บทที่ 119 ทำไมเธอถึงสอบได้ที่ 1?
เมื่อเกาซูและเกาผิงอันไปถึง หน้าป้ายประชาสัมพันธ์ก็เต็มไปด้วยผู้คน เบียดเสียดกันจนแทบไม่มีที่ยืน จู่ ๆ แม่ของผู้เข้าสอบคนหนึ่งก็ดันตัวไปข้างหน้าพลางตะโกนเสียงดัง “หลีกหน่อย! หลีกไป! อย่ามาบัง ฉันจะดูคะแนนลูกชายฉัน เขาต้องสอบได้ที่หนึ่งแน่ ๆ!”
เกาซูและเกาผิงอันยืนอยู่ด้านนอกสุด เขย่งเท้ามองเข้าไปด้านใน
มู่เยี่ยนฟางและสามีก็ช่วยดูด้วย ตู้เหลียงยังกลัวว่าพวกเธอทั้งสามคนจะถูกเบียด จึงใช้แขนกั้นคนรอบ ๆ ออกจากพวกเธอให้อย่างดี
จนกระทั่งเมื่อคนเริ่มซาลงบ้างแล้ว พวกเธอจึงค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้ป้ายประกาศได้เสียที
ทว่า ข้าง ๆ เกาซูก็ยังมีหญิงแก่ที่ตะโกนก่อนหน้านี้อยู่ เธอไล่สายตามองไปทั่วกระดานซ้ำแล้วซ้ำอีก คิ้วที่มีหงอกแซมเล็กน้อยก็ขมวดมุ่นก็เข้าหากัน
เกาซูไม่มีเวลาให้สนใจเธอนัก รีบกวาดสายตามองลำดับตั้งแต่ท้ายสุดขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่พบเสียที
ใจของหญิงสาวกระตุกวูบลงทีละนิด ยิ่งไล่รายชื่อขึ้นไปเธอก็ยิ่งรู้สึกสิ้นหวัง
จนกระทั่งสายตาของไล่มาถึงลำดับที่ 15 ก็ล้มเลิกไปกลางคัน พร้อมกับคิดในใจว่า ‘หมดหวังแล้ว’
แต่แล้ว เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“ผิงอัน! ผิงอันได้ที่ 1!” มู่เยี่ยนฟางตะโกนลั่น “เสี่ยว… เสี่ยวซูได้ที่ 3!”
ได้ยินดังนั้น เกาซูก็รีบไล่สายตามองไปยังลำที่ 1 และที่ 3 ในทันที
ที่ 1 เป็นชื่อเกาผิงอัน ส่วนที่ 3 ก็เป็นชื่อของเธอจริง ๆ!
เกาซูรีบหันไปกอดน้องสาวด้วยความดีใจ “ผิงอัน แกทำได้แล้ว! ในที่สุดก็ทำได้แล้ว!”
“ฉันดีใจมากค่ะพี่! ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะทำได้จริง ๆ!”
ตู้เหลียงเองก็ดีใจไม่แพ้กัน เกาซูและเกาผิงอันเป็นเหมือนน้องสาว เมื่อทั้งคู่ประสบความสำเร็จเขาย่อมดีใจด้วยไม่ต่างจากผู้ปกครอง
“น้องสาวผมเอง! ที่ 1 กับที่ 3 คือน้องสาวผม!”
ตู้เหลียงกระโดดทั้งยังกอดมู่เยี่ยนฟางไว้ ทั้งคู่ยิ้มจนแก้มปริ แต่อยู่ดี ๆ เสียงหนึ่งก็ขัดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมเธอถึงสอบได้ที่ 1?”
เกาซูคิดว่าคำถามของคนคนนี้แปลกมาก น้องสาวเธอสอบได้ที่เท่าไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนคนนี้ด้วย?
“บอกมา พวกเธอซื้อข้อสอบมาใช่ไหม?” หญิงแก่เอามือเท้าสะเอว วางท่าทางดุดัน
เสียงโวยวายของเธอ ดึงดูดความสนใจจากผู้คนรอบข้าง ทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเขา และเสียงซุบซิบดังขึ้นเป็นระยะ
“ซื้อข้อสอบ? เรื่องแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ?”
