บทที่ 126 สอบติดแล้วใช่ไหม?
เกาเหวินยังคงเชื่อมั่นว่าพี่สาวจะต้องปกป้องเขาเหมือนเช่นเคย จึงร้องไห้คร่ำครวญ พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “พี่… พี่เป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับผมเสมอ แม่บอกว่า ต่อไปพี่จะไม่สนใจผมแล้ว แต่ผมไม่เชื่อ ผมรู้ว่าพี่จะไม่มีวันทิ้งผม…”
เกาซูหัวเราะเยาะในใจ
เกาเหวินยังคงร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด พร้อมกับกล่าวโทษคนอื่นว่า “พี่ พี่รู้ไหม ตอนที่พี่ไม่อยู่ คนพวกนั้นมันกลั่นแกล้งผมสารพัด! พวกมันขังผมไว้ แถมยังไม่ให้ผมกินข้าว! พี่ต้องสั่งสอนพวกมันให้หลาบจำ! ไม่ต้องออกแบบเสื้อผ้าให้พวกมันอีกนะ! ให้พวกมันขายเสื้อผ้าไม่ได้สักตัวไปเลย!”
เกาซูมีสีหน้าเรียบเฉย เธอค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออกจากการเกาะกุมของน้องชาย แววตาของเธอเย็นชาและนิ่งสงบ ราวกับว่าคนตรงหน้าเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักไปแล้ว
“ผู้จัดการจิ้งคะ” เธอหันไปพูดกับผู้จัดการโรงงานที่ยืนงุนงงอยู่ข้าง ๆ “เนื่องจากฉันเป็นผู้เสนอให้ทางโรงงานเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็ควรดำเนินการตามกฎระเบียบของโรงงาน หรือหากเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางกฎหมาย ก็ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉันไม่มีความเห็นใด ๆ เพิ่มเติมทั้งสิ้นค่ะ”
ผู้จัดการโรงงานมองเธอด้วยความประหลาดใจ
ในใจของเขา เกิดความรู้สึกเคารพและชื่นชมเกาซูอย่างสุดซึ้ง
เขาทำงานเป็นผู้จัดการโรงงานแห่งนี้มาหลายปี ปัญหาที่ยากที่สุดในการบริหารงาน ก็คือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ภายในโรงงานแห่งนี้ เต็มไปด้วยเครือญาติ ใครเป็นญาติกับใคร ใครสนิทกับใคร ล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ เวลาจะจัดการปัญหาอะไร ญาติพี่น้องก็มักจะเข้ามาแทรกแซง วิ่งเต้น ทำให้เขาต้องปวดหัว ลำบากใจในการตัดสินอยู่เสมอ
เขาไม่คิดเลยว่า เกาซูที่อายุยังน้อย จะมีความยุติธรรมและเด็ดขาดได้ถึงเพียงนี้ นั่นก็เป็นน้องชายแท้ ๆ ของเธอเลยนะ!
เกาเหวินก็ตกอยู่ในอาการตะลึงพรึงเพริด เขามองพี่สาวด้วยสายตาสับสน ราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คำพูดของแม่ดังขึ้นในหัว ‘พี่สาวแกมันเนรคุณ! พอได้ดีแล้วก็ลืมญาติพี่น้องไปหมด!’
เกาเหวินโกรธจนตัวสั่น เขาตะโกนเรียกชื่อเต็มของพี่สาวด้วยความเกรี้ยวกราด “เกาซู! แกมันคนทรยศ! รอดูเถอะ! ฉันจะกลับไปฟ้องแม่! แกจะต้องโดนแม่ลงโทษอย่างหนัก!”
เกาซูไม่สนใจคำขู่ของน้องชายอีกต่อไป หลังจากมอบหมายงานให้ผู้จัดการโรงงานเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินออกจากแผนกรักษาความปลอดภัยไปทันที ปล่อยให้เสียงด่าทอของเกาเหวินดังไล่หลัง
น้องชายคนนี้ มักจะใช้วิธีนี้ข่มขู่เธออยู่เสมอ แค่เธอทำให้เขาไม่พอใจเพียงเล็กน้อย เขาก็จะวิ่งไปฟ้องแม่ แล้วแม่ก็จะร้องไห้อ้อนวอน บังคับให้เธอทำตามที่เขาต้องการ
ความจริงแล้ว ธุรกิจที่เธอทำในชาติที่แล้ว ก็ไม่ได้ราบรื่นสวยหรูอย่างที่ใคร ๆ คิด มีทั้งช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จ และช่วงเวลาที่ล้มเหลว ต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินมากมาย แต่เกาเหวินและแม่กลับไม่เคยสนใจ พวกเขาคิดแต่จะเอาเปรียบเธอ เธอต้องดิ้นรนขอยืมเงินจากคนอื่น เพื่อสนองความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดของพวกเขา
เกาผิงอันรีบวิ่งตามพี่สาว พลางเรียก “พี่คะ” ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความโกรธ
เกาซูต้องการรับฟังความรู้สึกของน้องสาว จึงเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “ผิงอัน พี่ตัดสินใจไม่ปกป้องเจ้าเกาเหวินแล้ว เธอคิดว่าพี่ทำเกินไปไหม?”
