บทที่ 45 มีคนดีใจจนเหลิง
“วิธีถักแบบสุดท้ายนี้เจ้ารู้สึกว่าไม่ค่อยสวยเลยใช่หรือไม่? ที่จริงถ้าพลิกแพลงใช้ให้ดี มันก็สวยได้เหมือนกัน ตอนนี้ข้ากำลังสอนให้เจ้าเอาการถักแบบนั้นมาผสมผสานกับแบบอื่น ๆ เจ้าก็จะพบว่าต่อให้เป็นสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด มันก็สามารถสวยขึ้นมาได้เหมือนกัน”
ชาติที่แล้วเย่อวี๋หรานโปรดปรานรายการโทรทัศน์เรื่อง ‘ตำนานลู่เจิน’ มาก ตอนที่นางดูอยู่นั้นก็ได้เห็นสร้อยข้อมือเชือกถักสีแดงแบบจีนที่เรียบง่ายทว่าสวยงามมาก[1]
ก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดถึง แต่ตอนนี้ค่อยนึกขึ้นมาได้ การถักแบบนั้นไม่ซับซ้อนและยังมีเอกลักษณ์ เหมาะจะเอามาสอนจูปาเม่ยพอดี
“วิธีถักแบบนี้เริ่มจากการมัดแถบผ้าเป็นปมเสียก่อน กะขนาดข้อมือให้ดี และความยาวต้องเหมาะสม” เย่อวี๋หรานเอาไปทาบกับข้อมือของจูปาเม่ยอีกครั้ง “อื้อ แบบนี้ก็ได้แล้ว ความยาวที่เกินมาส่วนนี้จะใช้ทำเป็นปมกระดุม ส่วนอีกฝั่งใช้ทำเป็นรังดุม…”
จูปาเม่ยพยักหน้า “ข้าทำปมกระดุมเป็น”
“งั้นข้าก็จะไม่อธิบายละเอียดแล้ว” เย่อวี๋หรานทำเสร็จแล้วก็ยัดใส่มือจูปาเม่ย ให้นางช่วยถือ จากนั้นหยิบแถบผ้ายาว ๆ ออกมาสามเส้น เอามาวางตัดกับแถบผ้าในมือจูปาเม่ยในลักษณะเลขสิบ (เลขสิบจีนจะมีหน้าตาเหมือนไม้กางเขน) เรียงหน้ากระดานใต้ปมที่ผูกไปแต่แรก แล้วผูกปมอีกอัน “ก่อนจะเริ่ม ให้ผูกปมคู่ไว้ตรงนี้ก่อน ยึดให้แน่น จากนั้นก็เริ่มถักได้”
“ทำแบบนี้ เอาแถบผ้าสามเส้นจากฝั่งซ้ายขวามาถักสลับกันโดยใช้แถบผ้าสองเส้นตรงกลางเป็นแกน อิงตามลำดับที่แน่นอน ดูให้ดี กลุ่มแรกกับกลุ่มที่สองล้วนอยู่ใต้แถบผ้าแกนกลางทั้งสองเส้น มีเพียงกลุ่มที่สามที่พอถักสลับกันแล้วจะอยู่เหนือแถบผ้าแกนกลาง”
“เจ้าดูตรงนี้ หลังจากดึงให้แน่นแล้ว ฝั่งซ้ายขวาสองฝั่งล้วนเป็นรูปพัดใช่หรือไม่?”
จูปาเม่ยพยักหน้า “อื้ม ใช่เจ้าค่ะ”
“จากนั้นก็ถักซ้ำเหมือนก่อนหน้านี้ อันนี้ดูไปแล้วเหมือนถักเปียเลยใช่ไหม?” เย่อวี๋หรานถามต่อ
จูปาเม่ยมีท่าทางครุ่นคิด “แต่วิธีถักไม่เหมือนกับการถักเปีย ถ้าถักเปียจะใช้เส้นที่สามตรงกลางถักด้วย แต่วิธีถักนี้ แถบผ้าสองเส้นตรงกลางไม่ขยับเลย”
“ถูกต้อง นี่ก็คือข้อแตกต่าง แล้วลำดับการถักก็ห้ามผิดด้วย ไม่อย่างนั้นพอถักออกมาแล้ว ลักษณะของเปียก็จะเพี้ยนไป”
จูปาเม่ยพยักหน้า “เจ้าค่ะ”
“วิธีถักก็มีเท่านี้ หลังจากนั้นก็ถักเหมือนเดิมต่อไปจนได้ความยาวของข้อมือเจ้าก็เสร็จแล้ว จากนั้นก็ผูกปมปิดท้าย แถบผ้าที่เกินมาก็หาวิธีกำจัดทิ้งไป สุดท้ายเหลือความยาวไว้ทำปมกระดุม” เย่อวี๋หรานพูด “ถ้าเจ้ารู้สึกว่าจัดการกับปลายที่เกินมานั้นยุ่งยากเกินไป จะถักเป็นปมกระดุมให้สิ้นเรื่องไปเลยก็ได้ แต่ว่าตรงปลายแถบผ้าจะทู่อยู่บ้าง ข้ากลัวว่าถ้าปมกระดุมเยอะเกินไปแล้วจะไม่งาม”
จูปาเม่ยฟังพลางจ้องสร้อยข้อมือในมือของมารดาตาปริบ ๆ ดั่งต้องมนต์สะกด
ทำไมวิธีถักเชือกง่าย ๆ แต่พอมาอยู่ในมือของท่านแม่ถึงได้สวยแบบนี้นะ?