“ไม่แปลกใจเลยที่สอบได้ที่ 1 กับที่ 3 ที่แท้ก็มีข้อสอบอยู่ในมือล่วงหน้านี่เอง…”
เกาซูถึงกับเลือดขึ้นหน้า เธอโกรธจนตัวสั่น ข่าวลือสามารถทำลายชีวิตคนได้ ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างการซื้อข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยแล้ว หากปล่อยไว้ ข่าวลือเหล่านี้คงแพร่สะพัดไปทั่วเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ในพริบตา ถึงแม้เธอจะบริสุทธิ์ใจ แต่เมล็ดพันธุ์แห่งความเคลือบแคลง ก็ได้ถูกปลูกฝังลงในใจผู้คนไปแล้วย่อมไม่ใช่เรื่องดี
ความโกรธของเกาซู เทียบไม่ได้กับความเดือดดาลของมู่เยี่ยนฟาง เธอพุ่งเข้าไปตบหน้าหญิงแก่ฉาดใหญ่ “เมื่อเช้าแกกินอะไรเข้าไป ถึงได้หาเรื่องน้องสาวฉันแบบนี้ หา!?”
หญิงแก่หน้าชา สติแตก เธอพุ่งเข้าหาเกาผิงอัน “แก… เกาผิงอันใช่ไหม? แกมีสิทธิ์อะไรมาสอบได้ที่ 1? เด็กบ้านนอกกินดินเหนียวอย่างแก ถ้าไม่ได้ซื้อข้อสอบ จะสอบติดได้ยังไงกัน!?”
มู่เยี่ยนฟางตบหน้าเธออีกครั้ง คราวนี้ จิกผมไว้แน่น อีกฝ่ายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด “โอ๊ย! อาหลูลูกแม่! ลูกอยู่ไหน แม่โดนตบนะ รีบมาช่วยแม่หน่อย!”
หลูอีเจี้ยนวิ่งหน้าตั้งแทรกกายเข้ามา เพื่อจะช่วยแม่ของตนเอง แต่ก็ถูกตู้เหลียงกันไว้เสียก่อน
เกาซูเห็นว่าคนเริ่มมามุงกันเยอะขึ้น จึงอาศัยจังหวะนี้ในการแถลงความบริสุทธิ์
แต่ก่อนอื่น… เธอขอเอาคืนคนที่ใส่ร้ายเธอให้อับอายเสียก่อน!
หญิงสาวก้าวออกไปข้างหน้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสายตาจับผิด “หมายความว่ายังไง? ทำไมป้าถึงรู้เรื่องการซื้อข้อสอบดีนัก? หรือว่า… ป้าเป็นคนซื้อข้อสอบซะเองล่ะ!?”
เกาซูสงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนก่อนรู้ผลสอบแล้ว ไม่อย่างนั้น คนตรงหน้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ลูกชายของเธอจะสอบได้ที่ 1?
แต่ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะซื้อขายกันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเชียวเหรอ? นอกเสียจากว่าโดนหลอก…
เพียงวิเคราะห์ด้วยหัวของตัวเอง เท่านี้เกาซูก็รู้แล้วว่าสองแม่ลูกคู่นี้โดนหลอกตุ๋นจนเปื่อยไปแล้ว
คำถามของเกาซู ทำให้หญิงแก่ถึงกับพูดไม่ออก เธอตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แม้แต่ลูกชายก็ดูเงียบ และใบหน้าบ่งบอกถึงความวิตกกังวล “แม่ครับ อย่ามีเรื่องเลย กลับบ้านกันเถอะ! ถ้าแม่ไม่ยอมไป ผมจะไปก่อนนะครับ!”
