เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่อู๋เหินตบต้นขาอย่างกล้าหาญ “ฮ่าฮ่า… ดี สมที่ เป็ น ของลูกชายข้า ข้าโล่งใจที่ได้ยินคาพูดของเจ้า ไม่ต้องกังวล ข้า จะเข้าชมการแข่งขันเป็ นการส่วนตัวในอีกสามปีต่อมาอย่างแน่นอน! มาดูกันว่าเจ้าจะตัดสินผลลัพธ ์ในการต่อสู้หนึ่งครั้งอย่างไรและให้โลก เห็นว่าตระกูลเย่ของข้าตกต่าหรือไม่”
เมื่อได้ยินความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของลูกชาย ความกังวลในใจของ เย่อู๋เหินก็หายไปและอารมณ์ก็ดีขึ้นทันที ไม่ว่าเย่ฉิงซวนจะชนะหรือ ได้หรือไม่ เย่อู๋เหินก็ไม่เสียใจอีกต่อไป
ขณะนี้ อีกด้านหนึ่งของห้องโถง ในกลุ่มตระกูลยวี่
ยวี่อู๋ซวงที่หมดสติค่อย ๆ ตื่นขึ้น เมื่อตระหนักว่าความพ่ายแพ้ อย่างย่อยยับก่อนหน้านี้ทาให้ผู้นาอับอาย ยวี่อู๋ซวงก็รู ้สึกละอายใจ อย่างยิ่ง เขารีบคุกเข่าตรงหน้าผู้นาและยอมรับความผิดพลาด “ผู้นา ข้ามันไร ้ประโยชน์ โปรดลงโทษข้า”
ยวี่อู๋ซวงตัวสั่นและไม่หยิ่งเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
ยวี่ฉางเซิงหันตัวกลับมามองอีกฝ่ ายอย่างเย็นชา เขาโกรธจัด และอยากจะตบอีกฝ่ายให้ตาย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวใจ ของเย่อู๋เหินเต้นถี่เร็ว เขาก็ยับยั้งมันไว้
ในตอนนี้ คนเดียวในคนรุ่นของตระกูลยวี่ที่มีทักษะที่ยอดเยี่ยม คือยวี่อู๋ซวง หากเขาสังหารอีกฝ่ าย ตระกูลยวี่จะตั้งหลักในดินแดน ศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ได้อย่างไรในอนาคต
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ยวี่ฉางเซิงก็เก็บกดเจตนาสังหารในใจและถอน หายใจ ดูเหมือนเขาจะแก่เกินไป
“ลืมมันซะ… การแพ้เย่ชิวไม่ใช่เรื่องน่าอาย” เขาส่ายหัว ไม่ว่า อย่างไรก็ตาม เย่ชิวยังคงเป็ นเทพเยียวยาสวรรค์ ตัวตนที่เทียบได้ กับหมิงเยว่ มันสมเหตุสมผลแล้วที่จะแพ้อีกฝ่ าย หลังจากยวี่ฉางเซิง สงบลง เขาก็รู ้สึกโล่งใจ อย่างไรก็ตาม ดวงตากลับมาเย็นชาอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตาม ข้าไม่อยากเห็นความล้มเหลวเช่นวันนี้อีก อีก สามปี ต่อมา จะเป็ นการแข่งขันเยียวยาสวรรค์ ข้าไม่ได้ขอให้เจ้า เอาชนะเย่ชิว แต่อย่างน้อยที่สุด เจ้าจะแพ้เย่ฉิงซวนไม่ได้ หากเจ้าแพ้ อีกครั้ง จงฆ่าตัวตายไปเสีย”
ทันทีที่คาพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา หัวใจของยวี่อู๋ซวงก็ เปลี่ยนเป็ นเย็นชาทันที และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ก็ปะทุออกมา จากหัวใจ เขามองอย่างเย็นชาไปที่เย่ฉิงซวนซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล หัวใจเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ “เย่ฉิงซวน!”
