บทที่ 33 ต้าเป่าเป็นเด็กน้อยที่ฉลาดเป็นกรด
จูปาเม่ยไม่โต้แย้งกับมารดาอีก ได้แต่หอบเสื้อผ้าออกไปจากห้อง สักพักก็กลับเข้ามายกอ่างน้ำออกไป
ระหว่างที่เย่อวี๋หรานพูดกับจูปาเม่ย ต้าเป่าก็ยืนอยู่ตรงนั้นวางตัวเหมือน ‘กำแพงประกอบฉาก’ เต็มที่ แต่ที่จริงแล้วกางหูผึ่งแอบฟังมาตลอด คอยลอบสังเกตสถานการณ์ฝ่ายตรงข้าม
เย่อวี๋หรานทางหนึ่งพูดจากับจูปาเม่ย ทางหนึ่งแบ่งสมาธิมาที่ต้าเป่า สังเกตเจ้าเด็กน้อยที่ฉลาดเป็นกรดคนนี้
เนื่องจากเด็กคนนี้อายุยังน้อย เขากำลังคิดสิ่งใดอยู่ จะมากน้อยก็ยังแสดงออกมาให้เห็นทางสีหน้า
ดังนั้น เมื่อนางเห็นเขาทำท่าว่าง่ายรู้ความเสียเต็มประดา แต่ดวงตากลับกลอกไปมาอย่างเจ้าเล่ห์ ก็ทราบว่าเจ้าเด็กนี่กำลังฟังพวกนางคุยกันอยู่
“ข้ามีภารกิจอย่างหนึ่งจะมอบหมายให้เจ้า”
“ภารกิจอะไรหรือขอรับ?”
เย่อวี๋หรานแสร้งทำทีเคร่งขรึมจริงจัง แล้วกล่าวว่า “เนื่องจากพฤติกรรมของเจ้าในช่วงนี้ ข้าตัดสินใจว่าจะทดสอบเจ้าสักหน่อย ถ้าเจ้าสามารถผ่านการทดสอบของข้าได้ก็จะไม่ลงโทษเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่ผ่านละก็…”
“ไม่หรอกท่านย่า ข้าจะต้องผ่านแน่ขอรับ” ต้าเป่ารีบยืดอกเล็ก ๆ ขึ้นมาทันที
รู้ว่านางชอบเด็กน้อยยืนตัวตรงพูดจาไวปานนี้ เย่อวี๋หรานคาดว่าเด็กคนนี้มีอนาคตสั่งสอนได้
สีหน้านางไม่เปลี่ยนแปลง พลางพูดว่า “เจ้าฟังให้ดี ข้าจะสอนเจ้าแค่สามรอบ พรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาข้าจะทดสอบเจ้าว่าจำได้หรือไม่”
“สอนแค่สามรอบหรือ..” ต้าเป่ากลอกตาครุ่นคิด “ตกลง”
“เจ้าฟังให้ดี” เย่อวี๋หรานท่องด้วยท่าทางเยือกเย็น “หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง”
ต้าเป่า “หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง”
“หนึ่งบวกสองเท่ากับสาม”
“หนึ่งบวกสองเท่ากับสาม”
“หนึ่งบวกสามเท่ากับสี่”
“หนึ่งบวกสามเท่ากับสี่”
……
“ดังนั้นถ้าเอามารวมกันก็จะได้ว่า หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง หนึ่งบวกสองเท่ากับสาม หนึ่งบวกสามเท่ากับสี่ หนึ่งบวกสี่เท่ากับห้า หนึ่งบวกห้าเท่ากับหก หนึ่งบวกหกเท่ากับเจ็ด หนึ่งบวกเจ็ดเท่ากับแปด หนึ่งบวกแปดเท่ากับเก้า หนึ่งบวกเก้าเท่ากับสิบ…” เย่อวี๋หรานพูด “เอาล่ะ สอนเจ้าครบสามรอบแล้ว กลับไปนอนเถอะ พรุ่งค่อยมาทดสอบเจ้า”
“ท่านย่า คืนนี้ให้ข้านอนกับอาเจ็ดเถอะนะขอรับ ข้ารับหน้าที่ดูแลอาเจ็ดเอง” ต้าเป่าได้ยินอย่างนั้นก็รีบพูดขึ้นมา
“เจ้าจะนอนที่นี่? เจ้าไปพูดกับอาเจ็ดและท่านแม่ของเจ้าเองเถอะ ถ้าพวกเขาตกลงก็ตามนั้น” เย่อวี๋หรานคิดไม่ถึงว่าต้าเป่าจะติดอาเจ็ดของเขาขนาดนี้
อย่างไรก็ได้ทั้งนั้น เด็ก ๆ จะชอบความคึกครื้นบ้างก็ไม่แปลก
“ขอรับ อาเจ็ดต้องตกลงอย่างแน่นอน” ต้าเป่าวิ่งปร๋อเข้าไปในห้อง
ไม่รู้ว่าพวกเขาอาหลานคุยอะไรกัน ได้ยินแต่เสียงซุบซิบคิกคักอย่างเลือนราง ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่
แต่ฟังจากเสียงหัวเราะของต้าเป่าที่ดังขึ้นเป็นระยะก็ทราบว่าพวกเขาสองคนคุยกันอย่างมีความสุขทีเดียว
เย่อวี๋หรานส่ายหน้า เด็กนั้นบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่เหมือนพวกผู้ใหญ่ที่รังเกียจว่าจูชีเป็นคนสมองทึ่ม ไม่รู้ว่าพอเขาโตขึ้นแล้วยังจะจำความผูกพันระหว่างตนเองกับอาเจ็ดได้ไหม?