แม้จะรู้สึกโกรธและเสียใจกับการกระทำของพี่ชาย แต่เกาผิงอันก็พยายามรวบรวมสติ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เราจะปกป้องเขาทำไม? เขามาทำงานที่นี่ ไม่ได้ตั้งใจทำงานจริง ๆ จัง ๆ สักหน่อย เอาแต่เที่ยวเล่นไปวัน ๆ แถมยังเอาชื่อพี่ไปข่มขู่คนอื่น ทั้ง ๆ ที่ทางโรงงานก็เมตตาจ่ายเงินเดือนให้เขาเหมือนพนักงานคนอื่น ๆ! แบบนี้ยังไม่สำนึกอีก ตอนนี้เขาทำผิด ต้องยอมรับผลของการกระทำ จะไปโทษใครได้? ในการเรียน ถ้าทำผิดก็ยังถูกหักคะแนน คนทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”
เกาซูฟังคำพูดของน้องสาวแล้ว ก็รู้สึกปลื้มใจ
นี่คือเหตุผลที่ควรให้ความสำคัญกับการศึกษา ปกติแล้ว เธอไม่ได้สอนอะไรน้องสาวมากมาย แต่การอ่านหนังสือ จะช่วยเปิดโลกทัศน์ และทำให้คนเรามีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น
สุดท้าย เกาเหวินก็ถูกไล่ออก
ผู้จัดการโรงงานยังคงให้เกียรติเกาซู จึงไม่ได้แจ้งความเอาผิดกับเกาเหวิน และยังกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ ให้กับโรงงาน จึงถือว่าเป็นการตักเตือน
เกาซูไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเธอกับเกาผิงอันได้รับจดหมายตอบรับการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว
ผลการสอบของพวกเธอในระดับอำเภอ ถือว่าดีเยี่ยม ทั้งคู่ไม่เพียงแต่ติดอันดับหนึ่งในสามของอำเภอ แต่ยังติดอันดับต้น ๆ ของจังหวัดอีกด้วย และที่สำคัญที่สุด พวกเธอทั้งสองคนได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองหลวง!
ส่วนนักเรียนที่ได้อันดับสองของจังหวัด เลือกที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทางตอนเหนือ
เขาอาจจะขาดความมั่นใจในศักยภาพของตนเอง จึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของเมืองหลวง เพราะในจังหวัดนี้ มีนักเรียนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่กล้าท้าทายตัวเอง ต่างจากเกาซูและเกาผิงอัน ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ ด้วยผลการสอบที่ยอดเยี่ยม จึงมั่นใจว่า พวกเธอจะต้องได้รับการตอบรับอย่างแน่นอน
ในที่สุด ความฝันที่จะไปเรียนต่อที่เมืองหลวงก็เป็นจริง!
แม้ว่าจะเป็นการกลับมาใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่เมื่อเกาซูถือจดหมายตอบรับไว้ในมือ เธอก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นและดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ส่วนเกาผิงอันนั้น ตื่นเต้นยิ่งกว่า เธอเก็บจดหมายตอบรับไว้อย่างดี ห่อด้วยผ้าอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะยับหรือเปื้อน แม้กระทั่งเวลานอน เธอก็ยังกอดจดหมายไว้แนบอก
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เกาซูจึงเริ่มแจ้งข่าวดีนี้ให้กับคนสำคัญได้รู้
ที่จริงแล้ว ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่เธออยากจะบอก และมู่อวิ่นเฉิงก็คือคนแรก
เธอขอยืมโทรศัพท์ของโรงงานเพื่อติดต่อกับเขาที่ค่ายทหาร เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะพูดคุยกับเขาได้ทันที แต่กลับโชคดี เพราะเสี่ยวอวี้เป็นคนรับสาย เมื่อรู้ว่าเป็นเธอ เสี่ยวอวี้ก็รีบเรียกมู่อวิ่นเฉิงมาให้
“มู่อวิ่นเฉิง!” เธอเอ่ยชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความดีใจ
มู่อวิ่นเฉิงเอ่ยถามทันที “สอบติดแล้วใช่ไหม?”
“คุณรู้ได้ยังไง?” เกาซูรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
“ฉันจำเป็นต้องถามด้วยเหรอ?” มู่อวิ่นเฉิงตอบกลับ
แม้จะได้ยินเพียงเสียงของมู่อวิ่นเฉิงผ่านสายโทรศัพท์ แต่เกาซูก็สัมผัสได้ถึงความยินดีในน้ำเสียงของเขา ราวกับว่ารอยยิ้มนั้น ถูกส่งผ่านคลื่นเสียงมา ทำให้หัวใจของเธออบอุ่น
ความรู้สึกภาคภูมิใจเกิดขึ้นในใจของเกาซู “คุณลองเดาดูสิ ฉันสอบติดที่ไหน?”
“เมืองหลวงเหรอ?”
แม้จะรู้สึกดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ แต่เกาซูก็แกล้งทำเสียงแค้นเคือง “น่าเบื่อจัง! คุณน่าจะแกล้งเดาผิดสักครั้ง เพื่อให้ฉันได้อวดบ้างสิ”
เสียงหัวเราะในลำคอของมู่อวิ่นเฉิงดังมาจากปลายสาย “หึหึ ปกติเธอก็อวดฉันตรง ๆ อยู่แล้วนี่”
เกาซูหัวเราะคิกคัก
แท้จริงแล้ว เธอเพียงอยากจะแบ่งปันความสำเร็จนี้กับเขา อยากให้เขารับรู้และภาคภูมิใจในตัวเธอ เธอจะเผยความรู้สึกเช่นนี้เฉพาะกับเขาเท่านั้น เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น เธอจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ วางตัวอย่างเหมาะสม และแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน
แต่ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำแล้ว
“มู่อวิ่นเฉิง ฉันไม่ได้แค่สอบติดมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง แต่ยังติดมหาวิทยาลัยชื่อดังด้วยนะ! ทั้งฉันและผิงอันสอบติดมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง!” ไว้เจอกันคราวหน้า เธอจะโอ้อวดให้เต็มที่เลย!
MANGA DISCUSSION