บทที่ 24 เย็นชาห่างเหิน
“หุบปาก!” เย่อวี๋หรานตวาดนางเบา ๆ แล้วเดินออกไป
คนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว จึงโผล่ออกมาดูด้วยความสนใจ
ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าวิ่งเข้ามาจากหน้าประตูใหญ่ เมื่อเห็นเย่อวี๋หรานก็ร้องห่มร้องไห้เข้ามากอดขานาง “ท่านย่า อาเล็ก…อาเล็กถูกคนตีตายแล้ว!”
คนหนึ่งร้องไห้เสียงอู้อี้ คนหนึ่งร้องไห้จนตัวโยน ทั้งยังตัวคลุกฝุ่น สภาพน่าเวทนายิ่งนัก ทำให้คนเห็นแล้วยิ่งปวดใจ
เย่อวี๋หรานรีบปลอบโยนพวกเขา พลางถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เอ้อร์เป่ายังเล็กพูดได้ไม่ค่อยชัด ส่วนต้าเป่าก็เล่าอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ แต่สรุปใจความได้ว่า จูชีถูกพ่อของจูโก่วหวาตีจนตายแล้ว
“เมียเจ้าใหญ่ เจ้าดูแลเด็กอยู่ในเรือน เมียเจ้าสี่ ในท้องเจ้ามีทารกอยู่ก็ไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องนี้แล้วไปที่เชิงเขาดูว่าพวกผู้ชายกลับมากันหรือยัง บอกให้พวกเขารีบมา เมียเจ้ารอง เมียเจ้าห้า และจูปาเม่ย ทุกคนถืออาวุธตามข้าออกไปข้างนอก” เย่อวี๋หรานพูดจบก็เข้าไปคว้ามีดหั่นผักจากในห้องครัว
ยามนั้นหลี่ซื่อไม่พูดอะไรมาก รีบขานรับ “เจ้าค่ะ” คำหนึ่ง แล้วก็พุ่งไปทางเชิงเขาไท่ตังอย่างรวดเร็ว
หลิวซื่อหวาดกลัวอยู่บ้าง และไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปดี สุดท้ายคว้าได้ไม้หาบมาอันหนึ่ง หลินซื่อกลับฉลาดหน่อย แบกจอบหัวเหล็กออกไป จูปาเม่ยแรงน้อย ยกจอบไม่ไหว ลังเลอยู่เล็กน้อยจากนั้นก็เอาอย่างมารดาเข้าไปหยิบมีดทำครัวออกมา
เย่อวี๋หรานพาคนมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุด้วยท่าทางพร้อมเอาเรื่อง
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น จูถงฮว่าถูกลูกชายทำให้ตกอกตกใจแทบตาย เขาเชื่อจริง ๆ ว่าด้วยสภาพเลือดอาบของลูกชายนั้นจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วแน่ ๆ
ตอนแรกนึกว่าตายแล้ว แต่ต่อมาค่อยพบว่ายังมีลมหายใจอยู่ ก็รีบอุ้มไปหาหมอชาวบ้านในหมู่บ้าน
สุดท้ายหมอชาวบ้านดูอาการแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไรมาก แค่จมูกกระแทกพื้น เลือดไหลเล็กน้อย ทาขี้เถ้าสักหน่อยก็หายแล้ว”
จูถงฮว่าตะลึงงัน “ไม่เป็นไรจริงรึ ๆ?!”
“ไม่เป็นไรจริง ๆ!” หมอชาวบ้านมองเขาอย่างประหลาดใจ “เจ้าอยากให้ลูกชายเป็นอะไรอย่างนั้นเรอะ?”
“แย่แล้ว!” มือของจูถงฮว่าสั่นระริก “ข้าเพิ่งจะตีคนตาย”
หมอชาวบ้านชะงัก “อะไรนะ?! เจ้าตีคนตาย?!”
“เมื่อครู่ข้าได้ยินว่ามีคนตีลูกข้าตาย ตอนเข้าไปดูก็เห็นว่าเจ้าเด็กทึ่มสกุลจูกำลังตีลูกชายข้าอยู่ อารามโมโห ข้าเลยใช้ไม้หาบฟาดหัวเขาไป แล้วเขาก็ล้มลง…”
หมอชาวบ้านสูดหายใจหนาวเหน็บ “ที่เจ้าพูดถึงคงไม่ใช่ลูกชายคนเล็กของจูเหล่าโถว เจ้าเด็กสมองทึ่มคนนั้นหรอกกระมัง?”
