บทที่ 16 ข้าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่านนะ?!
และแล้วก็เป็นดังคาด หลังจากมีพวกผู้ชายมาช่วย งานเหล่านี้ก็รวดเร็วกว่าเย่อวี๋หรานกับหลี่ซื่อสองคนไม่รู้กี่เท่า
ตะกร้าสะพายหลังหลายใบที่พวกเขาเอามาใส่มันเทศไว้จนเต็มแล้ว ก็ยังเหลือมันเทศอยู่อีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่มีที่ใส่
จากนั้นเย่อวี๋หรานก็สั่งการให้พวกเขาขุดต้นกล้ามาผูกกับฟืนแห้งเอาไว้ตรงกลาง ซึ่งพอจะใช้กลบเกลื่อนไปได้
หลังจากนั้นก็มีชาวบ้านคนอื่น ๆ เริ่มเข้ามาหาของในภูเขาแห่งนี้ พวกเขาที่เข้ามาขุดมันเทศจึงต้องพยายามปิดบัง
จูต้ากับจูเอ้อร์รับหน้าที่เป็นคนหาฟืนมาจากด้านหลังภูเขา
ในขณะที่หลิวซื่อกับหลี่ซื่อ คนหนึ่งแบกตะกร้า อีกคนถือตะกร้า ทำทีเป็นว่าเพิ่งกลับจากการไปหาผักป่าบนเขา และลงเขามาพร้อมกัน
จูเหล่าโถวพาจูซานและจูซื่อแบกตะกร้า รวมถึงเครื่องมือทำงาน แสร้งทำเป็นเดินไปรอบ ๆ เหมือนกับว่าพวกเขาเพิ่งเดินกลับมาจากทางนั้น
ส่วนจูอู่กับเย่อวี๋หรานเฝ้าอยู่บนเขา รอจนคนที่จะรับช่วงต่อไปมาถึง จึงค่อยพากันแบกตะกร้าคนละใบลงจากเขาไป
มันเทศนึ่งสุกแล้วจะหอมเพียงไหนน่ะหรือ?
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากใต้ฝาหม้อหลังจากที่มันเทศในหม้อนึ่งสุกแล้ว
กลิ่นหอมนั้นสุดยอดจริง ๆ !
“โครกคราก…” ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่ายืนตาแป๋วอยู่หน้าเตา จ้องไอร้อนที่พุ่งออกมาจากหม้อใบใหญ่ และกลืนน้ำลายอึก ๆ
จูชีเองก็ยืนกลืนน้ำลายอยู่ตรงนั้นด้วย
หลิ่วซื่อเห็นแล้วก็ถอนหายใจ “ไม่ต้องดูแล้ว ย่าของพวกเจ้ายังไม่กลับมา”
ท้องของนางก็กำลังส่งเสียงโครกครากอยู่เช่นกัน แต่ทำอย่างไรได้ บางคนยังไม่กลับมา นางก็ไม่กล้าหยิบของจากในหม้อมาแจกจ่ายให้ทุกคนกิน
“ไม่ไป ข้าขอดมกลิ่นหน่อยนะขอรับ ข้าจะกินกลิ่นหอมพวกนี้ลงท้อง” ต้าเป่าสูดหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับว่าทำอย่างนี้แล้วจะสามารถหายใจเอากลิ่นหอมลงไปในท้อง ไม่ทำให้เสียของได้จริง ๆ
เอ้อร์เป่าทำตาม สูดหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าก็จะกินกลิ่นหอมลงท้องเหมือนกัน ข้าดมกลิ่น ดมกลิ่น ข้ากินกลิ่นลงท้องคำโต…”
จูชีเห็นพวกเขาสองคนทำแบบนั้นก็เอาด้วย สูดหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าก็เอาด้วย ข้าดมกลิ่น ดมกลิ่น…”
หลิ่วซื่อได้แต่อ่อนใจ
โชคดีที่ตอนนั้นได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวมาจากลานบ้าน
ผู้ที่กลับมาก็คือจูต้าและจูเอ้อร์ พวกเขาวางสิ่งของลงอย่างเร่งรีบ และพูดกับนางว่า “ท่านแม่บอกว่าให้เจ้าเอามันเทศที่นึ่งเสร็จแล้วขึ้นโต๊ะ แล้วค่อยทำน้ำแกงผักพวกนี้ รอจนท่านแม่กลับมาก็แบ่งอาหารกันกินได้”
“ท่านย่าจะกลับมาแล้วใช่ไหม?” ต้าเป่าถามอย่างดีอกดีใจ
“ดียิ่งนัก จะได้กินข้าวเสียที ข้าหิวจะตายแล้ว” เอ้อร์เป่าหัวเราะคิกคัก
“ดียิ่งนัก หิวจะตายแล้ว!” จูชีเลียนแบบท่าทางของเด็กทั้งสอง เขาหัวเราะคิกคัก
หลิ่วซื่อได้ยินจูต้ากับจูเอ้อร์พูดเช่นนั้นก็รู้สึกโล่งอก หากท่านแม่ไม่กลับมา นางก็ไม่รู้จริงๆ ว่าต้องทำอย่างไร ท่านแม่สั่งความแล้ว นางก็จัดการได้
นางรีบกลับไปที่ห้องครัว ทำงานมือไม้คล่องแคล่ว
ทันทีที่เปิดฝาหม้อ กลิ่นหอมของมันเทศนึ่งสุกก็พลันอบอวลไปทั่วจนทำให้นางน้ำลายสอ มันจะหอมเกินไปแล้ว!
