ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 59 นึกว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว
อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ขนาดซูหรูเยียนกับผู้จัดการเองก็ยังได้ยินถึงความแตกต่าง พวกเขาทำได้ไม่ดีเท่าอันหนิง
สักพัก ผู้จัดการก็ปิดเพลงไปอย่างเงียบๆ ยังพยายามพูดขึ้น“เปลี่ยนโทนเสียงก็ไม่เป็น ร้องได้กระตุกขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าชาวเน็ตเหล่านั้นติดตามเธอไปทำไม”
“ใช่ ร้องกระตุกจริง”เฉียวเหวยอีมองอีกฝ่ายยิ้มๆ พูดตามว่า“พวกคุณไม่ต้องไปสนใจนักร้องโคฟเวอร์แค่คนเดียวหรอก อีกฝ่ายอาจจะแค่ร้องเล่นๆก็ได้”
พูดแบบนี้ สีหน้าของซูหรูเยียนก็ยิ่งดูแย่ลง
อีกฝ่ายแค่ร้องเล่นๆ ก็ร้องได้น่าฟังกว่าเธอที่เป็นมืออาชีพ เหมือนโดนตบหน้าเสียงดัง“เพียะเพียะ”
ผู้จัดการที่อยู่ข้างๆยังอยากจะพูดอะไรต่อ ซูหรูเยียนรีบขัดเธอไว้พูดว่า“หวังลี่ว์ เธอออกไปก่อน ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเหวยอีแค่สองคน”
ปล่อยให้หวังลี่ว์พูดต่อ ซูหรูเยียนคงต้องขายขี้หน้ามากกว่านี้!เทียบกับหยวนเป่าแล้ว ผู้จัดการคนใหม่หวังลี่ว์คนนี้ดูโง่จนไม่มียารักษา!
เฉียวเหวยอีใกล้จะแต่งหน้าเสร็จแล้ว คนของซูหรูเยียนก็ออกไปหมดแล้ว คิดพักหนึ่ง ก็พูดกับช่างแต่งหน้าของตัวเองสองคนว่า“พวกเธอไปดูหน่อยว่าหยวนเป่าเลือกเสื้อผ้าเป็นยังไงบ้าง”
หนึ่งนาทีต่อมา ในห้องก็เหลือแค่ซูหรูเยียนกับเฉียวเหวยอีสองคน
ซูหรูเยียนนิ่งไปพักหนึ่ง ลุกขึ้น หยิบบุหรี่สำหรับผู้หญิงออกมาหนึ่งซอง เดินไปที่หน้าต่าง หยิบบุหรี่ขึ้นมา ดูมีความชำนาญมาก
ขณะที่จุดไฟ ก็นึกอะไรขึ้นได้ หันกลับไปถามเฉียวเหวยอีว่า“เธอถือไหม?”
“ไม่เป็นไร เธอสูบเถอะ”เฉียวเหวยอีตอบกลับไปเฉยๆ
ซูหรูเยียนจุดบุหรี่ สูบเข้าไปหนึ่งครั้ง จ้องจุดแดงๆตรงหัวบุหรี่ ไม่พูดอะไรเลยสักพัก
จนบุหรี่ใกล้จะไหม้หมดม้วน ถึงได้หันไปหาเฉียวเหวยอีอีกครั้ง“ฉันนึกว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว”
“ฉันเองก็คิดแบบนั้น คิดว่าชาตินี้คงจะไม่กลับมาอีก”เฉียวเหวยอีตอบกลับนิ่งๆ
“เพราะงั้นเธอถึงได้ออกห่างจากทุกคน แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันหรอ”ซูหรูเยียนเบะปาก
เฉียวเหวยอีเงยหน้ามองเธอ นิ่งไปหลายวิ ตอบหลับ“ผู้อาวุโสบ้านฉันป่วยหนัก ร่างกายไม่ไหวแล้ว ฉันกลับมาก็เพราะจะมาดูใจเขา”
“เธอเซ็นสัญญากับถังอี้กี่ปี?”ซูหรูเยียนรีบถามกลับ
ที่ผ่านมาซูหรูเยียนก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว คำพูดเฉียบคม เดาออกได้เลยว่าต้องการสื่อถึงอะไร
“สัญญาชั่วคราว ละครหนึ่งเรื่อง”เฉียวเหวยอีตอบกลับยิ้มๆ
“อ๋อ……”ซูหรูเยียนนิ่งไปอีกครั้ง
บางครั้ง แค่คำพูดง่ายๆไม่กี่คำ ก็สามารถไขข้อสงสัยของอีกฝ่ายได้ ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องไร้สาระที่ไม่จำเป็น
เฉียวเหวยอีรู้ว่าซูหรูเยียนชอบลี่เย่ถิงมากๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอที่ตระะกูลลี่ ก็รู้เลยว่าซูหรูเยียนอาจจะกลัวว่าเธอกลับมาครั้งนี้ จะไม่ไปอีก
ซูหรูเยียนก็น่าจะเข้าใจ ว่าลี่เย่ถิงเกลียดเธอมากแค่ไหน
“จริงสิ เธอรู้ไหมผู้จัดการที่ถังอี้ให้เธอมีต้นกำเนิดยังไง?”ซูหรูเยียนสูบบุหรี่คำสุดท้ายหมด ขณะที่กำลังทิ้งก้นบุหรี่ ก็ถามเฉียวเหวยอีขึ้นอีกครั้ง
“ไม่รู้”เฉียวเหวยอีตอบไปตามจริง
แต่สิ่งที่ถังอี้ให้เธอ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ยังไงซะเขาก็เคยเป็นผู้จัดการของซูหรูเยียน ดังนั้นไม่มีทางแย่แน่
“อ่า……”ซูหรูเยียนหัวเราะอีกครั้ง“บางครั้งนะ ฉันไม่รู้จริงๆว่าเธอเสแสร้ง หรือจิดใจเธอเรียบง่ายจริงๆ”
“หยวนเป่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของถังอี้ น้าของถังอี้เป็นผู้จัดการที่ดีที่สุดในวงการ หลายปีมานี้เธอค่อยๆออกแล้ว ยกหน้าที่ทั้งหมดให้ลูกสาวของเธอหยวนเป่า”
“อีกอย่างต้นกำเนิดของหยวนเป่า ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้”