บทที่ 44 สอนงานฝีมือให้จูปาเม่ย
เย่อวี๋หรานให้คำตอบว่า “คือการเลือกสี”
“เลือกสี?”
“ใช่” เย่อวี๋หรานพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ข้าสอนให้เจ้ารู้จักสีสันต่าง ๆ สอนเจ้าเลือกสี สอนวิธีถักปมง่าย ๆ ให้เจ้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐาน ขอเพียงทำเป็นแล้ว เมื่อเจ้าเรียนลึกลงไปกว่านี้ก็จะสามารถเข้าใจได้”
ความจริงแล้ว เจ้าของร่างเดิมหาได้ทำเรื่องพวกนี้เป็นไม่ แต่อาศัยว่าที่นี่ไม่มีใครแย้งคำพูดของตนเอง จึงได้หลอกจูปาเม่ยกระมัง
และตอนนี้นางก็คือเจ้าของร่างเดิม ใครจะออกหน้าแทนเจ้าของร่างเดิมมาบอกว่านางโกหกกัน?
จูปาเม่ยตะลึงนิ่งไป
“ข้าถักให้เจ้าดูก่อน นี่ก็คือปมสองสี ที่จริงก็คล้ายกับการถักเปียที่ข้าเคยสอนเจ้าอยู่บ้าง แต่ว่านี่เป็นเปียคู่” เย่อวี๋หรานพูดพลางเลือกแถบผ้าที่เหมาะสมออกมา ใช้กรรไกรตัดให้เป็นแถบเล็กลง แล้วให้จูปาเม่ยช่วยจับแถบผ้าอีกฝั่งหนึ่งไว้ เลือกสีที่เข้ากัน จากนั้นก็เริ่มถัก “เจ้าดู ทำแบบนี้ นี่คือเปียข้างหนึ่ง ส่วนนี่ก็เหมือนกัน…”
จูปาเม่ยก้มลงมอง และพยักหน้า “อื้ม อันนี้ข้าทำเป็นเจ้าค่ะ ท่านแม่เคยสอนข้าแล้ว”
“ใช่ ก็คือแบบนี้แหละ” เย่อวี๋หรานไม่ได้ถักต่อไปจนเสร็จ ส่งอีกฝั่งหนึ่งให้จูปาเม่ยลองถักดู
จูปาเม่ยลนลานเล็กน้อย “ท่านแม่ ข้ากลัวว่าจะทำได้ไม่ดี”
“ไม่ต้องกลัว เจ้าถักต่อไป ข้าจะคอยดูเจ้าทำ”
จูปาเม่ยย่อมทำได้ไม่ดีเท่าไหร่อยู่แล้ว ตอนนางดึงแถบผ้า ก็มักจะมีข้างหนึ่งแน่น ข้างหนึ่งหลวม เย่อวี๋หรานต้องเอ่ยทักเป็นระยะจึงทำจนเสร็จสิ้น
เทียบกับเย่อวี๋หรานที่ถักได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวแล้ว ความเร็วของจูปาเม่ยจึงเทียบได้กับเด็กน้อย
เอาเถอะ ตอนนี้จูปาเม่ยก็เป็นแค่เด็กสิบขวบเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ?
“เจ้าดู เจ้าทำได้ดีมากเลยนี่นา?”
จูปาเม่ยคิดไม่ถึงว่ามารดาจะชมเชยตนเอง พลันรู้สึกดีใจขึ้นมา คลี่ยิ้มกว้างจนเห็นฟัน
ถ้าเป็นเจ้าของร่างเดิมจะต้องตำหนิว่า ‘เวลายิ้มห้ามให้เห็นฟัน’ เป็นแน่ แต่เย่อวี๋หรานไม่ถือสาสักนิดที่จูปาเม่ยแสดงด้านเด็ก ๆ ของนางออกมา ครั้นเห็นว่านางถักเชือกตรงหน้าได้พอสมควรแล้ว ก็บอกให้จูปาเม่ยพักไว้ก่อน แล้วจึงหยิบแถบผ้าอันใหม่ขึ้นมา สอนว่าจะซ่อนปมแถบผ้าที่ถักไปแล้วได้อย่างไร
“เจ้าดู ทำแบบนี้ หาจุดที่มีสีคล้ายกันสอดเข้าไป เหน็บไว้ข้างใน เห็นหรือไม่ว่าเท่านี้ก็ซ่อนปมที่อยู่ข้างในได้แล้ว?”
จูปาเม่ยอัศจรรย์ใจ “จริงด้วย?! ท่านแม่ ท่านร้ายกาจจริง ๆ!”