ต้าเป่า เอ้อร์เป่า และจูชี ทั้งสามคนเดินตามอยู่ด้านหลังนางต้อย ๆ ราวกับหางน้อย ๆ
นางเอามันเทศใส่ลงในตะกร้า พวกเขาก็อยู่ข้างหลังแล้วพูดว่า “ข้าดมกลิ่น ๆๆ”
ครั้นเอาไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าว พวกเขาก็ยังอยู่ข้างหลังและยังคงพูดพึมพำออกมา “ข้ากินกลิ่น ๆๆ”
“ห้ามแอบกิน ถ้าท่านย่ารู้เข้าจะตีคน” หลิ่วซื่อกลัวว่าพวกเขาจะไม่รู้ความจึงกำชับไปหนึ่งประโยค
ต้าเป่าตบอกทันที “ท่านแม่วางใจได้ ข้าจะจับตามองพวกเขาอย่างดี”
เอ้อร์เป่าเองก็ตบอก “จับตามองพวกเขา! ข้า ข้าก็จะมอง”
“ข้าด้วย” จูชีกล่าว
แล้วก็เป็นดังคำกล่าวของจูต้ากับจูเอ้อร์ ตอนที่หลิ่วซื่อกำลังต้มน้ำแกงผักอยู่ พ่อสามีและบรรดาน้องชายของสามีก็กลับมาแล้ว ในไม่ช้า เหล่าน้องสะใภ้และแม่สามีก็มาถึงแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นเย่อวี๋หรานกลับมา ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าที่กำลังเล่นกันอยู่ก็ตอบสนองไวดุจมุสิกเผชิญแมว ไม่กล้ายืนใกล้โต๊ะกินข้าวอีก และรีบพากันไปหลบอยู่ข้าง ๆ
พวกเขากลัวอยู่บ้าง เนื่องจากพบว่าตนเองเหมือนจะกินกลิ่นหอมลงท้องไปหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นดมไปตั้งหลายครั้ง ทำไมอาหารพวกนั้นถึงไม่หอมแล้วล่ะ?
ไม่เกี่ยวกับพวกข้าสักหน่อย ไม่ต้องกลัว กลิ่นอาหารกระจายหายไปเองต่างหาก
ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าสะอื้น ท่านย่าจะตีคน!
เย่อวี๋หรานวางสิ่งของลงก็เตรียมจะกลับไปเอาของที่ห้องพร้อมกับล้างหน้าล้างตา เพียงแต่ตอนที่นางเปิดประตูห้องเข้าไปนั้น…
แม่เจ้า กลิ่นนั้นแทบทำเอานางลมจับ
“จูปาเม่ย เจ้าทำอะไรลงไป?!”
“ท่านแม่…” รูจมูกของจูปาเม่ยยัดเศษผ้าเอาไว้สองชิ้น มองมาที่มารดาด้วยท่าทางน่าสงสาร เห็นว่าแม้แต่เวลาเช่นนี้ท่านแม่ก็ยังดุ น้ำตาจึงไหลพรากลงมา “ท่านไม่ใช่แม่ของข้าแล้วยังจะดุข้าอีก?”
“ฮือๆๆ…ท่านทำเกินไปแล้วนะ ท่านถึงกับขังข้าไว้ในเรือน!”
“ท่านรู้ไหมว่าข้าเกือบฉี่รดเสื้อผ้าแล้ว”
“แหวะ…ขยะแขยง!”
……
เย่อวี๋หรานก็รู้สึกว่าน่ารังเกียจนัก ในห้องนอกจากกลิ่นถ่ายเบาแล้ว ยังมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวที่จูปาเม่ยอาเจียนทิ้งไว้ ทั้งสองกลิ่นผสมกันปนเป
แม่เจ้าโว้ย!
นางรีบหมุนตัวเดินออกไปสูดอากาศข้างนอก
นี่ก็น่าขนพองไปไหม!