จูถงฮว่าพยักหน้า
“เจ้ามีเรื่องกับใครไม่ว่า ดันไปมีเรื่องกับหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์ของจูเหล่าโถว?! เจ้ารีบไปเถอะ รีบพาลูกชายไปจากที่นี่ ถ้าหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์นั่นรู้ว่าเจ้าอยู่ที่เรือนข้าจะต้องมาอาละวาดถึงที่แน่ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เจ้าตีลูกชายคนเล็กของผู้อื่นตาย…”
ครั้นคิดถึงภรรยาของจูเหล่าโถว หมอชาวบ้านก็หนังหัวชาวาบ นั่นเป็นสตรีดุร้ายที่ไม่สนใจเหตุผล ขาใหญ่ประจำหมู่บ้านเชียวนะ
ใครไปหาเรื่องนางจะต้องไม่มีวันเวลาดี ๆ อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น นางยังมีลูกชายเยอะแยะ หากดาหน้าเข้ามาพร้อมกัน ไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องยอมแพ้
จูโก่วหวาถูกหมอชาวบ้านยัดใส่อ้อมอกของจูถงฮว่า และสั่งให้เขารีบอุ้มจากไป
จูถงฮว่ากระวีกระวาดจากไป เพราะเขาได้ยินมาจากไกล ๆ ว่า “พ่อโก่วหวา เมียจูเหล่าโถวมาแล้ว!”
ยามอยู่ลับหลัง ทุกคนมักเรียกภรรยาของจูเหล่าโถวว่า ‘หญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์’ ‘แม่เสือเฒ่า’ หรือ ‘หญิงวิปลาส’ ใช้ฉายาชั่วร้ายเท่าที่จะคิดได้มาจำกัดความ แต่ถึงเวลาต้องเรียกจริง ๆ กลับไม่มีใครกล้าเรียกต่อหน้านาง จึงมักเรียกนางว่า ‘เมียของจูเหล่าโถว’ หรือไม่ก็ ‘จูต้าเหนียง’
เวลานั้น หมอชาวบ้านดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ก็รีบตามออกมา “พ่อโก่วหวา เจ้าแน่ใจนะว่าตีเจ้าเด็กทึ่มสกุลจูตายแล้วจริง ๆ? ไม้หาบแบบนั้นตีไปทีเดียวก็ไม่แน่ว่าจะตาย”
“ข้าไม่รู้…” จูถงฮว่าอยากจะร้องไห้ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาไปยืนยันแล้ว แค่ได้ยินคนพูดว่าหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์มาแล้ว พลันรีบร้อนกอดลูกชายหันหัวกลับไป เร่งพาลูกชายกลับไปส่งที่เรือน
ภรรยาของเขาอยู่ที่เรือนพอดี เขาส่งจูโก่วหวาให้นาง ร้องไห้น้ำมูกน้ำตานองหน้า “เมียเอ๋ย โก่วหวามอบให้เจ้าแล้ว นี่เป็นเมล็ดพันธุ์สกุลจูของข้าเชียวนะ”
ภรรยาของเขางุนงง “เจ้ามีอะไร? ร้องไห้ทำไม?”
“ฮือ ๆๆๆ…ข้าตีลูกชายสมองทึ่มบ้านจูเหล่าโถวตายแล้ว นางจะต้องตามมาเอาชีวิตข้าแน่ อีกหน่อยเจ้าอุ้มโก่วหวาไปซ่อนอยู่ในห้องให้ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าออกมา”
“อะไรนะ?!” ภรรยาของเขาขึ้นเสียง ตกใจจนมือสั่น “เจ้า…เจ้าไปหาเรื่องหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนั้นทำไม? เจ้าเด็กทึ่มนั่นไม่ได้มากวนเจ้าสักหน่อย เจ้าไปตีเขาตายทำไม? เจ้าเสียสติไปแล้วรึ เจ้าไปฆ่าเขา คิดจะทำร้ายพวกเราทั้งครอบครัวหรือ?”
“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าเห็นเจ้าเด็กทึ่มนั่นกำลังตีลูกของเรา ข้าก็เลย…”
อีกด้านหนึ่ง ภายใต้ความช่วยเหลือของคนทั้งหลาย เย่อวี๋หรานก็ตามหาจูชีที่นอนแผ่หราอยู่บนพื้นเจออย่างรวดเร็ว
ท่าทางภายนอกดูเหมือนไม่สะทกสะท้าน แต่ความจริงแล้วตอนที่เย่อวี๋หรานเห็นเขา จิตใจก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง แต่พยายามสงบนิ่งเข้าไว้ ยื่นมือเข้าไปทดสอบลมหายใจของจูชี
ครั้นสัมผัสได้ถึงความอุ่นตรงปลายนิ้ว นางก็พรูลมหายใจออกมา ตกอกตกใจหมด นางนึกว่าตายไปแล้วจริง ๆ!
