับบ้านก่อนจึงจะบอกข่าวดีนี้ได้ ตลอดทั้งวัน เธอแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ในห้องเรียน รอคอยเวลาที่จะได้กลับบ้านและพบกับสามีในวันเสาร์นี้
เมื่อถึงวันเสาร์ ทันทีที่มู่อวิ่นเฉิงเพิ่งก้าวเข้าประตูบ้าน เกาซูก็วิ่งเข้าไปกอดเขาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว
“อวิ่นเฉิง! เรา… เราได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว!” เธอพูดอย่างตื่นเต้น พลางยื่นจดหมายให้เขาอ่าน
มู่อวิ่นเฉิงอ่านจดหมายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มบาง ๆ แล้วลูบหัวเธอแสดงความยินดี “ดีเลย! นี่เป็นก้าวแรกของความสำเร็จของเราแล้ว”
ทั้งคู่ใช้เวลาตลอดทั้งคืนวางแผนการเดินทางและเตรียมเอกสารที่จำเป็น พวกเขาตัดสินใจที่จะฝากจงอี้ไว้กับซ่งยู่หนิง พี่เลี้ยงที่ไว้ใจได้ เพื่อให้ช่วยดูแลระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่
สองวันต่อมา เกาซูและมู่อวิ่นเฉิงได้ลามหาวิทยาลัย เดินทางกลับบ้านเกิด พวกเขาตรงไปที่ธนาคารทันทีที่มาถึง หลี่เจียนเองก็ต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ยินดีด้วยนะคุณเกาซู… อวิ่นเฉิง” เขากล่าว “สินเชื่อของพวกคุณได้รับการอนุมัติเป็นจำนวนเงิน 1,200,000 หยวน ซึ่งมากกว่าที่คุณขอไว้เล็กน้อย เพราะเราเห็นศักยภาพในแผนธุรกิจของคุณ”
เกาซูและมู่อวิ่นเฉิงมองหน้ากันด้วยความดีใจ ก่อนจะเริ่มกระบวนการเซ็นสัญญา พวกเขาอ่านเงื่อนไขทุกข้ออย่างละเอียดและซักถามข้อสงสัยจนหมด ก่อนที่จะลงนามในสัญญา
MANGA DISCUSSION