“อะไรนะ! เขาคือเทพเยียวยาสวรรค์ เย่ชิว”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า บุคคลในกลุ่มที่สงบเสงี่ยมและเป็ นคนเงียบ ๆ คือเทพเยียวยาสวรรค์ ในต านาน เย่ชิว
ทุกคนอาจจะไม่เชื่อ ในฐานะเทพ ความประทับใจของพวกเขา ควรเป็ นอัจฉริยะที่เย่อหยิ่ง แต่ทว่า การแสดงของเย่ชิวนั้นสงบนิ่งเสีย จนเขาไม่ได้พูดอะไรสักคาตั้งแต่ต้นจนจบ
ในช่วงเวลานั้น ทุกคนมองตรงไปและสารวจตรวจตราเย่ชิวอย่าง จริงจัง พูดตามตรง ถ้าเย่ฉิงซวนไม่เตือนพวกเขา พวกเขาก็คงไม่ สังเกตเห็นเย่ชิวที่ยืนอยู่ข้างหมิงเยว่
“แปลกมาก กลิ่นอายของบุคคลนี้ดูเหมือนจะถูกยับยั้งอย่าง ส ม บู ร ณ์แ ล ะ ห ล อ ม ร ว ม เ ข้า กับ ธ ร ร ม ช า ติ ผ ส ม ผ ส า น กับ สภาพแวดล้อมโดยรอบ เจตนาที่ซ่อนเร ้นเช่นนี้ทาให้ใครก็ตามรู ้สึก สั่นสะท้านไปถึงสันหลัง” ท่ามกลางฝูงชน ผู้หญิงที่ไม่มีใครเทียบได้ แสดงความคิดเห็นอย่างจริงจัง
นางเดินตามหลังหลิงเทียนมาอย่างเงียบ ๆ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะ บอกว่านางมีความสัมพันธ ์ใกล้ชิดกับหลิงเทียน ดวงตาใสเหมือน
ทะเลดวงดาว นางมีความสามารถในการมองทะลุไข่มุกและสามารถ บอกได้ทันทีว่าเย่ชิวนั้นไม่ธรรมดา
เมื่อรวมกับการเคลื่อนไหวของเย่ฉิงซวนก่อนหน้านี้ จึงไม่ยากที่ จะบอกได้ว่าเย่ฉิงซวนจงใจทาสิ่งนี้ นางอดไม่ได้ที่จะกังวล เมื่อเห็นว่า เย่ฉิงซวนและหลิงเทียนไม่ลงรอยกัน นางจึงรีบดึงเสื้อผ้า
“เทียน อย่าผลีผลาม ความแข็งแกร่งของคน ๆ นี้ไม่ได้ด้อยกว่า ของเรา ยิ่งไปกว่านั้น เขามีสถานะสูงส่ง การที่เราจะเป็ นศัตรูกับเขา นั้นเสียเปรียบ” นางพยายามเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ าย แต่นางไม่รู ้ว่าคาพูด ของนางได้กระตุ้นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในใจของหลิงเทียน
ในฐานะผู้พิทักษ์เทพธิดา เขาจะเสียหน้าต่อเทพธิดาได้อย่างไร ยิ่งกว่านั้น ในช่วงสิบปี ที่ผ่านมาของการปิ ดด่าน ความมั่นใจเพิ่ม สูงขึ้นและเขาคิดว่าเขาจะไม่แพ้ใคร
จากนั้น เขามองไปที่เย่ฉิงซวนอย่างเย็นชาและพูดว่า “เย่ฉิงซวน อย่าพูดเช่นนั้นกับข้า เทพบ้าอะไร ข้าไม่ยอมรับ”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา บรรยากาศก็ถึงจุดสุดยอด ทันที สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาหายใจเข้าลึก ๆ และบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ
“แม่เจ้า หลิงเทียนต้องการท้าทายเทพโดยตรงงั้นหรือ”
ทุกคนต่างตกตะลึง ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ ความ แข็งแกร่งมักจะพูดอยู่เสมอ แม้ว่าเย่ชิวจะเป็ นเทพ แต่เขาก็ต้องมีพลัง
