ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 53 ในท้องแม่......
ปู่ของเขาดีกับเฉียวอีเหริน เพราะเฉียวอีเหรินเคยช่วยชีวิตเขาไว้ในสถานการณ์คับขัน ผู้อาวุโสท่านรู้สึกประทับใจ ก็เลยชอบเฉียวอีเหริน เพราะงั้นตระกูลลี่ถึงได้ไม่เคยปฏิเสธข่าวรือที่ว่าเฉียวอีเหรินจะกลายเป็นนายหญิงของตระกูลลี่
แต่เฉียวอีเหรินก็ส่วนเฉียวอีเหริน ตระกูลเฉียวก็ส่วนตระกูลเฉียว ไม่สามารถเหมารวมกันได้ เกรงว่าเฉียวเจิ้งกั๋วไม่เคยเข้าใจความจริงในเรื่องนี้
ขนาดเงินสิบล้านที่เขาให้เฉียวเหวยอี เฉียวเจิ้งกั๋วยังกล้าเก็บไว้เอง ช่างกล้าจริง
ลี่เย่ถิงถามอย่างใจเย็น ส่วนเฉียวเจิ้งกั๋วกลับร้อนรนจนแทบจะถือโทรศัพท์ไม่อยู่
ลี่เย่ถิงรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้เอาเงินสิบล้านให้เฉียวเหวยอี? เฉียวเหวยอีบอกเขาหรอ?แต่เฉียวเหวยอีไม่รู้เรื่องที่ตระกูลลี่เคยให้เงินมา เขากับซ่งชิงหรูสองคนแอบเอาเงินเข้าบริษัท!
“ให้เวลาคุณอีกสิบวิ”ลี่เย่ถิงไม่รีบร้อน ยังคงพูดกับโทรศัพท์ต่อ
“ขอโทษนะเย่ถิง!ตอนนั้นฉันโลภเอง มันเป็นความผิดของฉัน!คุณเป็นคนใจดีมีเมตตา ฉันรีบเอาเงินมาคืนดีไหม?”เฉียวเจิ้งกั๋วรีบขอโทษอย่างสำนึกผิด เสียงสั่นจนแทบจะฟังไม่ออกว่าพูดอะไร
แต่ลี่เย่ถิงกลับได้ยินชัดเจน
ดังนั้นหลายปีมานี้ที่เฉียวเหวยอีใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ไม่ได้มีชีวิตที่ดี ห้าปีไม่เปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเลยก็เป็นเรื่องปกติ
“นอกจากคุณปู่อยากเจออีเหริน ตั้งแต่วันนี้ไป คนตระกูลเฉียวห้ามก้าวเข้าไปในตระกูลลี่แม้แต่ก้าวเดียว”เขาตอบกลับไป“ใครกล้าไปขอร้องต่อหน้าคุณปู่แม้แต่คำเดียว เตรียมรับผลที่จะตามมาได้เลย”
พูดจบ ก็เอาผักที่ล้างเสร็จแล้วใส่จาน แล้ววางสาย
“ตรวจสอบปัญหาทรัพย์สินของตระกูลเฉียว ถอนออกมาห้าสิบล้าน โอนเข้าบัญชีเฉียวเหวยอี”เขาคิดพักหนึ่ง ก่อนจะพูดกับอู๋โยวเสียงต่ำ
“ครับ เข้าใจแล้วครับ”
เฉียวเหวยอีที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกได้ยินชัดเจน
เธอจ้องมองไปที่ร่างสูงที่อยู่ในครัว ในใจกลับรู้สึกสับสน
ที่แท้ เขาไม่ได้ไม่สนใจเธอ หลายปีมานี้ เขาไม่ใช่แบบที่เธอคิด ที่ว่าไม่ถามไถ่ไม่สนใจไม่ดูแลเธอ
เขาเคยให้เงินเธอ แต่เพราะเกลียดเธอมาก แม้ว่าในปีที่เธอจะไปต่างประเทศอยากจะเจอเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่ยอมเจอกับเธอ
แต่ก็ช้าเกินไป ถ้าหากเขารู้ตัวเร็วกว่านี้ ลูกของพวกเขาคงไม่มีทางตายอยู่ในท้องเธอ
ตอนกลางคืนเธอมักจะฝันร้าย ฝันเห็นหน้าของลูกเต็มไปด้วยเลือด ตอนนั้นเหลืออีกแค่เดือนกว่าๆเขาก็จะคลอดออกมาแล้ว ขนาดชื่อของลูกเธอก็ได้คิดไว้แล้ว ชื่อเฉียวปู๋เนี่ยน
“พี่สาว……”ข้างๆ อยู่ๆซุ่ยซุ่ยก็วางเค้กลง หันตัว ค่อยๆปีนเข้าไปนั่งในตักของเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา ซุ่ยซุ่ยนั่งอยู่ตรงกลางพอดี หันหน้าเข้าหาเธอ เงยหน้ากอดคอเธอไว้
“เป็นอะไรหื้ม?”เฉียวเหวยอีรู้สึกตัว ก็บีบเบาๆที่แก้มของเขา
ซุ่ยซุ่ยเอาคางวางไว้บนฝ่ามือของเฉียวเหวยอี ใบหน้าเล็กๆนั้นเหมือนแป้งกลมๆดูน่ารัก
ลี่เย่ถิงเก็บวัตถุดิบทั้งหมดแล้ว หันหลังมองไปที่ห้องรับแขก
เฉียวเหวยอีกำลังก้มหน้า ใช้หน้าผากตัวเองอิงเข้ากับหน้าผากของซุ่ยซุ่ยเบาๆ กำลังวัดอุณหภูมิอยู่ แม้ซุ่ยซุ่ยจะมีไข้สูง แต่ก็ไม่ลืมแกล้งเฉียวเหวยอี จู๋ปากเล็ก จุ๊บเข้าที่ปลายจมูกของเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีอดยิ้มไม่ได้ จากนั้นหันไปมองเขาพูดว่า“ซุ่ยซุ่ยมี……”
พูดไม่กี่คำ ก็พบว่าลี่เย่ถิงมองพวกเขาสองคนอยู่ก่อนแล้ว คำพูดที่อยู่ปลายปากก็หยุดลง
ลี่เย่ถิงเช็ดมือ หันตัวเดินมาทางพวกเขา ถามขึ้นว่า“เป็นอะไร?”
เฉียวเหวยอีนิ่งไปหลายวิ ก่อนจะตอบกลับว่า“เขาบอกว่ารู้สึกอยากอ๊วก ฉันรู้สึกว่าไข้จะขึ้นอีกแล้ว”
ตั้งแต่เล็กจนโต เธอแทบไม่เคยเห็นลี่เย่ถิงมีสายตาอ่อนโยนแบบเมื่อกี้มาก่อน เขารักซุ่ยซุ่ยมากจริงๆ
ถ้าสมมติ ซุ่ยซุ่ยเป็นลูกของซูหรูเยียน ลี่เย่ถิงก็น่าจะรักซูหรูเยียนมากๆ
ลี่เย่ถิงรีบอุ้มซุ่ยซุ่ยจากอ้อมกอดของเธอ เอามือแตะที่หน้าผากของเขา พูดว่า“ไม่เป็นไร เขาร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก มีไข้ประจำ ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่……”
พูดถึงแค่ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดลง