บทที่ 68
ถูกลาถีบจนหัวทิ่มลงน้ำ
ในสถานการณ์แบบนี้แค่คำพูดปากเปล่าคงไม่มีใครเชื่อ ถังซือซือรู้ตัวว่าพลาดท่า แต่ตอนนี้จะหาหลักฐานมายืนยันได้จากที่ไหน เธอไม่รู้ว่าควรจะเดินเกมต่อไปยังไง
“คุณน้าคะ พอดีเขางานยุ่งมาก ปกติก็ไม่มีเวลาว่าง เพราะเป็นบริษัทใหญ่ เขาเลยมาไม่ได้”
“ฮ่าๆๆๆ …” ขณะนี้ บรรดาแขกรอบข้างต่างพากันหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ ยิ่งทำให้คำพูดของเธอเหมือนเป็นเรื่องตลกมากขึ้นไปอีก
แม้ว่าคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะร่ำรวยและมีชื่อเสียง แต่ก็ไม่มีใครที่มีทรัพย์สินเกินพันล้านสักคน และส่วนใหญ่จะมีทรัพย์สินมากสุดแค่พันล้านเท่านั้น
ถ้าเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินถึงหลักแสนล้านตามคำพูดของถังซือซือ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักคนแบบนั้น และยิ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้หญิงหน้าตาน่าเกลียดจะรู้จักคนแบบนั้น
“เด็กผู้หญิงคนนี้… ถูกลาถีบจนหัวทิ่มลงน้ำไปแล้วรึยังไง? โกหกคนอย่างมู่เชี่ยนลี่ทั้งที ก็น่าจะวางแผนให้ดีกว่านี้หน่อย”
“เธออยากบอกว่าผู้ชายคนนั้นรวยเป็นแสนล้าน แต่คำพูดเธอไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย… ฉันล่ะตลกกับเรื่องไร้สาระของเธอจริง ๆ”
“ที่สำคัญยังดูพูดด้วยท่าทางจริงจังอีกนะ แบบจริงจังมากเว่อร์ คางคกจะไปคู่กับหงส์ไม่ได้ ไร้สาระ!”
ฟู่ม่านโหรวและบรรดาแขกคนอื่น ๆ หัวเราะกันไม่หยุด หยิงหยิงยิ้มมุมปากแล้วพูดขึ้นว่า
“ลูกพี่ลูกน้องของเธอตลกจริง ๆ เลย ดูสิ เธอทำให้ทุกคนสนุกมาก”
“ฉันไม่ได้พูดเรื่องตลก สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง”
ถังซือซือเงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบข้างด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสา
รู้สึกแย่จัง!
ทุกสิ่งที่ฉันพูดมันเป็นความจริงทั้งหมด ฟังจากน้ำเสียงแววตาฉันก็น่าจะรู้ได้ว่าฉันพูดจริง แต่ถ้าไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องแสดงท่าทีแบบนั้นใส่ฉันก็ได้?
แม้ว่าเธอจะมีความสัมพันธ์กับเซียวเฉินเยวียนก็จริง…
แต่เธอมีสถานะเป็นเพียงแค่คู่หมั้นในนามเท่านั้น!
สัญญาถูกเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ยกเว้นเซียวเฉินเยวียน เธอไม่สามารถแตะต้องใครก็ตามที่เป็นเพศตรงข้ามได้…
เธอจึงพาผู้ชายคนอื่นมาแอบอ้างแทนเขาไม่ได้…
ดูถูกและหัวเราะฉันเพราะความน่าเกลียดใช่ไหม?
“ฟู่ม่านโหรวมีความมั่นคงและร่ำรวย แต่ทางตรงกันข้าม อย่างลูกพี่ลูกน้องของเธอ ดันไม่รู้ตัวเองว่าควรอยู่ในระดับไหน!”