วิธีซ่อนปมแบบนี้เย่อวี๋หรานค่อนข้างชำนาญทีเดียว สมัยที่เรียนอยู่ เงินในกระเป๋าไม่ได้หนาขนาดนั้น วัสดุเหล่านั้นดูแล้วไม่ได้แพงอะไรมาก แต่ถ้าถลำลึกแล้วก็จะพบว่าใช้เงินไปกับงานอดิเรกนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เย่อวี๋หรานไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น จึงต้องคิดหาวิธีประหยัดเงิน ดังนั้นการถักซ่อนปมจึงกลายเป็นหนึ่งในทักษะที่นางถนัดที่สุด
เพื่อนร่วมห้องที่ไม่ใคร่เข้าใจก็มักจะมาขอคำแนะนำจากนาง
แถบผ้าถักได้ง่ายกว่าเชือกที่ใช้ถักโดยเฉพาะเสียอีก เพราะมันค่อนข้างหนา เวลาถักจึงทำให้เกิดช่องที่กว้างกว่า และยังทำให้ถักได้เร็วขึ้นอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ จูปาเม่ยจึงสามารถถักสร้อยข้อมือสองสีที่สวยงามออกมาได้เส้นหนึ่งภายใต้การชี้แนะของเย่อวี๋หราน
ในเรือนมีเข็มสำหรับปะชุนเสื้อผ้า เย่อวี๋หรานไปเอามาช่วยเก็บปมทั้งสองด้าน แล้วทำเป็นพู่ที่งดงามอันหนึ่ง ก่อนจะคล้องใส่บนข้อมือของจูปาเม่ย
จูปาเม่ยตื่นเต้นยินดี ร้องว่า “งามจริงเจ้าค่ะ!”
สวยกว่ากำไลที่นางใช้แถบผ้าพันไว้ก่อนหน้านี้มากจริง ๆ
“งามใช่หรือไม่? เด็กผู้หญิงชอบสิ่งสวยงามไม่ผิด แต่จำไว้ว่าต้องหยิบแต่สิ่งที่เป็นของตัวเองเท่านั้น” เย่อวี๋หรานเอ่ยเหมือนไม่ใส่ใจ แล้วหยิบแถบผ้าหลายอันขึ้นมาใหม่ ตัดให้เป็นแถบบางกว่าเดิม “เจ้าจำประโยคนี้ไว้ให้ดี ‘รับของจากคนอื่นมือต้องสั้น กินของคนอื่นปากต้องหวาน’ เมื่อเจ้าได้รับสิ่งของจากคนอื่น ดูเหมือนว่าได้เปรียบและเป็นฝ่ายโชคดี แต่ความจริงก็คือจุดอ่อนของเจ้าถูกคนอื่นกุมเอาไว้แล้ว คนอื่นสามารถทำอะไรกับเจ้าก็ได้ตามที่ต้องการ”
“ท่านแม่ อยู่ดี ๆ ทำไมท่านถึงพูดแบบนี้ล่ะเจ้าคะ?” จูปาเม่ยร้อนรน หัวใจเต้นดังโครมคราม
“ที่เพิ่งสอนเจ้าไปคือสร้อยข้อมือสองสีแบบเรียบง่ายที่สุด ตอนนี้ข้าจะสอนสร้อยข้อมือปมอสรพิษ[1] ให้เจ้า อันนี้จะยุ่งยากหน่อย ต้องใช้แถบผ้าสองเส้น เจ้าช่วยข้าจับที” เย่อวี๋หรานไม่ได้ตอบคำถามของจูปาเม่ย แต่ส่งแถบผ้าที่ตัดแล้วให้นาง และพูดต่อ “ให้เส้นหนึ่งอยู่บน เอาเส้นล่างพันล้อมเส้นบน หนีบวงค้างไว้ จากนั้นเอาเส้นบนพันรอบเส้นล่าง ขณะเดียวกันก็เอาปลายของเส้นบนสอดผ่านวงของเส้นล่างที่พันไว้ตอนแรกออกมา แล้วดึงแบบนี้…นี่ก็คือปมอสรพิษ ต่อไปทำซ้ำแบบนี้ก็พอแล้ว จะใช้สีเดียวกันหรือใช้สองสีที่ต่างกันก็ได้ แต่เพราะข้าอยากได้สัมผัสแบบที่เป็นปม ๆ ตอนที่เริ่มทำจึงแบ่งแถบผ้าสองอันออกเป็นสี่เส้น…”
จูปาเม่ยมองปมอสรพิษที่สวยงามนั้นแล้วก็ชมเชยว่า “สวยจริง ๆ!”