ขณะที่มารดาของนางถักก็ดูใส่ใจกับแถบผ้าอย่างมาก ถักไปพลาง ปรับไปพลาง ครั้นเก็บปลายผ้าส่วนที่ตัดทิ้งไปเสร็จแล้ว ก็ราวกับเจตนาตัดออกมาให้เป็นเช่นนั้น
จูปาเม่ยเลื่อมใสยิ่งนัก
มิน่าล่ะ ท่านแม่ถึงชอบตำหนิว่านางโง่งม ถ้านางมีฝีมือแบบท่านแม่แล้วละก็…
เดี๋ยวก่อน ท่านแม่มีฝีมือร้ายกาจปานนี้ แต่ยังถูกนายน้อยไล่ออกมา เป็นอนุภรรยาไม่สำเร็จ ส่วนนางที่ยังสู้ท่านแม่ไม่ได้ แล้วนี่จะไม่ยิ่งอนาถกว่าหรอกหรือ?
จูปาเม่ยคล้ายจะเข้าใจแล้วว่าทำไมหลายวันมานี้ท่านแม่จึงเริ่ม ‘จัดการ’ กับนาง
จริง ๆ แล้วไม่ใช่เพื่อ ‘จัดการ’ นาง แต่เป็นเพราะนางยังห่างชั้นจากท่านแม่อีกไกล เห็นว่านางใกล้จะถึงวัยนั้นแล้ว ท่านแม่จึงร้อนใจสินะ
จูปาเม่ยลอบเข่นเขี้ยวในใจ ไม่ได้การ! นางจะต้องเรียนรู้ให้เก่งกาจ มิฉะนั้นคงจะต้องลงเอยเหมือนท่านแม่ ทำได้เพียงแต่งให้ชาวนาขาเปื้อนโคลน เป็นแม่สามีไปตลอดชีวิต!
“เจ้ารู้ไหมว่าถ้าอยากจะถักให้สวยแบบนี้ นอกจากเลือกสีแล้วยังมีจุดสำคัญอะไรอีก?” เย่อวี๋หรานถามอย่างจริงจัง
“อะไรหรือเจ้าคะ?”
“ความริเริ่มสร้างสรรค์” เย่อวี๋หรานกลัวนางจะไม่เข้าใจจึงเปลี่ยนไปใช้คำอื่น “หรือก็คือความคิด ไม่ว่าเจ้าจะถักอะไรก็ตาม ในหัวเจ้าต้องมีความคิดที่ชัดเจนเสียก่อน ต่อให้เป็นวิธีถักแบบพื้นฐานไม่กี่แบบ ขอเพียงเจ้าฝึกฝนจนคล่องแคล่ว ใช้งานได้ชำนาญแล้ว ก็นำวิธีการเหล่านั้นมาผสมผสานกัน ผนวกกับการเลือกสีและวัสดุที่ใช้ มันก็สามารถกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนทึ่งได้”
นางตบหลังจูปาเม่ยเบา ๆ เพื่อให้นางฝึกฝนให้มาก
“ข้าจะสอนวิธีถักแบบอื่นให้เจ้าอีก แต่ข้าจะสอนเจ้าแค่วิธีถักเท่านั้น เจ้าไม่อาจเอาแต่ทำตามความคิดสร้างสรรค์ของข้าได้ แต่เจ้าต้องคิดวิธีการสร้างสรรค์แบบใหม่ออกมาเองด้วย”
จูปาเม่ยพยักหน้า “เจ้าค่ะ ข้าทราบแล้ว ท่านแม่”
หลังถักสร้อยข้อมือได้สามอัน เวลานอนกลางวันก็ผ่านพ้นไปแล้ว เย่อวี๋หรานยืนขึ้นเคลื่อนไหวร่างกาย จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังมาจากในลานเรือน
จูเหล่าโถวเริ่มเรียกลูกชายให้ตามเขาไปทำนา
บรรดาลูกสะใภ้ก็ลุกขึ้นมาจากการนอนกลางวัน เริ่มจัดการงานเรือนในช่วงบ่าย คนที่จิตใจยังคงสดชื่นกระปรี้กระเปร่าคงมีแต่ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าที่อยู่ข้างนอกและยังไม่กลับมา
เย่อวี๋หรานออกมาข้างนอก จูปาเม่ยนั่งสักพักก็ตามออกมา แน่นอนว่านางไม่ได้ออกมาเพื่อทำงาน แต่มาเพื่อ ‘อวดอ้าง’
นางจงใจเดินนวยนาดผ่านหน้าบรรดาพี่สะใภ้ ทำทีเหมือนจะไปช่วยงานพวกนาง แล้วก็จงใจทำสร้อยข้อมือโผล่ออกมาเหมือนไม่ได้ตั้งใจ
สร้อยข้อมือที่ทั้งงดงามและประณีตนั้นทำให้เหล่าพี่สะใภ้ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
หลี่ซื่อเก็บคำพูดไม่อยู่ ถามขึ้นมาเดี๋ยวนั้น “โอ้โห เสี่ยวเม่ย ที่สวมอยู่บนข้อมือเจ้าคืออะไรน่ะ งดงามยิ่งนัก!”
