บทที่ 64 เจ้าคนตาขาวไร้ความสามารถ
เหตุใดจึงต้องพาไปทั้งบุรุษและสตรีอย่างนั้นหรือ?
นี่ก็คือทักษะในการวิวาท ประเดี๋ยวไปถึงบ้านสกุลหลิน หากมีสตรีสกุลหลินรุดออกมา ทางนี้ก็ต้องส่งสตรีออกไปรับหน้า มิเช่นนั้นผู้อื่นจะร่ำร้องเอาได้ว่า “ผู้ชายสกุลจูหน้าไม่อาย ตีได้แม้กระทั่งผู้หญิง!”
ต่อให้พลังต่อสู้ของเย่อวี๋หรานสูงส่งกว่านี้ก็ไม่อาจรับมือสตรีสกุลหลินทั้งบ้านได้กระมัง?
นางพาหลิ่วซื่อกับหลิวซื่อไปด้วยก็เพื่อให้ดูน่าเกรงขามนั่นเอง
อีกฝั่งหนึ่ง ครอบครัวสกุลหลินก็ได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว
แม่เฒ่าหลินมองโจ๊กโหรงเหรงพลางทอดถอนใจอยู่ในเรือน มีคนวิ่งมาส่งข่าวถึงบ้านว่า “แย่แล้ว แม่เฒ่าหลิน คนบ้านสกุลจูมากันแล้ว”
ถ้วยตรงหน้าสะใภ้ใหญ่สกุลหลินพลันหล่นลงบนโต๊ะ ตกใจกลัวจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง “ว่าอย่างไรนะ?! หญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นั้นมาแล้ว?!”
“ไม่ได้เรื่อง!” แม่เฒ่าหลินถลึงตาใส่นาง แต่ความจริงแล้วในใจนางก็แอบกลัวเหมือนกัน
หญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นั้นไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป สมัยก่อนฟังว่านางสร้างเรื่องครึกโครมอยู่ในหมู่บ้านสกุลจู แต่เมื่อลูกสะใภ้คนที่สี่ของนางแต่งเข้าเรือน นางก็ไม่กลัวว่าจะหาลูกสะใภ้ไม่ได้อีก จึงทะเลาะวิวาทกับ ‘มารดาของลูกสะใภ้’ จนชื่อเสียงลือเลื่องไปทั้งเขาไท่ตัง
แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ลูกสะใภ้คนนั้นยังคงแต่งเข้าเรือนไปอยู่ดี ‘แม่ยาย’ ผู้นั้นยังจะทำอะไรได้?
ลูกสาวไปอยู่ในกำมือของผู้อื่น ก็ได้แต่บังคับจิตใจตนเองให้กว้างขวางกว่าเดิมเท่านั้น
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แม่เฒ่าหลินก็ยิ่งร้อนรน
ถึงนางจะไม่ใช่ ‘มารดาลูกสะใภ้’ ของหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์ แต่เรื่องที่ลูกสะใภ้ห้าของผู้อื่นแท้งลูกกลับเกี่ยวพันกับนาง กระดูกแก่ ๆ ของนางจะสู้แม่สามีที่ดุร้ายเช่นนั้นได้อย่างไร?
แม่เฒ่าหลินยกโจ๊กที่โหรงเหรงจนเห็นก้นถ้วยขึ้นซดหมดในรอบเดียว จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินหาสิ่งของที่เหมาะมือไปทั่ว แต่ไม่รอให้นางหาพบก็ได้ยินเสียงมาจากหน้าประตูใหญ่นอกเรือน
จุดไท่หยางตรงหางคิ้วของแม่เฒ่าหลินปวดตุบขึ้นมาทันที ได้ยินเสียง ‘ปัง’ ดังสะท้าน คล้ายกับอะไรบางอย่างกระทบประตูเรือน
“ท่านแม่ แย่แล้ว หญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนั้นบุกมาแล้วเจ้าค่ะ นางพกมีดมาด้วย!” สะใภ้ใหญ่สกุลหลินแอบมองจากมุมกำแพงแล้ววิ่งกลับเข้ามาด้วยท่าทางแตกตื่น
พ่อเฒ่าหลินพลันบังเกิดโทสะ ถลึงตาใส่แม่เฒ่าหลินแล้วพูดว่า “บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาแต่รังแกครอบครัวเจ้าสาม ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ แม่สามีของนางบุกมาถึงเรือนแล้ว ดูซิว่าเจ้าจะจัดการอย่างไร?”