“ท่านย่า ข้าไปคุยกับท่านแม่ก่อนนะขอรับ” สักพักต้าเป่าก็ออกมาแล้ว
“ไปเถอะ”
ครั้นได้ยินเสียงตอบรับจากเย่อวี๋หราน ต้าเป่าก็รีบวิ่งออกไปพูดกับมารดาของเขา
หลิ่วซื่อกลัวว่าแม่สามีจะไม่ชอบเขา ไม่ยอมตกลง แต่พอได้ยินว่าแม่สามีตกลงแล้ว นางก็ไม่สะดวกจะพูดอะไรอีก
“อยู่ในห้องท่านย่า อย่าดื้ออย่าซน อย่าทำให้ท่านย่าโกรธ” หลิ่วซื่อไม่ลืมกำชับไปอีกประโยค
“เข้าใจแล้วขอรับ ท่านแม่” ต้าเป่ารับคำ
เอ้อร์เป่าได้ยินก็รีบลุกขึ้นมา “ข้าไปด้วย ข้าก็จะนอนกับอาเจ็ด”
“ไม่ได้ เตียงอาเจ็ดของเจ้าเล็กขนาดนั้น เจ้าจะนอนอย่างไร?” หลิ่วซื่อปฏิเสธทันที
“แต่ว่าพี่ใหญ่ไปได้นี่นา? ทำไมข้าถึงไปไม่ได้ล่ะ?” เอ้อร์เป่าน้ำตาหยดแหมะ ๆ มองหลิ่วซื่อตาละห้อย
หลิ่วซื่อใจอ่อนยวบ หากแต่ก็จนปัญญา “ย่าเจ้าไม่ตกลงหรอก”
เอ้อร์เป่าพูดขึ้นทันที “ข้าจะพูดกับท่านย่าเอง”
จากนั้นก็ลงจากเตียง ดึงมือต้าเป่าและพูดว่าจะไปห้องข้าง ๆ
หลิ่วซื่อได้แต่ครุ่นคิด เด็กดื้อสองคนนี้ น่าโมโหยิ่งนัก!
เย่อวี๋หรานอย่างไรก็คาดไม่ถึงว่าเอ้อร์เป่าจะกลับมาด้วย
“พูดกับอาเจ็ดของพวกเจ้าเอาเอง”
เย่อวี๋หรานย่อมทราบว่าเตียงในห้องนั้นมีขนาดเท่าไหร่ นางตัดสินใจไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องระหว่างอากับหลาน ๆ
เตียงจะใหญ่หรือเล็กก็ให้พวกเขาแก้ไขกันเอง
ถ้าพวกเขาไม่รังเกียจว่าเตียงเล็ก และเต็มใจจะนอนเบียดกัน นางจะต้องเป็นคนเลวไปขัดขวางพวกเขาทำไม?
นอกจากนี้ จูชีได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะไม่ใช่ร่างกาย ไม่มีความจำเป็นต้องระวังไม่ไปกระทบบาดแผลบนร่างกาย จึงไม่จำเป็นต้องวิตกมากขนาดนั้น
เมื่อจูปาเม่ยจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย กลับเข้ามาก็ได้ยินเสียงเด็กทั้งสองดังออกมาจากห้องด้านใน
“ท่านแม่ ทำไมเอ้อร์เป่าก็มาด้วยล่ะ? ดึกขนาดนี้แล้ว พวกเขายังไม่กลับไปนอนที่ห้องอีก?”
เย่อวี๋หรานกำลังปูที่นอน พูดว่า “คืนนี้พวกเขาสองคนจะนอนที่นี่”
“ไม่กระมัง?!” จูปาเม่ยร้องอย่างประหลาดใจ “ท่านแม่ เตียงข้าเล็กขนาดนั้น พวกเขาสามคนจะนอนกันได้อย่างไร?”