แม้เย่อวี๋หรานจะคิดว่านางฝืนทำเป็นเข้มแข็ง แต่หากคนภายนอกมองเข้ามา จะพบว่าบนหน้านางไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย ราวกับบิดาตายอย่างไรอย่างนั้น ท่าทางดุร้ายหมายชีวิต
ด้วยเหตุนี้ คนทั้งหลายจึงคิดว่าจูถงฮว่าคงต้องจบสิ้นแล้ว เรื่องนี้เกรงว่าไม่อาจมีจุดจบที่ดี
แม้ว่าเจ้าเด็กทึ่มสกุลจูจะเป็นคนโง่งม แต่ก็เป็นลูกชายของหญิงเฒ่าเจ้าเล่ห์ นางไม่มีทางละเว้นครอบครัวของจูถงฮว่าแน่นอน
หลิวซื่อ หลินซื่อ และจูปาเม่ยต่างหันมองนางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กลัวว่านางยังไม่ทันจับตัวการได้ก็จะระเบิดขึ้นมาเสียก่อน เดือดร้อนถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้อง
“ขอคนหนุ่มแข็งแรงสองคนมาช่วยหามคนหน่อย” เย่อวี๋หรานเงยหน้าขึ้น พบว่าสายตารอบด้านกำลังมองมาที่ตนด้วยความหวาดหวั่นก็พอจะเดาออก “คนยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ พวกเจ้ามาช่วยหามคนออกไปหาหมอชาวบ้านให้หน่อย ดูว่าท่านหมอจะว่าอย่างไร”
คนหนุ่มสองคนก้าวออกมา ก้มหน้าทักทายนาง “ท่านป้า”
เย่อวี๋หรานควานหาจากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมจึงทราบว่าที่แท้พวกเขาสองคนก็คือลูกชายของน้องชายจูเหล่าโถว คนหนึ่งคือ จูอู่จ้วง ลูกชายคนที่สามของน้องสามจูฮ่าวซาน ส่วนอีกคนคือ จูซื่อหู่ ลูกชายคนที่สองของน้องสี่จูฮ่าวซื่อ
ชื่อเหล่านี้ต่างจากชื่อลูกชายของเจ้าของร่างเดิม จูต้าชื่อจริงเรียกว่าจูซุ่นไฉ จูเอ้อร์ชื่อจริงจูซุ่นเหวย จูซานชื่อจริงจูซุ่นโหย่ว จูซื่อชื่อจริงจูซุ่นกวง จูอู่ชื่อจริงจูซุ่นจิ่ง จูชีชื่อจริงจูซุ่นเต๋อ แค่ดูก็ทราบว่าเจ้าของร่างเดิมที่เคยเป็นสาวใช้บ้านสกุลใหญ่ ทั้งยังเคยเรียนหนังสือมาก่อนนั้นเป็นคนตั้งชื่อ มันเต็มไปกลิ่นอายของผู้มีการศึกษา สุภาพ และสง่างาม (ความรู้ของเจ้าของร่างเดิมมีจำกัด ก็ได้เท่านี้แล้ว)
แม้แต่ชื่อจริงของจูเหล่าโถวก็มาเปลี่ยนทีหลัง เดิมทีเขาชื่อจูฮ่าวต้า เจ้าของร่างเดิมรังเกียจว่าไม่ไพเราะจึงเปลี่ยนเป็นจูฮ่าวชี่
เรื่องเกี่ยวกับการตั้งชื่อยังมีอีกเรื่องหนึ่งคือ หลังจากที่น้องชายสองคนของจูเหล่าโถวแต่งงานแล้ว ก็มาขอให้เจ้าของร่างเดิมที่เป็นพี่สะใภ้ช่วยตั้งชื่อที่น่าฟังให้สักหน่อย แต่ที่น่าเสียดายก็คือ เจ้าของร่างเดิมดูถูกคนจน จึงตีหน้าเย็นชาปฏิเสธทันที
หลังจากนั้น น้องเขยทั้งสองก็ผูกใจเจ็บเจ้าของร่างเดิม ความสัมพันธ์กับเจ้าของร่างเดิมก็ยิ่งเย็นชาห่างเหิน เลวร้ายมากกว่าเดิม
MANGA DISCUSSION