ความเงียบ…
ทันทีที่เย่ฉิงซวนพูดจบศาลาทะเลเมฆก็เงียบลง เย่ชิวไม่ได้พูด อะไร รอยยิ้มบนใบหน้าของฮุ่ยไฉ่อี้ก็หายไปเช่นกัน เมื่อมองดู บรรยากาศที่แปลกประหลาดนี้ เย่ฉิงซวนกาลังสูญเสีย เขามองไป ที่เย่ชิวจากนั้นก็มองไปที่ฮุ่ยไฉ่อี้ มันน่าอึดอัดมากที่ดูเหมือนว่าเขา สามารถขุดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อการบ่มเพาะ
บัดซบ พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้าพูดอะไรผิด ก่อนหน้า นี้พวกเจ้าไม่ได้คุยกันอย่างมีความสุขหรือ เหตุใดเจ้าไม่คุยกันอีกล่ะ เจ้าก าหนดเป้ าหมายข้าหรือไม่
เย่ฉิงซวนรู ้สึกกระอักกระอ่วนใจ เขายืนอยู่ตรงนั้นเหมือนตัวตลก ลมหนาวพัดมา ท าให้เขาดูอ้างว้างเล็กน้อย
ขณะที่เขาไม่รู ้จะพูดอย่างไร ทันใดนั้น เย่ชิวก็พูดว่า “หืม นาย น้อยเย่ เจ้าดูแปลกเล็กน้อย อาจเป็ นเพราะเจ้าอ่อนแอหรือไม่ เหตุใด เจ้าถึงหน้าซีดเช่นนี้”
เย่ชิวถามอย่างจริงจัง ปากของเย่ฉิงซวนกระตุกเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ความโกรธปรากฏอยู่บนใบหน้าแล้ว
“ฮ่าฮ่า” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮุ่ยไฉ่อี้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา อย่างไร ้ความปรานี ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าเย่ชิวต้องการยั่วยุเย่ฉิง ซวนโดยใช ้นาง แม้ว่านางจะรู ้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ด้วยเหตุผล บางอย่าง นางรู ้สึกขบขันเมื่อเห็นสีหน้าพ่ายแพ้ของเย่ฉิงซวน
“ชายคนนี้ร ้ายกาจยิ่งนัก! แต่ข้าชอบ… ” นางคิดกับตนเองว่านี่ เป็ นครั้งแรกที่นางได้เห็นคนที่น่าสนใจเช่นนี้ แม้ว่ามันจะดูไร ้มารยาท ไปหน่อย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางพบว่ามันตลก
จากมุมมองของนาง เย่ชิวและเย่ฉิงซวนเป็ นเหมือนกัน ความสัมพันธ ์ของพวกเขากับนางคือเพื่อนศิษย์ ไม่ส าคัญว่าใครจะ สนิทสนมหรือห่างเหิน นี่เป็ นครั้งแรกที่นางได้พบกับเย่ฉิงซวนและเย่ ชิว ดังนั้น ฮุ่ยไฉ่อี้ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในความขัดแย้งของพวกเขา
สีหน้าของเย่ฉิงซวนยิ่งน่าเกลียดขึ้นไปอีก เขามองไปที่รอยยิ้ม จาง ๆ ของเย่ชิวและอยากจะฉีกอีกฝ่ายเป็ นชิ้น ๆ
“อ๊าก… ข้าโมโหยิ่งนัก!” เสียงคารามอย่างโกรธเกรี้ยวในใจไม่ สามารถระบายความเกลียดชังในใจได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถ วู่มวามต่อสาวงามที่อยู่ข้าง ๆ เขาได้และฝืนทนกับมัน
“ฮ่าฮ่า ท่านเทพ เหตุใดถึงพูดอย่างนั้น” เย่ฉิงซวนหัวเราะแล้ว เปลี่ยนเรื่อง
ในขณะที่เขากาลังจะพูดต่อหัวข้อของพวกเขา ทันใดนั้น เย่ชิวก็ พูดขึ้นว่า “เริ่มจะสายแล้ว เทพธิดา วันนี้หยุดแค่นี้ก่อน หากมีเวลา อีกวัน หลังเราจะคุยกันแบบลึกซึ้ง เจ้าคิดอย่างไร”
“แน่นอน” เมื่อได้ยินคาเชิญของเย่ชิว ฮุ่ยไฉ่อี้ก็ตกลงโดยไม่ต้อง คิด
“เช่นั้นข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว วันนี้ข้ารู ้สึกราวกับว่าข้าตื่นจาก ความฝัน กฎแห่งเต๋าของข้าก้าวหน้าแล้ว ได้เวลากลับไปลิ้มรสมัน แล้ว ข้าอาจทะลวงผ่านก็เป็ นได้”
“หากข้ามีเวลาอีกวัน ข้าจะมาเยี่ยมเยียนและหารือเกี่ยวกับความ ลึกซึ้งของกฎแห่งเต๋ากับเจ้าอย่างแน่นอน ในเวลานั้น นายน้อยโปรด อย่าปฏิเสธที่จะพบข้า” ฮุ่ยไฉ่อี้กระพริบตาที่เปียกน้าของนางและมอง ไปที่เย่ชิวอย่างมีความหวัง
เย่ชิวยิ้มและพูดว่า “เทพธิดา เจ้ากาลังพูดอะไร ข้าจะยังคงพูด เหมือนเดิม ตราบเท่าที่เจ้าอยากจะมา ประตูโถงฝึกเมฆาม่วงของข้า จะเปิดให้เจ้าเสมอ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดฮุ่ยไฉ่อี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และมีความสุขมาก “เอาล่ะ เอาล่ะ แล้ววันหลังค่อยว่ากันใหม่ตกลง หรือไม่”
“ก็ได้ วันหลังเราค่อยคุยกัน” ดวงตาของเย่ชิวเปิ ดเผย ความหมายมีเลศนัย เขาเหลือบมองเย่ฉิงซวนจากหางตา