“ฉันเคยชินกับการดูคนจนโดนดูถูกนะ ส่วนใหญ่ก็โกหกหรือแต่งเรื่องตลกบ้า ๆ ไร้สาระแบบนี้แหละ เพื่อให้คนอื่นมองตัวเองว่าดูดี…”
มู่เชี่ยนลี่เอนตัวลงมาข้างหูของมู่ซูเสียนแล้วพูดเยาะเย้ยว่า
“พี่สาว มองดูตัวเองสิ แต่งงานอีกก็ไม่ได้แล้ว และตอนนี้ยังมีชีวิตลำบากอยู่อีก แม้แต่ลูกสาวของเธอก็คงไม่มีโอกาสได้แต่งงานมีครอบครัวดี ๆ หรอก ไม่เสียใจหรอกที่ลูกเธอไม่เอาตาลุงคนนี้ ก็ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปละกัน หดหู่ดีเนอะ”
สีหน้าของมู่ซูเสียนโกรธจนบิดเบี้ยวพร้อมกับกลั้นน้ำตาไปด้วย
เดิมทีเธอไม่สนใจชีวิตที่ยากลำบาก แต่เธอกลับรู้สึกเจ็บใจทุกครั้งเมื่อเจอน้องสาว แล้วถูกเยาะเย้ยนับครั้งไม่ถ้วน!
มู่เชี่ยนลี่รู้สึกพอใจมากที่ได้เห็นสีหน้าของมู่ซูเสียน เธอยกมือปิดปากแล้วแอบยิ้มกรุ้มกริ่ม
ทันใดนั้น บรรดาแขกหลายคนหันไปเจอกลุ่มชายชุดดำยืนอยู่ตรงลานจอดรถหน้าโรงแรมที่จัดงานหมั้นผ่านหน้าต่างบานใหญ่
“ทุกคนดูนั่นสิ… คนพวกนั้นเป็นใครกัน?”
“คนกลุ่มนี้… คุณนายมู่เชิญมางานหมั้นด้วยเหรอ?”
ชายชุดดำกลุ่มนี้สวมชุดสูทสีดำที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดี สวมถุงมือสีขาว รูปร่างสูง ดูแข็งแรง และสง่างาม ทุกคน ขณะนี้ พวกเขากำลังยืนอยู่อย่างเรียบร้อยต่อหน้ารถเบนซ์สีดำดูหรูหราคันหนึ่ง
ผู้ชายวัยกลางคนสวมแว่นขอบดำเดินออกมาจากโรงแรมด้วยสีหน้าที่มีแต่รอยยิ้มอันสดใส รีบยืนไปหยุดรอที่ประตูรถเบนซ์ ด้วยท่าทางแสดงความเคารพเหมือนกำลังต้อนรับเจ้าชาย
“นี่… ผู้ชายใส่แว่นคนนั้นเป็นผู้จัดการของโรงแรมนี้ไม่ใช่เหรอ?”
“ใครกันที่ผู้จัดการถึงกับต้องออกมาต้อนรับด้วยตนเอง… ใครกันฉันอยากรู้? ฉัน… ตั้งตารอไม่ไหวแล้ว”
หลังผ่านไปไม่กี่วินาที ชายหนุ่มรูปงามสามคนเปิดประตูรถแล้วก้าวเดินลงมา
บรรดาแขกต่างตกใจแล้วรู้จักพวกเขาดีจนร้องตะโกนขึ้นมาว่า
“นี่ๆๆ… หลินอี้ปิน ประธานบริษัทอี้หลินกรุ๊ป เจียงเชิ้งหนาน ประธานบริษัทเจียงเชิ้งฟิล์มกรุ๊ป และ เล่ยเจ๋อเหยียนประธานบริษัทธันเดอร์เอ็นเตอร์เทรนเม้นท์ ทุกคนปรากฏตัวพร้อมกันเนี่ยนะ? วันนี้มันวันอะไร?”
“พระ… พระเจ้า… หล่อ… หล่อมาก…”
MANGA DISCUSSION