ทั้งสองเป็ นศัตรูกันมานานหลายปี ยวี่อู๋ซวงถูกอีกฝ่ ายข่มเหงมา นานหลายปี ดังนั้นเขาจึงเกลียดอีกฝ่ายเข้ากระดูกโดยธรรมชาติ
เมื่อเห็นว่าประมุขให้ความสาคัญกับเรื่องนี้มาก ยวี่อู๋ซวงก็พูด อย่างหนักแน่นทันที “ผู้นา ไม่ต้องกังวล คราวนี้ ข้าไม่แพ้อีกแน่นอน ข้าจะสังหารเย่ฉิงซวนและทาลายศักดิ์ศรีของตระกูลเย่อย่างแน่นอน”
“ฮึ่ม!” ด้วยน้าเสียงเย็นชา ยวี่ฉางเซิงไม่เชื่อว่ายวี่อู๋ซวงจะมี พละกาลังเช่นนั้นจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มี แผนสารอง จากนั้น เขาก็มองไปที่ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังและ พูดว่า “ทาให้เขาเติบโตขึ้นในเวลาที่สั้นที่สุด ข้าต้องการผลลัพธ ์ที่ น่าพอใจในสามปี ถ้าเจ้าท าไม่ได้ เจ้าก็จงจบชีวิตไปกับเขา”
ชายชราที่ถูกเรียกออกมาก็ตกใจเช่นกันเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขารู ้ ดีว่าผู้น าโกรธมากในวันนี้ เขากล้าปฏิเสธได้อย่างไร เขารีบตอบตก ลง
ตระกูลใหญ่ทั้งสองนี้ดูเหมือนจะเริ่มแข่งขันกันอย่างลับ ๆ และ ตระกูลใหญ่อีกสองสามตระกูลที่มองจากด้านข้างไม่มากก็น้อยก็มี ท่าทีเหมือนก าลังดูการแสดง
“ฮ่าฮ่า น่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ! ข้าพลันตั้งตารอว่าการต่อสู้ที่ดุเดือด ในอีกสามปี ต่อมาจะเป็ นอย่างไร” ผู้นาของตระกูลโบราณยิ้ม เบื้องหลังเขามีอัจฉริยะจานวนนับไม่ถ้วนของตระกูล ต่างเต็มไปด้วย ความมั่นใจ
ฉีฮวนยิ้มและไม่พูดอะไรสักคาขณะที่เขามองไปที่ตระกูลใหญ่ ต่าง ๆ ในห้องโถง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาเคยจัดการแข่งขัน เยียวยาสวรรค์มาแล้วหลายครั้ง เขาชินกับเรื่องเช่นนี้แล้ว
แน่นอน เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเย่ชิวอีกต่อไป ขณะนี้ เย่ชิ วได้กลับไปที่โถงฝึกเมฆาม่วงแล้วและนาเจียงหลิงเอ๋อและหยาหยาก ลับไปที่สะพานหิน
“น้า นี่คือโถงฝึ กเมฆาม่วงของเรา” หยาหยายิ้มขณะที่นาง แนะนาทิวทัศน์ที่สวยงามของโถงฝึกเมฆาม่วงให้กับเจียงหลิงเอ๋อ
นี่เป็ นครั้งแรกของเจียงหลิงเอ๋อที่เข้าสู่โถงฝึกเมฆาม่วง นางมอง ไปที่ทะเลเมฆและสะพานหินที่ล้อมรอบด้วยปราณเซียนและถอน หายใจด้วยอารมณ์
“สมกับเป็ นดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์ เป็ นสถานที่โดดเด่น ที่เต็มไปด้วยปราณเซียน มันควรจะเป็ นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลาดับหนึ่ง ของเซียน” หลังจากชื่นชมจากใจจริง เจียงหลิงเอ๋อก็มองที่เย่ชิวแล้ว พูดว่า
“นายน้อย ท่านมีหยาหยาเป็ นศิษย์เท่านั้นหรือ”
เมื่อเผชิญกับคาถามของนาง เย่ชิวก็ยิ้มจาง ๆ แล้วพูดว่า “โถง ฝึกเมฆาม่วงมาจากสานักที่ข้าดาเนินต่อจากดินแดนเบื้องล่าง มรดก เมฆาม่วงมีศิษย์ทั้งหมดห้าคน แต่ในความหมายที่แท้จริง มีศิษย์เพียง
สี่คน หยาหยาเป็ นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุด ก่อนหน้านาง นางมีศิษย์พี่ หญิงสามคนที่ติดตามข้าตอนที่ข้ายังยากจน”
เย่ชิวไม่ได้ปิดบังอะไร เมื่อเขาเอ่ยถึงที่รักตัวน้อยทั้งสาม หัวใจก็ อบอุ่นและรู ้สึกซาบซึ้งมาก โดยรวมแล้ว เย่ชิวพอใจกับศิษย์สี่คนนี้ มาก
ศิษย์คนโต หลินชิงจู้ เย็นชาและไร ้ความปรานี แต่นางก็ สนับสนุนอาจารย์อย่างหาที่เปรียบมิได้ เชื่อฟังและมีเหตุผล