ในการโน้มน้าวใจผู้อื่น หากเขาไม่สามารถเอาชนะตัวก่อกวนเหล่านี้ ได้ ต าแหน่งก็ไร ้ค่า
“น่าสนใจ” ในขณะนี้ เซียวโม่ที่เงียบท่ามกลางฝูงชนเผยรอยยิ้ม ที่มีเลศนัย พี่น้องหลู่ที่อยู่ข้าง ๆ เขามีความคิดที่จะดูการแสดงที่ดีนี้ ด้วย
กลับกัน ผู้หญิงที่เย็นชาในชุดขาวที่อยู่ด้านหลังฝูงชน ฮุ่ยไฉ่อี้ดู เงียบกว่ามาก นางไม่พูดอะไรและเฝ้ าดูอย่างเงียบ ๆ ในตอนแรก เมื่อ นางเห็นเย่ชิว นางอยากจะเข้ามาทักทายเขา แต่เมื่อนางรู ้ว่าหมิงเยว่อ ยู่ข้าง ๆ เขา นางก็ล้มเลิกความคิดนี้
คนเหล่านี้รู ้ถึงความแข็งแกร่งของเย่ชิวเพราะพวกเขาได้เห็นมัน แล้ว อย่างไรก็ตาม หลิงเทียนเพิ่งออกมาจากปิดด่านและเขาไม่รู ้อะไร มากนัก เขาเคยได้ยินแต่ข่าวลือจากคนอื่นเท่านั้น แต่ข่าวลือเหล่านี้ จะประกอบไปด้วยเรื่องที่คุยโม้โอ้อวดซะส่วนใหญ่
“ฮ่าฮ่า!” เมื่อเย่ฉิงซวนได้ยินคาพูดของหลิงเทียน เขาก็อดไม่ได้ ที่จะหัวเราะ
ข้าแค่กังวลว่าจะยั่วยุเจ้าอย่างไร ข้าไม่ได้หวังให้เจ้าพูดก่อน เอา ล่ะ ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเติมเชื้อไฟให้
“ศิษย์พี่ ได้ยินหรือไม่ ข้าไม่ได้ตั้งใจ เป็ นเด็กคนนี้ที่ไม่เหลียวเห็ฯ ท่าน ท่านทนได้อย่างไร หากเป็ นข้า ข้าจะบดขยี้เขาให้ตายภายใน
ไม่กี่นาที ข้าจะทนความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้งั้นหรือ ถ้าข้าทนได้ ข้า จะไม่กลายเป็ นเต่าหรือเจ้าสารเลวหรือ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มุมปากของเย่ชิวก็กระตุกและใบหน้ามืดลง เด็ก คนนี้กาลังด่าเขาทางอ้อมอยู่หรือ
ตั้งแต่แรก เย่ชิวไม่อยากยุ่งกับพวกเขา ทุกอย่างเป็ นการกระท า ของเย่ฉิ งซวน อีกฝ่ ายมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่เย่ชิว ใน สถานการณ์นี้ มันไม่สมเหตุสมผลถ้าเย่ชิวไม่พูดอะไรสักคา
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เย่ชิวก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น เขาหันตัวกลับและมองไปที่เย่ฉิงซวน เขาเผยรอยยิ้มมีเลศนัยแล้วพูด ว่า “เจ้าหนู เอาล่ะ เรายังมีเวลาอีกยาวไกล แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
หัวใจของเย่ฉิงซวนสั่นสะท้านเมื่อเห็นรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ของเย่ชิว อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ เขาเตรียมใจไว้แล้ว “ศิษย์พี่ ท่าน ว่าอย่างไร ข้าแค่ช่วยระบายความโกรธของท่าน ท่านจะต าหนิข้าได้ อย่างไร”
