บทที่ 4
จุดประสงค์เรียกร้องค่าเสียหาย
ภายในรถที่ขับห่างออกไป กู่ชวนชะลอรถแล้วหันหน้ากลับมามองย่านเมืองเก่า ด้วยแผนผังเมืองที่ดูวุ่นวาย บ้านเล็กคับแคบ ตรอกซอยมืด ๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้น และยังมีขยะเกลื่อนไปทั่วเมือง เขาถึงกับต้องขมวดคิ้วจนย่นเป็นสามเส้น
ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ… ในสภาพแวดล้อมเลวร้ายแบบนี้ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงปฏิเสธเช็คเงินล้านจากคุณผู้ชายล่ะ? เธอจงใจเข้ามาหลอกลวงและเรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเงินไม่ใช่เหรอ?
กู่ชวนส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนหันกลับมาแล้วเหยียบคันเร่งแรงขึ้น เขาขับรถออกจากย่านเมืองเก่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากอยู่ในย่านเมืองเก่านานเกินไป
ทันทีที่ถังซือซือก้าวลงจากรถ กลิ่นเหม็นคาวและอับชื้นก็ได้โชยมากระแทกจมูกของเธอทันที
ถังซือซือขมวดคิ้วเข้ม เธอพยายามกลั้นหายใจไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองอาเจียนออกมา ตามภาพในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เธอเห็นอาคารเก่าที่แม่และลูกสาวอาศัยอยู่ด้วยกัน เธอเดินขึ้นไปตามบันไดที่มืดมิด เห็นเพียงแสงสลัว ๆ ตลอดทางเดินระหว่างเดินผ่านขึ้นไปทีละขั้น
ความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับอาคารเก่านี้เริ่มไหลเข้ามา ทำให้หัวใจของเธอปั่นป่วน
ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของปี เมื่อถังซือซือสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ อี้เวยวานแทบรอไม่ไหวที่จะพาถังจิ้งชือ น้องสาวต่างมารดาของเธอเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ ทางด้านของ มู่ซูเสียนก็พาถังซือซือออกมา และยอมหย่าขาดจากถังปู้ฝาน เพื่อให้สามีอยู่กับครอบครัวใหม่ที่นั่น
แต่น่าเสียดาย มู่ซูเสียนล้มป่วยอาการหนัก ถึงอย่างนั้นถังปู้ฝานกลับไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ เลยเมื่อรู้ข่าว ในความสิ้นหวังนั้น แม่และลูกสาวจึงต้องยอมขายบ้านที่เหลืออยู่เพื่อนำเงินมารักษา และเก็บไว้ใช้จ่ายในแต่ละวัน
ต่อมาถังซือซือได้รับหนังสือแจ้งการรับเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยหนานซาน แม่และลูกสาวต่างกัดฟันแน่นด้วยความอัดอั้นใจ ในที่สุดพวกเขาพากันย้ายถิ่นฐานจากเมือง F เข้ามาอยู่ในเมืองหลวง มู่ซูเสียนเช่าห้องพักราคาถูกในอาคารหลังเก่านี้ ส่วนถังซือซือจะอยู่ที่มหาลัยตลอดทั้งสัปดาห์ และกลับมาที่ห้องเช่าของแม่ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น
สองวันต่อจากนี้เป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี ขณะเดียวกันมีความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมา เธอและมู่ซูเสียนเคยคุยกันว่า เธอต้องเรียนและอยู่กินที่มหาวิทยาลัยตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อไม่ให้มีใครมารบกวนการเรียน ด้วยเหตุนี้มู่ซูเสียนยังไม่รู้ว่าลูกของตัวเองหรือเจ้าของร่างเดิมนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว รวมถึงเรื่องที่ลูกของเธอพยายามหลอกเอาเงินด้วย
ถังซือซือยืนครุ่นคิดอยู่สักพัก พบว่าเป็นเรื่องยากมาก และเริ่มมีน้ำตาไหลคลอออกมา
เมื่อเธอเดินมาถึงชั้นสี่อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างบน
“จะจ่ายค่าเช่าเมื่อไหร่?! ถ้าไม่จ่ายก็เก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”
คิ้วของเธอเริ่มขมวดเข้มอีกครั้ง เธอจำได้ราง ๆ ว่านี่เป็นเสียงของเจ้าของอาคารนิสัยเสีย ทั้งยังทำตัวกร่าง ชอบเร่งค่าเช่าผู้พักอาศัย แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากกับคนแบบนี้
คงไม่ต้องพูดถึงสภาพความย่ำแย่ของห้องพักที่เช่าอยู่นี้ ทั้งน้ำไม่ไหลและไฟดับบ่อยเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เจ้าของอาคารไม่เคยแก้ปัญหาให้ผู้พักอาศัยเลย และเขามักจะด่าทอแม่ของถังซือซืออยู่เสมอ ซึ่งทำให้เธอไม่พอใจอย่างมาก
“คุณเจ้าของอาคารคะ ฉันจ่ายค่าเช่าเดือนนี้ในอีกสามวันแน่นอน ขออีกแค่ไม่กี่วันต้องมีจ่ายให้คุณแน่ ๆ” เสียงที่แสดงถึงความอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดของมู่ซูเสียนดังออกมา
จ่ายค่าเช่าครั้งสุดท้ายเมื่อยี่สิบวันที่แล้ว ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนเลยทำไมเจ้าของอาคารถึงมาเร่งให้จ่ายค่าเช่าเร็วแบบนี้? นี่เป็นการจงใจรังแกผู้หญิงสองคนที่ไม่มีทางสู้กันชัด ๆ!
