ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 95 ตกใจเสียจนใบหน้าซีดเผือด
"เธอส่งเสียงร้องให้ดังกว่านี้อีกหน่อยสิ!" แววตาของลี่เย่ถิงเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เขาจ้องมองมาที่เธอแล้วเอ่ยขึ้นว่า "แบบนี้คนข้างนอกก็ไม่ได้ยินกันพอดี"
เฉียวเหวยอีที่ถูกน้ำจากฝักบัวสาดใส่จนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น มองกลับที่เขาแล้วพูดตอบกลับด้วยศักดิ์ศรีที่ยังหลงเหลืออยู่น้อยนิด "ลี่เย่ถิง คุณจะมาทำแบบนี้ที่นี่ไม่ได้!"
คำพูดเจือไปด้วยความอ้อนวอนร้องขอความเมตตา
เขาสามารถที่จะเหยียบและย่ำยีเกียรติและศักดิ์ศรีของเธอให้อยู่ที่แทบเท้าได้ แต่ว่ากลุ่มคนที่เดือนหน้านี้ เธอก็จะต้องคลุกคลีทำงานด้วยตั้งแต่เช้าจรดค่ำนั้นอยู่ที่ด้านนอกหมดเลย! ถ้าจะทำก็ไปทำที่อื่น ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่!
ลี่เย่ถิงกลับแค่นรอยยิ้มอันเย็นเยียบออกมา บีบเอวของเธอแน่น แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นวาบ "ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน แล้วหากต้องการเธอ เธอก็ไม่มีสิทธิ์เลือกทั้งนั้น!"
เมื่อคำพูดของเขาถูกเปล่งเป็นวาจาออกมา จิตใจของเฉียวเหวยอีก็พลันตกลงสู่ก้นบึ้งที่จมดิ่งลึกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะที่เขาก้มหน้าลงเพื่อเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ขึ้นนั้น เธอกัดฟันแน่นแล้วพูดลอดไรฟันด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า "แล้ว ความรู้สึกที่ได้บีบขยี้ของเล่นที่อยู่ในมือแบบนี้ คงจะรู้สึกดีไม่น้อยเลยใช่ไหม"
"เฉียวเหวยอี เธอไม่มีสิทธิ์ถามคำถามนี้" ดวงตาทั้งสองข้างของลี่เย่ถิงหรี่ลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงขรึม
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะตัวของเธอเอง ที่เป็นคนเริ่มเรื่องทุกอย่างนี้
เฉียวเหวยอีสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วพูดว่า "แต่ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะผิดคำสัญญากับซุ่ยซุ่ยเลย คุณเองก็รู้ว่าเป็นเพราะเกิดเรื่องขึ้นกับกู้หลิงเฟิง! ฉันเองก็ได้เตรียมของขวัญให้กับซุ่ยซุ่ยไว้ก่อนหน้าแล้ว!"
แววตาอันเสียดสีเหยียดหยามของลี่เย่ถิงฉายชัดปรากฏให้เห็น "แล้วไหนของขวัญล่ะ?"
"ของขวัญ………" เฉียวเหวยอีพูดออกมาได้เพียงแค่สองพยางค์ ทันใดนั้นก็พลันนึกขึ้นได้ว่า ลี่เย่ถิงไม่รู้ว่าเธอได้ส่งของขวัญไปให้ซุ่ยซุ่ย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ถามออกมาเช่นนี้
ซูหรูเยียน ไม่ได้เอาปี่เซียะหยกดำไปให้ซุ่ยซุ่ย
ลี่เย่ถิงได้ยื่นโอกาสให้เธอไปแล้ว
น้ำที่ออกมาจากฝักบัวเปลี่ยนกลายเป็นน้ำอุ่น ใบหน้าของเฉียวเหวยอีกลับซีดเซียว
"ปลดสายเข็มขัดหนังออกซะ" ลี่เย่ถิงกระชากแขนของเธอเข้ามา พูดทีละพยางค์อย่างชัดเจน
เฉียวเหวยอีสบเข้ากับดวงตาเขา แววตาอันเย็นเยียบของเขา ได้ทิ่มแทงเข้าไปในกระดูกของเธอ ทำให้เธอควบคุมอาการสั่นสะท้านของตัวเองไม่ได้
นิ้วเรียวยาวของเธอยังไม่ทันที่จะได้สัมผัสเข้ากับกางเกงของเขา ดวงตาที่ลุ่มลึกยากจะหยั่งถึงก้นบึ้งของลี่เย่ถิงก็พลันจ้องเขม็งมาที่เธอ
หัวเข่าของเฉียวเหวยอียันอยู่ที่พื้นกระเบื้องจนเธอรู้สึกเจ็บ
ลี่เย่ถิงกัดเข้าไปที่ริมฝีปากของตนเองแน่น
เฉียวเหวยอีถูกเขาอุ้มออกมาจากห้องน้ำ แล้วถูกเหวี่ยงทิ้งลงไปบนโซฟา
"เย่ถิง คุณอยู่ในนี้ไหม" ไม่อาจทราบได้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ที่ด้านนอกประตู ก็พลันมีเสียงของซูหรูเยียนดังลอดเข้ามา
ไม่กี่วินาทีต่อมา เสื้อคลุมชุดสูทที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา ก็ถูกปกคลุมลงไปบนตัวเธอที่กำลังนอนขดตัวอยู่
เธอหลับตาลงแน่น แล้วถามเขาออกไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา "ปล่อยกู้หลิวเฟิงไปได้ไหม"
เขาถือว่านี่เป็นการทำธุรกิจ ถ้าอย่างนั้นเธอเองก็สามารถทำธุรกิจได้ด้วยเช่นกัน เธอมีข้อเรียกร้อง
ลี่เย่ถิงอดที่จะขมวดคิ้วออกมาไม่ได้ มองไปยังร่างที่แสนอ่อนแอที่ขดตัวหันหลังให้เขา
"เย่ถิง?" ซูหรูเยียนเคาะประตูเบาๆ ลงอีกครั้ง
ลี่เย่ถิงไม่ได้ส่งเสียงอะไร หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วหาเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่ง กดโทรออกแล้วพูดด้วยเสียงขรึมทุ้มต่ำ "เปลี่ยนห้องรับรอง"
เฉียวเหวยอีนอนทอดกายอยู่บนโซฟาโดยที่ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว รู้สึกปวดหัวจนแทบบ้า ผ่านไปสักพัก เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีควานหาโทรศัพท์ของตนเอง จากนั้นจึงปาดหยดน้ำที่อยู่บนหน้าจอ แล้วโทรออกไปหาหยวนเป่า
10 นาทีต่อมา หยวนเป่ารีบเข้ามาหา เห็นเฉียวเหวยอีนอนอยู่ข้างในห้องพัก เธอตกใจมากเสียจนใบหน้าซีดเผือด