เย่ชิวรู ้สึกขบขัน “ฮ่าฮ่า ตราบใดที่เจ้ารู ้ว่าเจ้ากาลังทาอะไรอยู่ เรามาสนุกกันในภายหลัง” หลังจากพูดเช่นนั้น เย่ชิวก็ไม่สนใจเย่ฉิง ซวนและยืดเส้นยืดสายอย่างเกียจคร ้าน ทั้งร่างกายเปล่งกลิ่นอายที่ สบายอย่างหาที่เปรียบมิได้ “อืม ไม่ได้ออกก าลังกายมานาน ข้าไม่ ชินกับมันจริง ๆ “
เย่ชิวถอนหายใจด้วยอารมณ์ จากนั้น เขาก็เยาะเย้ยใส่หลิงเทียน และพูดว่า “ดูเหมือนว่านายน้อยหลิงผู้นี้มีความคิดเห็นมากมาย เกี่ยวกับข้า ถ้าอย่างนั้น เราไปลานประลองดีหรือไม่ มาดูกันว่าข้า เทพเยียวยาสวรรค์ จะสามารถดึงดูดสายตาของนายน้อยหลิงได้ หรือไม่”
กลิ่นอายที่เย็นยะเยือกอย่างไม่มีใครเทียบได้บดขยี้ทันที ร่างกาย ของหลิงเทียนสั่นสะท้านในทันทีและเขาเผยสายตาที่ตื่นตระหนก ออกมา
“ช่างเป็ นกลิ่นอายที่พลังอะไรอย่างนี้!” เขาตกใจอย่างหาที่ เปรียบมิได้ แต่เขาไม่คาดคิดว่าเย่ชิว ซึ่งยังไปไม่ถึงขอบเขตจ้าว สวรรค์ จะมีกลิ่นอายที่น่ากลัวเช่นนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะลังเล จากท่าที ของเย่ฉิงซวน ความแข็งแกร่งของเย่ชิวนั้นไม่ด้อยกว่าเขาอย่าง แน่นอน
และความแข็งแกร่งกับเย่ฉิงซวนก็เสมอกัน แม้ว่าเขาจะสามารถ เอาชนะเย่ฉิงซวนได้ แต่เขาก็เกือบจะไม่สามารถเอาชนะได้
หลิงเทียนสูญเสียความมั่นใจไปชั่วขณะว่าเขาจะสามารถ เอาชนะเย่ชิวได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มี ทางออกสาหรับเขา คนที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างรอดูว่าเขาหลอกตนเอง ถ้าตอนนี้เขายอมรับความพ่ายแพ้ จะไม่ใช่การบอกทางอ้อมหรอก หรือว่าเขาท าไม่ได้
“เอาล่ะ! ในเมื่อเจ้าอยากเล่นกับข้า ข้าก็จะเล่นกับเจ้า” หลิงเทียน กัดฟันและตอบรับค าเชิญของเย่ชิวทันที ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขา ไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้ ฝึกฝนในปิดด่านไปมาฟรี ๆ มาเป็ นเวลากว่าสิบปี คราวนี้เขาออกมา จากปิ ดด่านด้วยต าแหน่งเทพ เขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อ- ตรงหน้าเย่ชิวได้อย่างไร
การต่อสู้กับเย่ชิวในตอนนี้คงไม่ต่างจากสามปี ต่อมา มันเป็ น เพียงเรื่องของเวลา หากวันนี้เขาสามารถเอาชนะเย่ชิวได้จริง ๆ เขาก็ สามารถแทนที่เย่ชิวได้โดยตรง ในตอนนั้น เขาจะไม่สนใจเย่ฉิงซวน
“เอาล่ะ เข้ามา!” เย่ชิวไม่สนใจการจ้องมองที่ยั่วยุของหลิงเทียน เขายิ้มจาง ๆ และเตรียมออกจากศาลาลิขิตดาราและเดินไปที่เวที ศิลปะการต่อสู้
ในขณะนี้ เสียงของผู้อาวุโสใหญ่ดังมาจากประตูด้านหลังเขา “พวกเจ้าทุกคน เข้ามา!”
ทันทีที่เสียงนี้ดังขึ้น ข้อโต้แย้งนี้ก็จบลงทันที เย่ชิวตกตะลึงทันที “บัดซบ มันไม่ง่ายที่ข้าจะหาโอกาสโอ้อวด เหตุใดชายชราคนนี้ถึงทา ตัวบ้า ๆ บอ ๆ และท าลายแผนการของข้าอีก”
MANGA DISCUSSION