“รีบจ่ายไม่ได้เหรอ? มาต่อรองกับฉันแบบนี้เนี่ยมันใช่เรื่องไหม? บอกไว้ก่อนเลยนะ! อาคารของฉันมีแต่คนอยากเข้ามาเช่า ถ้าไม่มีเงินก็ออกไปซะ! ให้อยู่ไปก็เสียลูกค้าใหม่ดี ๆ ซะเปล่า ที่ฉันยังให้พวกเธออยู่นี่มันโคตรไร้ประโยชน์และเสียเปล่าเลย!”
“คุณเจ้าของอาคารคะ ได้โปรดเมตตาให้เวลาฉันอีกแค่สามวัน ตอนนี้ฉันไม่สามารถจ่ายให้คุณได้จริง ๆ” เสียงของ มู่ซูเสียนเริ่มสั่นเหมือนจะร้องไห้ เธอเป็นผู้หญิงที่ผอมบางคนหนึ่งและมีสถานภาพเป็นแค่แม่เลี้ยงเดี่ยว ทุกวันนี้เธอถูกคนอื่นรังแกสารพัดอย่างทั้งยังถูกโกงค่าแรง เมื่อถังซือซือกลับมา เธอก็เลือกที่จะเงียบและไม่พูดอะไร แล้วเจ้าของอาคารก็จะหันมากดดันเธอด้วยเช่นกัน
ถังซือซือรู้สึกโกรธจนกำหมัดแน่น เล็บมือของเธอฝังลึกลงไปในเนื้อหนัง
ในอดีตมู่ซูเสียนเป็นภรรยาของครอบครัวที่ร่ำรวย เธอได้สวมใส่แต่เสื้อผ้าและกินอาหารดี ๆ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็จะมีคนใช้ส่วนตัวคอยดูแลอยู่เสมอ แถมยังไม่เคยมีใครกล้าพูดเสียงดังใส่เธออีกด้วย แต่ตอนนี้เธอกลับตกต่ำลงในระดับที่ใคร ๆ ก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เธอโดนตะคอกใส่ โดนเจ้าของอาคารโวยวายใส่ไม่เว้นวัน ด้วยเหตุนี้ถังซือซือจะรู้สึกโกรธก็ไม่แปลก!
“ในเมื่อไม่มีเงินจ่ายจะเอาแบบนี้ไหม? เธอจะจ่ายด้วยร่างกายก็ได้นะ ฮ่าๆๆ!”
เจ้าของอาคารมองดูท่าทีน่าสมเพชของมู่ซูเสียนที่กำลังจะร้องไห้ ในตอนนี้เขาเริ่มมีความคิดที่ชั่วร้ายและอยากจะทำอย่างที่เพิ่งโพล่งออกไป เธอเหลือบมองขึ้นมาแล้วเห็นใบหน้าของเจ้าของอาคารที่เริ่มเปลี่ยนไป เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ และเดินเข้ามาหาเธออย่างช้า ๆ
“คุณจะทำอะไร? อย่าเข้ามานะ! ฉันโทรแจ้งตำรวจจริง ๆ ด้วย!” ความคิดในหัวของมู่ซูเสียนส่งเสียงดังในใจว่า เธอรู้สึกขยะแขยงมากกับคนแบบนี้ที่ชอบข่มเหงและไม่ให้เกียรติผู้หญิง เธอเห็นการกระทำแบบนี้ก็ถึงกลับอยากจะถุยน้ำลายรดใส่เขา แล้วผลักไอ้บ้ากามนี่ออกไปให้ห่างตัว
“เธอจะขัดขืนไปเพื่ออะไร? มัวเสียเวลาออกไปหาเงินข้างนอกทำไมล่ะ? ไม่สนใจอันที่อยู่ข้างล่างนี่หน่อยเหรอ? มาอยู่กับฉันสิ! สัญญาเลยว่าจะให้เธอได้กินอะไรเผ็ด ๆ ถึงใจ!
คำพูดลามกนับไม่ถ้วนที่ถูกพ่นออกมาจากปากคนไร้ยางอายนั้น ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก!
ไม่ไหวจะทนแล้วนะ!
“ปัง!” เสียงกำปั้นของถังซือซือต่อยเข้าที่ประตูสุดแรงของเธอ จนทำให้เกิดเสียงดัง เสียงนี้ช่วยดึงดูดความสนใจของเจ้าของอาคารได้ดี ทำให้เขาที่กำลังล่วงเกินมู่ซูเสียนที่ไร้ทางสู้ต้องหยุดชะงักแล้วหันมาหาเธอได้สำเร็จ
เจ็บมือชะมัด!
แต่มีสิ่งหนึ่งเจ็บปวดยิ่งกว่านั้น คือหัวใจของผู้เป็นแม่!
“ไอ้บ้ากาม! ปล่อยแม่ฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“ซือซือ! ไม่ต้องเป็นห่วง! แม่รับมือได้จริง ๆ!” มู่ซูเสียนรู้สึกอับอายและตกใจในเวลาเดียวกัน เมื่อเธอเห็นลูกสาวของตัวเอง เธอจึงรีบวิ่งมาปกป้องถังซือซืออย่างรวดเร็ว
MANGA DISCUSSION