“เจ้าจะสนใจทำไม?” เย่อวี๋หรานมองนางปราดหนึ่ง “พวกเขาเต็มใจเอง เจ้าจะเป็นคนเลวไปทำไม? ปลดม่านห้องด้านในลงแล้วนอนเถอะ”
จูปาเม่ยโมโหจนหน้าบึ้ง เห็นว่ามารดาของนางไม่สนใจ นางทนดูไม่ได้จึงเข้าไปต่อว่าสักหน่อย
แต่ที่น่าเสียดายก็คือต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าน่ะหรือจะกลัวนาง เมื่อก่อนเป็นเพราะปกติแล้วเจ้าของร่างเดิมจะอยู่ฝ่ายจูปาเม่ย คราวนี้พวกเขาสองคนได้รับอนุญาตจากท่านย่าแล้วยังจะกลัวจูปาเม่ยอีกหรือ?
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้
จูปาเม่ยทะเลาะกับพวกเขาไปยกหนึ่ง สุดท้ายยังไม่มีใครยอมใคร
ตอนจูปาเม่ยปัดผ้าม่านเดินออกมายังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ท่านแม่ ท่านดูพวกเขาสิ พวกเขาเสียงดังกันขนาดนี้ พวกเราจะนอนได้อย่างไร?”
เย่อวี๋หรานไม่สนใจนาง ปูเตียงเสร็จก็ถอดชุดคลุมชั้นนอกออก ปีนขึ้นไปบนเตียง
“จะนอนหรือไม่นอน?”
“นอนเจ้าค่ะ!” จูปาเม่ยจะกล้าพูดว่าไม่นอนหรือ? รีบปีนขึ้นเตียงทันที
เย่อวี๋หรานเห็นนางนอนลงแล้วก็กระแอมเบา ๆ “อะแฮ่ม! นอนได้แล้ว”
ห้องด้านในเงียบลงทันที
ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าแตะนิ้วชี้บนริมฝีปาก “ชู่…”
จูชีก็เลียนแบบท่าทางของพวกเขา “ชู่…”
“นอนได้แล้ว ไม่คุยกัน” ต้าเป่าพาเอ้อร์เป่าไปนอนอีกฝั่งหนึ่ง
พวกเขายึดครองพื้นที่ข้างขาของจูชีคนละฝั่ง นอนเบียดกันบนเตียงเล็ก ๆ นั้น
เตียงเล็กเกินไปอยู่บ้าง คนตัวโตหนึ่งคนกับเด็กสองคนนอนด้วยกันดูแออัดยิ่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะนอนไม่ได้เลย ทว่าไม่เหลือพื้นที่ให้พลิกตัวได้ก็เท่านั้น
เอ้อร์เป่านอนหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ต้าเป่ากลับยังไม่ค่อยง่วง ปากขมุบขมิบพึมพำว่า “หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง หนึ่งบวกสองเท่ากับสาม หนึ่งบวกสามเท่ากับสี่ หนึ่งบวกสี่เท่ากับห้า หนึ่งบวกห้าเท่ากับหก หนึ่งบวกหกเท่ากับเจ็ด หนึ่งบวกเจ็ดเท่ากับแปด หนึ่งบวกแปดเท่ากับเก้า หนึ่งบวกเก้าเท่ากับสิบ…”
เขายังไม่คุ้นเคยเลขเหล่านี้อยู่บ้าง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันหมายถึงอะไร แต่เขาสัมผัสได้ว่า ‘คาถา’ ที่ท่านย่าสอนเขาคล้ายจะแฝงกฎเกณฑ์บางอย่างเอาไว้
ประโยคสั้น ๆ จุดที่ซ้ำกันมีอยู่มาก มีแค่บางจุดที่เปลี่ยนแปลงไป
บางครั้งจำไม่ค่อยได้ เขาก็กางนิ้วออก ครั้นยังไม่แน่ใจก็ลุกขึ้นมานั่งผลักปลุกจูชี และพูดเสียงเบา “อาเจ็ด ข้าจำไม่ได้แล้ว หนึ่งบวกเจ็ดเท่ากับเท่าไหร่นะ?”
จูชีพูดอย่างสะลึมสะลือ “หนึ่งบวกเจ็ดเท่ากับแปด”
“ข้ารู้แล้ว อาเจ็ด ท่านนอนต่อเถอะ”
จูชีล้มตัวนอนลงอีกครั้ง ต้าเป่าก็ล้มตัวลงไปตามไป และท่องเสียงเบา “หนึ่งบวกเจ็ดเท่ากับแปด”
MANGA DISCUSSION