“จัดการอย่างไรน่ะหรือ? ข้าอยากบังคับให้เจ้าสามขายลูกสาวนักหรือ? นั่นล้วนเป็นเพราะเจ้าไม่ได้เรื่อง คนในบ้านจะอดตายอยู่แล้ว ถ้าข้าไม่บังคับเจ้าสามขายลูกสาว แล้วเจ้าจะเอาอะไรมาเลี้ยงครอบครัวใหญ่แบบนี้?” แม่เฒ่าหลินตอกกลับ
“ไร้สาระสิ้นดี!” พ่อเฒ่าหลินสะบัดหน้าเดินหนีอย่างโมโห “เรื่องนี้ข้าไม่ยุ่งด้วยแล้ว เจ้าจัดการเองก็แล้วกัน”
เขาพูดจบก็เข้าห้องไป
แม่เฒ่าหลินโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ชี้นิ้วใส่เงาหลังของพ่อเฒ่าหลิน นิ้วมือสั่นระริก “เจ้า…เจ้าคนตาขาวไร้ความสามารถ!”
สะใภ้ใหญ่สกุลหลินหดคอ ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย คิดในใจว่าถ้าพ่อสามีไม่ใช่คนตาขาวไร้ความสามารถ ท่านยังจะข่มเขามาได้ตั้งหลายปีหรือ?
“ท่านแม่ เรื่องนี้จะทำอย่างไรดี?” หลินต้าเซิงเป็นบุตรชายคนโตของแม่เฒ่าหลิน ทั้งยังเป็นคนไร้หัวคิดเช่นกัน เขาฟังคำสั่งมารดามาตลอด ยามนี้จึงถามขึ้นมาอย่างเป็นกังวล
“เอาอย่างไร พวกสวะไร้ประโยชน์ คนอื่นเขามาถึงเรือนเราแล้ว เจ้ายังจะให้ข้าไปรับหน้าคนเดียวอีก?” แม่เฒ่าหลินคิดไม่ถึงเลยว่าในเวลาแบบนี้ แม้แต่ลูกชายที่เคารพเชื่อฟังนางมาตลอดก็ยังพึ่งพาไม่ได้ ลูกผู้ชายอกสามศอกยังต้องวิ่งมาขอความเห็นจากนาง?
นางพลันรู้สึกว่าชีวิตตนเองลำบากยิ่งนัก ไฉนจึงคลอดคนตาขาวไร้ประโยชน์ออกมาเสียได้ แม้แต่มารดาของตัวเองก็ยังปกป้องไม่ได้
ด้านนอกเรือน เย่อวี๋หรานมองกำแพงสูงใหญ่ของบ้านสกุลหลิน เค้นเสียงเย้ยหยันทีหนึ่ง มีดหั่นผักก็สับลงไปบนประตูเรือนของพวกเขา
คนในหมู่บ้านสกุลหลินที่มาชมดูความครึกครื้นพากันตัวสั่น “…” น่ากลัวชะมัด! สมแล้วที่เป็น ‘หญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์’ ในคำร่ำลือ
เมื่อสายตาของเย่อวี๋หรานกวาดมองมาทางนี้ พวกเขาก็รีบร้อนเก็บสายตากลับไปไม่กล้ามองนาง กลัวว่าจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
“ข้ารู้ว่าหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างข้ามีชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในละแวกนี้ แต่ข้าก็ไม่ได้ไร้เหตุผลถึงปานนั้น ถ้าไม่มีคนรังแกคนในครอบครัวสกุลจูของข้า ข้าก็คร้านจะสนใจ ข้ามาคราวนี้ก็เพราะอยากจะถามว่าลูกสะใภ้ห้าบ้านข้าเป็นอะไรไป?” เย่อวี๋หรานทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่ออวดอ้างบารมีระรานคนอื่น แต่นางมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้
“ใช่ ลูกสะใภ้คนที่ห้าของข้าแซ่หลิน เป็นเด็กสาวสกุลหลิน แต่ตอนนี้นางแต่งเข้าบ้านสกุลจูของข้าแล้วก็คือคนบ้านสกุลจู มีแต่ข้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องราวเกี่ยวกับนาง ผู้ใดกล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายนิ้ว ก็ต้องถามมีดในมือข้าก่อนว่าแม่นหรือไม่” เย่อวี๋หรานพูดเสียงดัง ดึงมีดขึ้นมาแล้วสับลงไปแรง ๆ อีกครั้ง
‘ไม่… ไม่กล้าถาม’ คนหมู่บ้านสกุลหลินตอบพร้อมกันในใจ
ภายในเรือน แม่เฒ่าหลินและคนอื่น ๆ ย่อมได้ยินเสียงตะโกนจากข้างนอก
สะใภ้ใหญ่สกุลหลินครั้นได้ยินเรื่องนี้ก็มองไปทางแม่สามีของตนเองอย่างระมัดระวัง แม้นางจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่แค่เดาก็รู้ได้
ผู้ที่ทำร้ายลูกสาวคนรองของบ้านเจ้าสามจนแท้งลูกก็คือแม่สามีไม่ใช่หรือ?