ศิษย์รอง จ้าวว่านเอ๋อ อ่อนโยนราวกับน้า นางไม่ชอบการต่อสู้ และชอบปรุงเม็ดยาเท่านั้น
ศิษย์คนที่สาม หลิงหลง ซุกซน นางชอบแข่งขันโดยธรรมชาติ และดุร ้ายเล็กน้อย แต่นางก็เชื่อฟังเป็ นอย่างดี ศักยภาพของนางช่าง น่าทึ่งและนางก็มีความเป็ นไปได้ไม่รู ้จบ
ศิษย์คนที่สี่ เจียงหยาหยา คล้ายกับหลิงหลงและชอบการแข่งขัน สูง อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ เย่ชิวตระหนักว่านางมี ความกังวลมากเกินไปและไม่กล้าริเริ่มที่จะสร ้างปัญหา กลัวว่ามันจะ นามาซึ่งผลที่ตามมาที่แก้ไขไม่ได้
เย่ชิวไม่พอใจกับสิ่งนี้มาก ดังนั้น ในแผนของเย่ชิว เขา เตรียมพร ้อมที่จะเปลี่ยนแปลงนางในเส้นทางของการทดสอบล้านลี้ ตามประเพณีของขุนเขาเมฆาม่วง พวกนางจะรู ้ข้อผิดพลาดและ แก้ไขให้ถูกต้อง แต่พวกนางจะไม่ยอมรับในความผิดพลาดของตน
ในฐานะศิษย์ของโถงฝึกเมฆาม่วง นางจะยอมรับความผิดพลาด ของนางอย่างไม่ใส่ใจได้อย่างไร แม้ว่านางจะรู ้ว่านางผิด นางก็ไม่อาจ ยอมรับได้ นี่คือกฎ อาจเป็ นเพราะหยาหยามีความกังวลในใจมาก เกินไป มันจากัดการแสดงของนาง ปัญหานี้ไม่ใหญ่มาก เย่ชิวสามา รถเปลี่ยนแปลงนางได้อย่างง่ายดาย
หลังจากเย่ชิวแนะนาตัวเสร็จ หัวใจของเจียงหลิงเอ๋อก็สั่นสะท้าน นางไม่คิดว่าเย่ชิวจะมีลูกศิษย์มากมายขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย นาง ยังสงสัยและพูดว่า “ข้าไม่คิดว่านายน้อยเย่จะมีศิษย์มากมายขนาดนี้ ข้าสงสัยว่าตอนนี้ศิษย์เหล่านี้อยู่ที่ใด”
“ท่านน้า ข้ารู ้เรื่องนี้แล้ว ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หยาหยาจึงตอบทันทีว่า “อาจารย์บอกว่าศิษย์พี่ หญิงทั้งสามยังคงอยู่ในดินแดนเบื้องล่างและยังไม่ได้ขึ้นมา”
“ข้าเข้าใจ… ” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เจียงหลิงเอ๋อก็ครุ่นคิด นางคิดกับ ตนเองว่าในเมื่อพวกนางยังไม่ได้ขึ้นมา พวกนางไม่ควรกลายเป็ น เซียน ดังนั้นพวกนางจึงไม่สามารถเดินบนเส้นทางสู่ความเป็ นเซียน ได้
ในขณะที่เจียงหลิงเอ๋อกาลังเดาอยู่นั้น ทันใดนั้นหยาหยาก็พูดว่า “ทานน้า ศิษย์พี่หญิงทั้งสามของข้าทรงพลังมาก ศิษย์พี่หญิงใหญ่ งดงามไม่มีใครเทียบ นางมาถึงขอบเขตเซียนสูงสุดตั้งแต่อายุยังน้อย พรสวรรค์ของนางช่างน่าตกใจ… ”
“อะไรกัน!” ใบหน้าของเจียงหลิงเอ๋อซีดลง เซียนสูงสุด เป็ นไปได้ อย่างไร เย่ชิวอายุเท่าใด ศิษย์มาถึงขอบเขตเซียนสูงสุดแล้ว
นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด หยาหยาพูดต่อ “นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่ น่ากลัวที่สุดคือศิษย์พี่หญิงตัวน้อยของข้า นางอายุเพียงสิบเอ็ดหรือ อายุสิบสองขวบ และบรรลุเต๋าด้วยร่างกายของนาง ตอนนี้ นางมาถึง จุดสูงสุดของขอบเขตเซียนสูงสุดแล้ว พลังการต่อสู้ของนางน่ากลัว ยิ่งกว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่”
“นี่… ” เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงหลิงเอ๋อก็เสียความสงบในทันที อายุ สิบเอ็ดสิบสองขวบปีแต่อยู่ในขอบเขตเซียนสูงสุด นี่มันบ้าอะไรกัน
เจียงหลิงเอ๋อตกตะลึง นางไม่คิดว่าศิษย์ของเย่ชิวจะสุดยอด ขนาดนี้ และแต่ละคนก็ผิดปกติยิ่งกว่าอีกคน…
MANGA DISCUSSION