บทที่ 19
ตามฉบับเจ้าชายนวนิยาย
โฉวฮ่าวไม่ตอบกลับอะไร ก่อนปล่อยหมัดไปที่ต้นไม้ตรงหน้าอย่างรุนแรง จนทำให้ใบไม้บนยอดร่วงปลิวลงมา
เพื่อนร่วมคลาสบางคนเดินผ่านมาเห็นก็ต่างตกใจ เมื่อเห็นเขาทำท่าทางไร้เหตุผลเหมือนคนควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ยิ่งโฉวฮ่าวคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองคงตัดสินใจผิดในตอนแรก ที่เขาเลือกจะรักผู้หญิงไร้เหตุผลและมีการคุมสภาวะทางอารมณ์ต่ำคนนี้ เขาเลือกเธอเข้าไปได้ยังไงนะ?
พันหม่าลี่เห็นว่าโฉวฮ่าวยังคงรู้สึกโกรธอยู่ เธอจึงพยายามคิดหาคนอื่นให้มารับผิดแทนในเรื่องนี้
“พี่โฉวฮ่าวโกรธจนพูดไม่ดีใส่ฉันเป็นครั้งแรกเลยนะ! ปกติพี่ไม่ใช่คนแบบนี้ แล้วพี่ก็ไม่ใช่คนโกรธง่ายด้วย จริงไหม?!”
เมื่อเขากลับมาครุ่นคิดอีกครั้ง จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะคนคนนั้นต่างหาก เรื่องคงไม่ลงเอยแบบนี้ถ้านังคางคกสอบไม่ผ่านเหมือนปกติอย่างที่เคยเป็น
เมื่อก่อนเฉินเมิ่งอวี่ต้องตามมาง้อเขา แถมยังพยายามอย่างไม่ลดละมาตลอด! แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับกลายเป็นตรงกันข้าม!
“โธ่เว้ย! ทั้งหมดมันเป็นความผิดของยัยคางคกนั่น!”
แววตาของพันหม่าลี่กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งเมื่อได้ยิน
คฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลเซียวในเมืองหลวง ภายใต้สวนองุ่นในสนามหลังบ้าน
หญิงชราในชุดหรูหรา เส้นผมหงอกเป็นสีเงิน กำลังนั่งพิงอยู่บนรถเข็น ศีรษะของเธอหันไปทางซ้ายมือเล็กน้อย พร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเล็กน้อย
“เสี่ยวเยวียน ยายเองก็เฝ้ารอเวลามานานแล้วนะ เมื่อไหร่จะให้ยายได้อุ้มหลานเหมือนกับเขาสักที ได้ยินจากหมอซูว่าอาการป่วยของหลานยังไม่มีอะไรคืบหน้าในการรักษาเลย หลานเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีใครสัมผัสตัวหลานได้เลยยกเว้นแต่พวกเรากันเอง ตระกูลเซียวต้องมีคนสักคนเป็นโรคนี้มาตลอดสองชั่วอายุคนที่ผ่านมา เราควรทำยังไงกันดี?”
ฝางเสวี่ยหลานขมวดคิ้ว ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่
ดวงตาของชายหนุ่มที่กำลังเข็นรถไปข้างหน้านั้นมืดหม่นราวกับห้วงทะเลลึก
สนามกีฬากลาง เขตภูเขาหนานซาน
ถังซือซือกำลังวิ่งจ๊อกกิ้ง ระหว่างทางก็รู้สึกถึงแรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง
เธอหยุดวิ่งทันที ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมา พบว่าตัวเองได้รับข้อความจากหมายเลขที่เธอไม่คุ้นเคยมาก่อน
“หนึ่งทุ่ม ให้ไปเจอกันที่ประตูทิศตะวันออกของสนามกีฬาหนานซาน”
สีหน้าของเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย “อะไรอีกเนี่ย?”
“ไม่ไปนี่จะผิดไหม?”
“เราคงต้องไปสินะ”
ถังซือซือกำลังเก็บโทรศัพท์มือถือ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้รับข้อความเด้งเข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอจำหมายเลขได้ว่าเป็นเบอร์ของกู่ชวน เห็นข้อความที่เหมือนกันกับข้อความที่แล้ว
“หนึ่งทุ่ม ให้ไปเจอกันที่ประตูทิศตะวันออกของสนามกีฬาหนานซาน”
“ลุงคนนี้ใช้สองเบอร์ด้วยแฮะ แปลว่าเมื่อกี้ลืมเปลี่ยนเบอร์ก่อนส่งข้อความงั้นเหรอ?”
เวลาผ่านไปจนถึงหนึ่งทุ่มอย่างรวดเร็ว
ประตูทิศตะวันออกของสนามกีฬาหนานซาน ภายใต้ซุ้มประตูที่มีรูปทรงแปลกตา รถเก๋งสีดำหรูหราจอดหลบอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศพลบค่ำ
อย่างไรก็ตาม ตราสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความหรูหรานั้น ทำให้นักศึกษาบางคนผ่านมาเห็นก็รู้สึกตื่นเต้น
“แม่เจ้าโว้ย! นั่นมันรถเบนซ์รุ่นที่ราคาแพงหูฉีกนั่นไม่ใช่เหรอ?”
“ผู้ชายในรถเป็นใครกัน? ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าใน หนานซานมีนักศึกษาบ้านรวยขนาดนี้! โคตรสวยจนอยากลองขับเลยว่ะ!”
“พระเจ้าช่วย! ดูนั่นสิ ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างรถเบนซ์คันนั้น! กรี๊ด ฉะ… ฉันหายใจไม่ออก…”
หญิงสาวที่พูดออกมาใช้มือกุมหัวใจตัวเองไว้ ราวกับต้านทานความหล่อของผู้ชายคนนั้นไว้ไม่ไหว
“กรี๊ดๆๆๆ! ฉันอยากรู้จักเขาจัง! งานดีมาก… หล่อวัวตายควายล้มเลย!”
ดวงตาของหญิงสาวหลายคนต่างเบิกกว้าง การหายใจเริ่มกระชั้นเร็วขึ้น พวกเธอมองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างหมกมุ่น รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเหมือนจะโบยบินไปสู่สวรรค์ซะให้ได้
“ตึง!” เสียงหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะเป็นลมหมดสติล้มลงไปนอนกับพื้น
ชายหนุ่มคนนั้นสวมชุดสูทสีดำ เผยให้เห็นรูปร่างอันสมบูรณ์แบบ ใบหน้าโค้งมนจนไร้ที่ติ ทั้งยังไม่มีริ้วรอยใด ๆ สันจมูกโด่งสวยงามตามฉบับเจ้าชายในนวนิยาย นัยน์ตาเป็นสีเดียวกับน้ำทะเล ยิ่งมองยิ่งเหมือนจะจมดิ่งลึกลงไปใต้ทะเลที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่ ไม่ว่าใครที่เผลอสบตาต่างก็รู้สึกเหมือนถูกกักขังไว้จนไม่สามารถหลุดออกมาได้ เขายืนอย่าง สง่างามด้วยท่าทางสบาย ๆ อยู่ใต้เสาไฟริมถนน ออร่าที่เปล่งออกมาจากเขาดึงดูดสายตาทุกคนโดยไม่ตั้งใจ…
MANGA DISCUSSION