ในเมื่อหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์ที่ดุร้ายผู้นั้นมาหาแม่สามี เช่นนั้นถ้าให้แม่สามีออกไปยอมรับความผิด คนในครอบครัวก็คงจะไม่เป็นไรแล้ว?
“เปิดประตู!” เย่อวี๋หรานประกาศความเป็นมาของเรื่องราวชัดเจนแล้วก็ตะโกนเข้าไปข้างในอย่างเกรี้ยวกราด “ผู้อาวุโสสกุลหลิน ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าคนไหนอยู่ข้างใน รีบเปิดประตูให้ข้าเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้ลูกชายหลายคนของข้าพังประตูเข้าไปเสีย”
“ท่านแม่” สะใภ้ใหญ่สกุลหลินรีบถาม “จะเปิดประตูไหมเจ้าคะ?”
“เปิดอะไร? พวกเรามีคนอยู่แค่นี้ หญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นมีลูกชายตั้งเท่าไหร่ นางบุกเข้ามาแล้ว สตรีในเรือนยังจะรอดหรือ?” แม่เฒ่าหลินคำราม “ไม่เปิด”
สะใภ้ใหญ่สกุลหลินพึมพำ “แต่ถ้าไม่เปิด พวกนางก็จะพังเข้ามา ประตูเรือนของพวกเราไม่ได้…” แข็งแรงปานนั้น
เย่อวี๋หรานรออยู่ข้างนอกสักพัก ครั้นเห็นว่าข้างในยังไร้ความเคลื่อนไหวก็ถีบประตูไปทีหนึ่ง
“แม่เฒ่าหลิน เปิดประตู! ข้าจะนับถอยหลังจากสาม ถ้ายังไม่เปิดก็จะกระแทกประตูเข้าไปแล้วนะ สาม!…”
สะใภ้ใหญ่สกุลหลินไม่กล้าส่งเสียง นางมองไปทางหลินต้าเซิง
หลินต้าเซิงรีบพูด “ท่านแม่ พวกเขาจะกระแทกประตูเข้ามาแล้วนะ”
เสียงนับจากข้างนอกลอยเข้ามาอีกครั้ง “สอง!”
แม่เฒ่าหลินย่อมทราบดีว่าประตูเรือนตนเองไม่แข็งแรง ด้วยอารามลนลานก็รุดเข้าไปในห้องครัวแล้วคว้ามีดทำครัวมาเล่มหนึ่ง
ตอนที่นางออกมาก็ทันได้ยินเสียงนับจากข้างนอกว่า “หนึ่ง!”
หลินต้าเซิงและสะใภ้ใหญ่สกุลหลินเห็นมีดในมือแม่สามีก็ทั้งกลัวทั้งกังวล โชคดียิ่งนักที่ทันทีที่เกิดเรื่องพวกเขาก็ให้ลูกชายสามคนเข้าไปหาท่านปู่ในห้องแล้ว ไม่อย่างนั้น…
เย่อวี๋หรานเห็นว่าในเรือนไร้เสียงตอบรับ สีหน้าก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิม “ได้ ในเมื่อพวกเจ้าอยากให้ข้าพังประตูเข้าไปนัก งั้นข้าก็จะพังมันเข้าไปเดี๋ยวนี้”
นางถอยหลังมาหลายก้าว แล้วสั่งพวกลูกชายช่วยกันกระแทกประตู
จูอู่คิดถึงภรรยาของตนเองที่แท้งลูกนั้นข่มโทสะไว้นานแล้ว เขาไม่พูดอะไรสักคำก็วิ่งเข้าไปชนประตูทันที
พวกจูต้าตามเข้ามาช่วย
ปัง!
ปัง!
ปัง!
ชนไปไม่กี่ครั้ง ประตูเรือนสกุลหลินก็โคลงเคลงทำท่าจะล้ม
สะใภ้ใหญ่สกุลหลินกลัวจนต้องฉุดแขนของหลินต้าเซิง “ต้าเซิง ทำอย่างไรดี? จะเข้ามาแล้ว…”
“ลนลานอะไร? ไปหยิบอาวุธมา” แม่เฒ่าหลินแค้นใจที่ตนเองไม่ได้คลอดลูกเก่งเหมือนฝ่ายตรงข้าม หากนางให้กำเนิดลูกชายออกมาหลายคนเช่นนั้น ยังจะต้องกลัวหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์อยู่อีกหรือ?
MANGA DISCUSSION