แค่ขังไว้ครึ่งวันเท่านั้น จูปาเม่ยก็มีสภาพแบบนี้แล้ว ถ้าส่งไปเป็นสาวใช้บ้านตระกูลใหญ่จริง ๆ คงไม่พ้นชะตากรรมเดินเข้าไปแต่ถูกหามออกมาแน่นอน
“ฮือ ๆๆๆ…ท่านยังรังเกียจข้าอีก?” จูปาเม่ยสะอื้นพลางวิ่งออกมา ร้องไห้หนักกว่าเดิม
จูต้ากับจูเอ้อร์ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงเดินมาดู แต่ทันทีที่ได้กลิ่นจากร่างของจูปาเม่ยก็พลันถอยหลังกรูด
“อาหญิงเล็ก ท่านตกห้องน้ำมาใช่ไหมเนี่ย?” ต้าเป่าพูดขึ้นอย่างปากไม่มีหูรูด
หลิ่วซื่อสะดุ้ง รีบดึงตัวเขามาปิดปากเอาไว้
เอ้อร์เป่านึกว่าพี่ชายทำความผิดอะไร ก็รีบปิดปากตัวเองไว้เช่นกัน
จูชีไม่ใคร่เข้าใจนัก แต่ก็เลียนแบบท่าทาง ปิดปากตัวเองไว้
“เสี่ยวเม่ย ทำไมเจ้าถึงมีสภาพนี้ได้?” จูเหล่าโถวตะลึงพรึงเพริด ไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าลูกสาวที่ภรรยามองว่าเป็นความภาคภูมิใจตลอดมา ไฉนจึงเปลี่ยนไปมีสภาพเช่นนี้
สภาพนางตอนนี้ยังน่ารังเกียจกว่าแม่เล้าที่ไร้คนสนใจตรงหน้าหมู่บ้านเสียอีก กลิ่นบนร่างเหมือนกับตกลงไปในห้องน้ำเลยไม่ใช่หรือ?
จูปาเม่ยได้ยินวาจานั้นก็แผดเสียงร้องไห้จ้า แทบเหมือนกับบทเพลง ‘สิบแปดโค้งผ่านภูเขา [1]’ อย่างไรอย่างนั้น เสียงแหลมสูงช่างทรงพลัง
จูเหล่าโถวถูกเสียงนั้นทำให้สั่นสะเทือนจนหนังศีรษะชาหนึบ ถอยหลังไปหลายก้าว
ลูกสาวคนนี้อะไรก็ดีไปหมด ถ้าไม่ใช่ว่าถูกภรรยาของเขาตามใจจนเสียคน ดูเสียงร้องไห้นั่นสิ เหมือนกับภรรยาของเขาไม่มีผิด
“หุบปาก!” เย่อวี๋หรานไม่ต้องการให้เพื่อนบ้านมาดูเรื่องตลก จึงหันกลับมาตำหนิเสียงเย็น
จูปาเม่ยตัวสั่น ถูกดุจนสำลัก “แค่ก ๆๆๆ…ท่านยังมา แค่ก ๆ ยังมาดุข้าอีก!”
น้ำตาของนางทะลัก แทบจะร้อง ‘สิบแปดโค้งผ่านภูเขา’ ขึ้นมาอีกรอบ
“หุบปาก!” เย่อวี๋หรานรีบร้องขึ้น “หากร้องอีก ก็ไสหัวออกไปซะ”
“ฮือๆๆ…” จูปาเม่ยถูกสายตาเย็นชาของนางข่มขวัญ ไม่กล้าคร่ำครวญเสียงดังอีก แต่ก็กลั้นความน้อยอกน้อยใจไว้ไม่อยู่ “ท่านไม่ใช่แม่ของข้า ท่านดุข้า ท่านไม่ใช่แม่ของข้า ฮือ ๆๆๆ…”
“ข้าไม่ใช่แม่เจ้า เจ้าเชื่อไหมว่าข้าสามารถเอาเรื่องที่เจ้าฉี่รดเสื้อผ้าไปป่าวประกาศให้ทั่วหมู่บ้านรับรู้ ให้เจ้าไม่มีหน้าออกไปจากเรือนได้อีก?” เย่อวี๋หรานข่มขู่อย่างโจ่งแจ้ง
จูปาเม่ยมองนางอย่างเหลือเชื่อ “ข้าเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของท่านนะ?!”
[1] สิบแปดโค้งผ่านภูเขา หรือ ซานลู่สือปาวาน《山路十八弯》เวอร์ชั่นของหลี่ฉยง(李琼)เป็นเพลงที่ขับร้องโดยใช้เสียงแหลมสูง
MANGA DISCUSSION