บทที่ 64
ไม่รู้ตัวเอง
นี่…
สีหน้าของ เดวิด ฉื่อ เปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ฟัง
ขณะเดียวกันสีหน้าของฉื่อเจียงหยางและภรรยาของเขาที่อยู่ด้านข้างก็ดูไม่พอใจเช่นกัน
บรรดาแขกที่นี่ต่างรู้ดีด้วยว่าบริษัทผลิตรถยนต์ ฉื่อเจียนหยางเพิ่งก่อตั้งขึ้นมาไม่ถึงสิบปี และเพิ่งเข้าสู่ แวดวงเล็ก ๆ ของวงการนวัตกรรมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แม้ว่าบริษัทจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เทคโนโลยีของรถยนต์ยังห่างไกลจากเทคโนโลยีการผลิตของรถยนต์ชื่อดังมากมาย ดังนั้นจึงทำได้แค่ลอกเลียนแบบและปรับเปลี่ยนการผลิตเล็กน้อย
ในบรรดาบริษัทผลิตรถยนต์และยานพาหนะอื่น ๆ จะมีสกู๊ตเตอร์คันไหนที่ราคาเริ่มต้นไม่ถึงหลักแสน?
และจะหาซื้อราคาที่ไม่ถึงหลักแสนได้จากที่ไหนนอกเหนือจากบริษัทนี้
สีหน้าของฉื่อเจียงหนานเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจโลหะของครอบครัวฟู่ม่านโหรวได้รับผลกระทบจากบริษัทโลหะที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในภาคใต้ของประเทศ และการหมุนเวียนของธุรกิจเริ่มไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน
ตรงกันข้ามกับนิสัยของนักธุรกิจเก่าที่เป็นคู่แข่ง แม้ว่าจะเริ่มต้นช้า แต่กลับพัฒนาอย่างรวดเร็วและแซงหน้าธุรกิจของครอบครัวฟู่ม่านโหรวได้ แต่เมื่อมู่ซูเสียนและลูกของเธอปรากฏตัวในวันนี้ ทำไมถึงกล้ามาหักหน้าพวกเขา?
มู่เชียนลี่รู้สึกถึงบรรยากาศตึงเครียด เธอไม่คิดว่ารถ โทรม ๆ ที่ถังซือซือพูดถึงจะเป็นรถของบริษัทฉื่อเจียนหยาง เธอโกรธจนอยากจะกดหัวถังซือซือเข้ากับฝาผนังไปซะ
ฟู่ม่านโหรวรีบตอบโต้กลับเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่กำลังเสียเปรียบ
“ซือซือ สายตาของเธอคงมองผิดไปนะ ฉันคิดว่ารถของเธอเป็นรถเลียนแบบคุณภาพต่ำที่ผลิตโดยประเทศเล็ก ๆ ซะมากกว่า ทุกคนรู้ดีว่ารถเลียนแบบของประเทศเล็กแบบนั้นคุณภาพแย่แค่ไหน แต่เธอจะเข้าใจผิดไปพวกเราก็ไม่ถือสาหรอกนะ”
เมื่อฉื่อเจียนหยางได้ฟังก็มีท่าทีผ่อนคลายลง
การลอกเลียนแบบเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมของประเทศเล็ก ๆ ที่มีค่าเงินต่ำ ผู้ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จึงมีความเกลียดชังต่อของลอกเลียนแบบพวกนี้ ที่อาจทำให้กลุ่มลูกค้าเข้าใจผิดได้
บรรดาแขกเห็นด้วยกับคำตอบของฟู่ม่านโหรว
คำตอบที่ฟังดูนุ่มนวล เมื่อทุกคนได้ฟังก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว
มู่เชี่ยนลี่เห็นแนวโน้มของความได้เปรียบกลับคืนมา เธอจึงเริ่มเยินยอ เดวิด ฉื่อ และครอบครัวขึ้นทันที
“ฉื่อลูกเขยของแม่ คุณยังเด็กและมีไอเดียอีกมาก แม่เห็นซีรีส์รถยนต์ระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ที่คุณกำลังพัฒนาอยู่ในตอนนี้แล้วนะ การออกแบบภายนอก และการตกแต่งภายในล้วนเป็นระดับเฟิร์สคลาสและดูดีมาก ๆ ฉื่อจะต้องประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในอีกไม่นานแน่นอน!”
เมื่อเธอเยินยอเขาเรื่องนี้ ก็ไม่ลืมที่จะประจบประแจง ฉื่อเจียนหยางและภรรยาของเขาเหล่าอ้ายฟาง
“คุณฉื่อและคุณอ้ายฟางเองก็มีความกล้าคิดกล้าทำ ทั้งยังมีความคิดริเริ่มในนวัตกรรมใหม่ ๆ อีกด้วย แล้วตอนนี้ลูกชายของพวกคุณกำลังสืบทอดข้อดีของคุณทั้งสองคนไว้อย่างมั่นคง! เขามีสไตล์และความคิดสร้างสรรค์เหมือนคุณฉื่อตอนวัยรุ่นไม่มีผิด!”
เพียงแค่ประโยคเดียว สมาชิกในครอบครัวตระกูลฉื่อทั้งสามได้รับการเยินยอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ฉื่อเจียนหยางและเหล่าอ้ายฟางต่างยิ้มกว้างจนไม่สามารถหุบยิ้มได้ แต่ เดวิด ฉื่อ กลับรู้สึกหนักใจเล็กน้อย
ฟู่ม่านโหรวยิ้มมุมปาก และรู้สึกภูมิใจในตัวคู่หมั้นของเธอ
มู่เชี่ยนลี่เป็นนักธุรกิจที่ดีและพูดจาฉะฉาน ด้วยคำชมเชยเหล่านี้ ทำให้เธอเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจสำเร็จมาแล้วมากมาย
อย่างไรก็ตาม ในการเผชิญหน้ามู่ซูเสียนและถังซือซือ ทำให้มู่เชี่ยนลี่รู้สึกรำคาญอย่างมากและเกือบจะทำให้เธอสติแตกในวันนี้ ไม่เพียงแค่จนมุมไปหลายรอบ แต่ยังต้องพยายามสวนกลับเพื่อให้ตัวเองกลับมาได้เปรียบ
ตอนนี้ถังซือซือตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเมื่อถูกสวนกลับและยังหาทางแก้เกมคืนไม่ได้ มู่ซูเสียนก็ได้แต่ยืนนิ่งเหมือนสุนัขที่น่าสงสาร
ขณะเดียวกันฟู่ม่านโหรวเองก็มีความคิดตรงกันกับแม่ของเธอ
เดิมที ญาติผู้ยากจนอย่างมู่ซูเสียนไม่น่าจะมีความกล้าเข้ามาเหยียบงานหมั้นในวันนี้
นี่ไม่รู้ตัวเองกันรึไงว่างานระดับนี้เหมาะกับคนรวยหรือคนจน?
มู่ซูเสียนและถังซือซือมีคุณสมบัติอะไรบ้างที่คู่ควรและเหมาะสมกับงานหมั้นของฉัน?
แล้วก็เธอ ถังซือซือ ตัวเกะกะสุด ๆ ในวันนี้ ชักจะกร่างมากขึ้นแล้วนะ ที่กล้ามาหักหน้าพวกฉัน!
ขณะเดียวกัน แสงไฟในห้องโถงเริ่มหรี่ลง นักเปียโนหนุ่มรูปงามในชุดทักซิโด้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเปียโนสีขาวบริสุทธิ์บนเวทีกลางห้องโถง
MANGA DISCUSSION