เย่อวี๋หรานยิ้มกล่าว “เจ้าถักแบบนี้ต่อไปจนกลายเป็นสร้อยข้อมือเลยก็ได้ แต่ข้าคิดว่าแบบนั้นเรียบง่ายเกินไป อยากจะถักอีกแบบ ถึงได้ทำไปแค่ครึ่งเดียว”
นางนำมาเทียบกับข้อมือของจูปาเม่ย ถักไปได้ครึ่งเดียวก็หยุดลง จากนั้นก็หาแถบผ้าที่หนาหน่อยมาอีกเส้น เริ่มใช้แถบผ้าที่บางกว่าพันไปบนแถบผ้าเส้นหนา
แถบผ้าที่ใช้ถักปมอสรพิษก่อนหน้านี้เป็นสีน้ำเงินกับสีชมพู ดูสวยงามยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้ตอนที่นางพันแถบผ้าอันใหม่ นอกจากจะใช้สีเหลืองที่แตกต่างกันแล้ว ตรงจุดที่เอามาเชื่อมกันยังใช้แถบผ้าสีน้ำเงิน สีชมพู และสีเขียวมาพันเข้าไป
นางนำมาเทียบกับข้อมือของจูปาเม่ยอีกครั้ง ครั้นความยาวได้ประมาณครึ่งหนึ่ง เย่อวี๋หรานก็หยุดมือ เอาเข็มกับด้ายมาต่อแถบผ้าถักก่อนหน้านี้กับอันที่เพิ่งทำเสร็จเข้าด้วยกัน
จูปาเม่ยเบิกตากว้าง นางไม่อยากจะเชื่อเลย “นี่จะสวยเกินไปแล้ว?!”
เทียบกับสร้อยข้อมือสองสีก่อนหน้านี้ สร้อยข้อมือปมอสรพิษและแบบที่ใช้แถบผ้าพันนี้ย่อมสวยกว่า ประณีตงดงามเหมือนสินค้าที่วางขายในร้านอย่างไรอย่างนั้น
ไม่ใช่ ก่อนหน้านี้ตอนที่นางไปเดินตลาดกับท่านแม่ก็ยังไม่เคยเห็นสิ่งที่งดงามเท่านี้มาก่อน
เมื่อเย่อวี๋หรานทำเสร็จแล้วยังผูกเป็นเงื่อนกระดุมไว้ด้วย (การร้อยลูกปัดเข้าไปตรงปลายเชือกที่เหลืออยู่เพื่อทำเป็นกระดุม ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งม้วนเป็นรังดุม จะได้คล้องกันไว้ได้) แล้วสวมใส่บนข้อมือของจูปาเม่ย
“ก่อนนี้ข้าบอกเจ้าแล้วว่าถักแถบผ้าแบบนี้ถ้าเลือกสีได้ดี และฝีมือดี ผลลัพธ์ที่ทำออกมาได้ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก ข้าไม่ได้โกหกเจ้ากระมัง?”
จูปาเม่ยผงกศีรษะแรง ๆ นางคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเครื่องประดับที่ปราศจากอัญมณี ใช้แค่เศษผ้าเล็กน้อยก็สามารถประดิดประดอยออกมาได้หลากหลายปานนี้ แทบอยากเอาออกไปอวดต่อหน้าเด็กสาวในหมู่บ้านเสียเดี๋ยวนั้นว่า พวกเจ้ามีสร้อยข้อมือที่งามปานนี้หรือไม่?
ฮึ! อันนี้ท่านแม่ทำให้ข้าโดยเฉพาะเชียวนะ!
ผู้ใดว่าท่านแม่ของข้าไม่ดี แล้วแม่ของพวกเจ้าทำเป็นไหม?
ท่านแม่ของข้าดีต่อข้ายิ่งนัก
เย่อวี๋หรานเห็นว่างานฝีมือกินเวลาไปมาก จะนอนตอนนี้ก็ดูจะสายเกินไป อีกทั้งยังกระปรี้กระเปร่าดีอยู่จึงไม่คิดจะนอนแล้ว
นางหยิบแถบผ้าที่ค่อนข้างกว้างแต่สีสันใกล้เคียงกันขึ้นมาตัดอีกครั้ง
“ท่านแม่ ท่านยังจะถักอีกหรือเจ้าคะ?” คราวนี้จูปาเม่ยไม่ลังเลสักนิด ตั้งตารอคอยชื่นชมผลงานของมารดา
ถ้ารู้แต่แรกว่าท่านแม่ของนางถักร้อยได้งดงามปานนี้ นางยังจะต้องวิ่งไปเรียนข้างนอกอีกทำไม คงจะมาเรียนกับท่านแม่ตั้งนานแล้ว
เย็บผ้านับเป็นอะไร? เย็บอยู่ครึ่งค่อนเดือนก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์
การถักเชือกของท่านแม่นี่แหละถึงจะร้ายกาจที่สุด
[1] สร้อยข้อมือปมอสรพิษแบบมีรังดุม (สีแดง) และสร้อยข้อมือแบบพันเชือกหลากสี (ในบทนี้นางเอกนำสองแบบมาผสมผสานกัน)
ที่มาของรูปภาพ
สร้อยข้อมือปมอสรพิษ : https://www.sohu.com/a/278421704_656669
สร้อยข้อมือแบบพันเชือก : https://www.36840.com/shouliantujie/10582.html
MANGA DISCUSSION