สีหน้าของเย่ฉิงซวนก็บิดเบี้ยว สีหน้าน่าเกลียดยิ่งกว่าหมูตายที่ ตายมาสิบวันเสียอีก สองคนนี้ไม่ได้สนใจเขาและพูดคุยกัน ไม่ใช่ เรื่องง่ายสาหรับเขาที่จะวางความเย่อหยิ่งและเตรียมพร ้อมที่จะเข้า ร่วมการสนทนาของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้คุยกันอีกแล้ว พวก เขาก าลังจะจากไป
“อ๊าก… ข้าจะทน ข้าจะอดทน… ” เขาอยากจะสังหารใครสักคน แต่ดูเหมือนมดจะไต่ตอมตามร่างกาย มีอาการคันทั้งตัว ดูเหมือนว่า กาลังจะขึ้นสมอง
“เย่ชิว! เราไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ความแค้นในวันนี้ก่อตัวขึ้น แล้ว จากนี้ไป ใต้ฟ้ านี้จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น” เย่ฉิงซวนตะโกน อย่างเงียบ ๆ ในหัวใจ
เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตื่นตัวและสงบสติอารมณ์ ใบหน้าซีด อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ซีดกว่าใบหน้าของคนที่ตายไปแล้วสิบวันเสีย อีก
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ชิวแทบจะอดขาไม่ได้ ช่างประหลาดยิ่ง นี่ใช่ นายน้ยสารเลวจริงหรือไม่ อีกฝ่ ายจัดการมันได้เก่งจริง ๆ หากเป็ น เขา เขาคงยกกระบี่ขึ้นมาเพื่อฟันใครสักคน แต่อีกฝ่ายก็ยังทนได้
เย่ชิวกลั้นเสียงหัวเราะ มองไปที่เย่ฉิงซวนอย่างจริงจังและพูดว่า “นายน้อยเย่ เจ้ามีอะไรอีกหรือไม่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ฉิงซวนก็ยิ่งโกรธ “ฮึ่ม!”
เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ข้าจะทาอย่างไรได้ ในเมื่อท่าน เทพ มีธุระ ข้าจะไม่รบกวนเจ้า ไว้…ค่อยคุยกันวันอื่นเถอะ”
เย่ฉิงซวนลากค าว่า ‘อื่น’ เขากัดฟันและเน้นย้ําอย่างจงใจ
เมื่อเย่ชิวได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู ้สึกมีความสุขในใจเช่นกัน แต่ดูผิว เผินแล้วเขามีท่าทางสมเพช “โอ้ ถ้าเช่นนั้นข้าไม่ส่ง! ดูแลตนเองด้วย นายน้อยเย่ เรายังต้องเดินทางอีกยาวไกล”
หลังจากพูดเช่นนั้น เย่ชิวก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ อีกครั้ง
“เอาล่ะ… หนทางยังอีกยาวไกล” ด้วยเหตุนี้ เย่ฉิงซวนก็จากไป ด้วยความโกรธ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายออกไป ฮุ่ยไฉ่อี้ก็รู ้สึกผิดเล็กน้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะ เกิดอะไรขึ้น ตระกูลของนางและตระกูลเย่ก็เป็ นพันธมิตรกัน
“นายน้อย ขอโทษที่รบกวนเจ้าในวันนี้ ข้าขอตัวก่อนแล้ววันหลัง ค่อยคุยกันใหม่” เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฮุ่ยไฉ่อี้ก็รีบแก้ตัว
เย่ชิวพยักหน้า “เอาล่ะ เทพธิดา ดูแลตนเองด้วย ถ้าวันอื่นเจ้ามี เวลา เชิญมาได้ ข้าจะต้อนรับเจ้าอย่างแน่นอน”
“อืม” ฮุ่ยไฉ่อี้พยักหน้า แล้วกลายเป็ นลมกระโชกเบา ๆ แล้วบิน ออกไป
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ชิวค่อย ๆ หายไปเมื่อเขามองดูนางจาก ไป “ธิดาศักดิ์สิทธิ์เยียวยาสวรรค์! อืม… เหลียนเอ๋อ เหลียนเอ๋อ เจ้ามี คู่แข่งมากมายจริง ๆ ข้าจะก าจัดอุปสรรคให้เจ้าอย่างไรดี”
จากการสนทนาก่อนหน้านี้ เย่ชิวรู ้ถึงตัวตนและภูมิหลังของฮุ่ย ไฉ่อี้แล้ว เขารู ้สึกขมขื่น เขาไม่คิดว่าเหลียนเฟิงจะมีคู่แข่งมากมาย ขนาดนี้ แต่ละคนน่ากลัวกว่าคนอื่นและมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม หาก ผลตัดสินออกมาจริง ๆ มันคงไม่ใช่การต่อสู้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ฮุ่ยไฉ่อี้ก็ยังน่าพึงพอใจ ผู้หญิงคนนี้อ่อนโยนมากและไม่ใช่คนที่ต่อสู้เพื่ออานาจ แม้ว่านางจะ ล้มเหลวจริง ๆ นางก็จะไม่เสียใจเกินไป
ความคิดนี้เป็ นความคิดที่ดีมาก ไม่เหมือนหลู่จือ ที่ยอมทาทุก อย่างเพื่อให้บรรลุเป้ าหมาย เมื่อคนอย่างนางล้มเหลว นางคงจะ สาปแช่งชั่วนิรันดร ์
MANGA DISCUSSION