แววตาของหลินซื่อเผยความอิจฉาออกมาให้เห็น “ท่านแม่รักเจ้ามากจริง ๆ ใช้เงินไม่น้อยเลยกระมัง?”
จูปาเม่ยมีสีหน้าได้ใจ “ใช้เงินตรงไหน? เจ้านี่น่ะ ต่อให้มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ ตอนพวกท่านไปตลาดเคยเห็นว่ามีอะไรแบบนี้ขายด้วยหรือ?”
“ไม่มีจริง ๆ ด้วย” หลี่ซื่อนึกทบทวนแล้วก็พบว่าไม่เคยเห็นมาก่อนจริง ๆ
“อันนี้ท่านแม่ทำให้ข้า พวกท่านคิดว่าสองวันมานี้ท่านแม่ดุข้าก็คือจะไม่รักข้าแล้ว? คนที่ท่านแม่รักที่สุดก็คือข้า วันนี้แม้แต่นอนกลางวันก็ยังไม่นอน ถักสร้อยข้อมือหลายอันมาชดเชยให้ข้า” จูปาเม่ยเชิดคางขึ้นสูงลิ่ว กล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “ถ้าไม่ใช่เพราะนางเป็นท่านแม่ของข้า ข้าไม่มีทางยกโทษให้ง่ายดายขนาดนี้หรอก”
ลูกสะใภ้หลายคนหันไปมองแม่สามีที่มองมาทางนี้
หลี่ซื่อไม่สบอารมณ์ หลายวันมานี้นางพยายามแย่งชิงความโปรดปราน แต่ก็ยังเอาชนะจูปาเม่ยไม่ได้อีกหรือ?
“จริงหรือ? พูดแบบนี้ก็หมายความว่าของที่อยู่บนข้อมือเจ้าเป็นของขวัญที่ท่านแม่ให้เจ้าแทนคำขอโทษอย่างนั้นสิ?” นางเห็นว่าเย่อวี๋หรานกำลังเดินมาทางนี้จึงจงใจพูดเสียงดัง
จูปาเม่ยไม่ได้สังเกตเห็น จึงตอบรับอย่างเป็นธรรมชาติ “ใช่น่ะสิ ไม่อย่างนั้นท่านคิดว่ายังจะเป็นอะไรได้อีก? พวกท่านจะเอาใจแม่ข้าแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ นั่นคือท่านแม่ของข้า ท่านแม่รักข้าที่สุด ส่วนพวกท่าน…จุ๊ ๆๆๆ ได้แต่คลอดลูกให้สกุลจูและทำงานหนักไปชั่วชีวิตเท่านั้นแหละ”
“เฮอะ ๆ!” เย่อวี๋หรานปวดขมับ กลัวว่าลูกสาวไร้สมองคนนี้จะพูดพล่ามอะไรต่อไปอีก จึงรีบขัดขึ้นมา “พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่?”
จริง ๆ เลย! เพิ่งจะดีกับจูปาเม่ยไปหน่อยเดียว นางก็ดีใจจนเหลิง ต่อไปยังจะปฏิบัติต่อจูปาเม่ยอย่างผ่อนคลายได้อีกหรือ?
เย่อวี๋หรานครุ่นคิด หรือนางควรจะมอบแรงกดดันให้จูปาเม่ยสักหน่อยดี?
[1] สร้อยข้อมือเชือกถักสีแดงที่ปรากฏในเรื่อง ตำนานลู่เจิน《陆贞传奇》
ที่มา : https://www.jianshu.com/p/5d3762e5170d
MANGA DISCUSSION