เกาซูยิ่งมั่นใจ ภายใต้สายตาสงสัยของผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ เธอจับแขนหญิงแก่ไว้แน่น “ในเมื่อคุณพูดเรื่องซื้อข้อสอบ งั้นเราไปสถานีตำรวจ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์กันเถอะ ฉันสามารถบอกตำรวจอย่างตรงไปตรงมาว่าฉันไม่ได้ซื้อข้อสอบอะไรทั้งสิ้น ที่สำคัญฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น ฉันอ่านหนังสือจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน สามีของฉันที่เป็นทหารก็คอยสอนบทเรียนให้ ดังนั้น ฉันมีพยายานรู้เห็นถึงความตั้งใจในการสอบของฉันกับน้องสาว จะให้ฉันทำข้อสอบอีกทีก็ยังได้ แล้วคุณล่ะ? คุณกล้าไหม? กล้าให้ลูกชายสอบแข่งกับฉันและน้องสาวไหมล่ะ?”
หญิงแก่หน้าซีดลงทันที แล้วอ้ำอึ้งอยู่นานเพราะพูดไม่ออก
เกาซูหัวเราะในลำคอ สบตากับเธออย่างไม่เกรงกลัว แล้วกล่าวเสียงดังฟังชัดท่ามกลางผู้คนมากมาย “ฉันจะพูดอีกครั้ง ฉันยินดีให้ตำรวจมาสอบสวน เพื่อพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้ซื้อข้อสอบล่วงหน้าอย่างที่คุณพูด! แล้วคุณล่ะ? กล้าหรือเปล่า?”
“ฉัน… ฉัน… ฉันต้องรีบกลับไปทำกับข้าว…” หญิงแก่ดิ้นรนสุดแรง ใบหน้าซีดเผือด เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เกาซูหันไปมองผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ทุกคนคงได้ยินแล้วนะคะ ว่าใครกันแน่ที่น่าสงสัย ฉันขอยืนยันอีกครั้ง ทองแท้ไม่กลัวไฟ! คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวการตรวจสอบ! ฉันกับน้องสาวได้ที่ 1 และที่ 3 มาด้วยความสามารถ ไม่ว่าจะสอบอีกสักกี่ครั้ง ผลมันก็ยังเหมือนเดิม!”
“ไปกันเถอะ” เกาซูคว้าแขนน้องสาว แล้วพากันเดินออกไป
ระหว่างทาง ยังได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกัน
“ที่แท้ คนที่ซื้อข้อสอบก็ป้าคนนั้นนั่นเอง แล้วยังมีหน้าไปสงสัยคนอื่น ตัวเองทำเลวแท้ ๆ”
“ถ้าซื้อข้อสอบแล้วทำไมลูกชายยังสอบไม่ติดล่ะ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ! เขาว่ากันว่า ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นความลับสุดยอดเลยนะ จะไปหาซื้อได้ยังไง คงถูกหลอกขายล่ะสิไม่ว่า!”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อย ๆ เลือนหายไป เกาซูและพี่ ๆ มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ ตั้งใจที่จะกลับโรงงานในวันนี้เลย
ระหว่างทาง บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เกาผิงอันเกาะแขนเกาซูแน่น “พี่ พี่ว่าคะแนนของพวกเราจะถึงเกณฑ์มหาวิทยาลัยที่เลือกไว้ทั้งหมดไหม?”
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ ผู้เข้าสอบต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการก่อน 3 ที่ แล้วจึงเข้าสอบ จากนั้น เมื่อคะแนนออกมาว่าถึงเกณฑ์ทั้ง 3 มหาวิทยาลัย ผู้เข้าสอบจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการเรียนที่ไหน
เกาผิงอันเคยถามเกาซูว่า อยากเรียนที่ไหน
หลายคนแนะนำให้เธอสมัครมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง
เธอเคยกังวลเรื่องความสามารถของตัวเอง เลยลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้เกิดใหม่อีกครั้งแล้ว ยังจะมีอะไรที่ต้องกลัวอีก? อย่างมากก็แค่สอบไม่ติดเท่านั้นเอง!
ดังนั้น เกาซูจึงตั้งใจจะเลือกมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง
MANGA DISCUSSION