ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 47 ลูกชายของซูหรูเยียนเหรอ?
"เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พวกเขาไปร่วมงานแฟชั่นโชว์ในต่างประเทศ และไม่รู้ว่าคุณลี่เอาเฉียวอีเหรินไปวางไว้ที่ตำแหน่งไหน หลังจากที่มีข่าว เฉียวอีเหรินก็หายตัวไป ผู้ชายนะผู้ชาย … …. "
หยวนเป่ากล่าว เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นบนใบหน้าเฉียวเหวยอีจึงถามเธอทันที "เป็นอะไรไป ไม่สบายเหรอ? "
เฉียวเหวยอีมองไปยังคู่รักที่กำลังกอดกันอยู่ในร้านเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจ้องมองกลับมายิ้มให้หยวนเป่าและพูดว่า "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กลับกันเถอะค่ะ"
หยวนเป่าคิดว่าเฉียวเหวยอีดูแปลกไป เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเธอยังเลือกเสื้อผ้าอย่างมีความสุขอยู่เลย
อย่างไรก็ตามหากเฉียวเหวยอีไม่อยากพูด เธอก็ไม่สามารถถามอะไรได้
เมื่อกลับมาที่บริษัท เฉียวเหวยอีไปที่สตูดิโอเพื่อถ่ายภาพโปรโมตหลาย เธอนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร จนดูผิดปกติ
หยวนเป่ากลับไปที่ห้องแต่งตัวพร้อมกับเธอและถามเธอว่า "ให้ฉันไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนไหม? "
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันมีธุระต้องจัดการ ขอตัวกลับก่อนนะคะ” เฉียวเหวยอีตอบเบา ๆ
แม้ว่าหยวนเป่าจะบอกว่าตอนนี้เธอสนิทกับเฉียวเหวยอี แต่ก็เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน
หลังจากคิดได้แล้วเธอก็ตอบว่า "โอเค งั้นฉันไปก่อนนะ"
เฉียวเหวยอีอยู่คนเดียวในห้องแต่งตัว เธอล้างเครื่องสำอางบนใบหน้า เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว งานแถลงข่าวของลี่เย่ถิงและซูหรูเยียนดูเหมือนจะจบลงในเวลาบ่ายสองครึ่ง เธอคงจะไปพบลี่เย่ถิงได้แล้วในตอนนี้
ทันทีที่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็มีเสียงที่ด้านนอกประตู
"… เพิ่งมาก็แย่งผู้จัดการส่วนตัว ทำให้พี่หรูเยียนขุ่นเคืองซะแล้ว เฉียวเหวยอียังกล้าอยู่บริษัทนี้ได้ยังไงกัน?"
“ใช่ ตระกูลลี่เห็นแก่หน้าของพี่หรูเยียนเลยมอบเงินลงทุนร้อยล้านให้กับบริษัท ตอนที่พี่หรูเยียนออกเพลงใหม่ คุณลี่ก็มาด้วยตัวเอง แค่นี้ยังไม่ชัดเจนพออีกหรือไง?”
“แล้วไหนจะลูกชายของคุณลี่อีก ทุกคนต่างก็บอกว่าพี่หรูเยียนแอบคลอดเด็กคนนี้ไม่ใช่เหรอ? บริษัทกล้าที่จะไม่ไว้หน้าหล่อนเหรอ?”
"พูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ เฉียวอีเหรินก็เป็นถึงว่าที่นายหญิงน้อยตระกูลลี่ไม่ใช่เหรอ? ต่อให้ทำผิดกับเฉียวเหวยอี ท่านประธานก็คงจะจัดการได้"
"ถูกต้อง เฉียวเหวยอีมีท่านประธานคอยให้ท้ายอยู่ และวันนี้เซียวเซียวเห็นเธอลงจากรถพอดี บอกว่าเธอขับรถเบนซ์ราคาสองล้านมาด้วยนะ"
"ต้องเป็นของท่านประธานแน่ๆ ! แม้แต่พวกเราบางคนก็ไม่สามารถซื้อรถคันนั้นได้ … "
เฉียวเหวยอีฟังคำซุบซิบของคนภายนอก การเคลื่อนไหวของมือของเธอค่อยๆ หยุดลง
ซุ่ยซุ่ยเป็นลูกชายของซูหรูเยียนเหรอ?
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขายังบอกไม่ชอบเธออยู่เลย
ในขณะที่พวกเธอกำลังคุยกันก็เปิดประตูและเดินเข้าไป เฉียวเหวยอีใส่รองเท้าของเธอกำลังจะจากไป แต่กลับเจอกันพอดี
ห้องตกอยู่ในความเงียบที่น่าอึดอัดและไม่มีใครรู้ว่าจะพูดอะไร
‘’เหวยอี คุณก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ” หนึ่งในนั้นถามกระซิบถามเธอ
เฉียวเหวยอียิ้มให้ และตอบอย่างใจเย็น "ใช่ เพิ่งออกมาจากห้องลองชุดน่ะ"
ทุกคนรู้ว่าเฉียวเหวยอีโกหก แต่พวกเธอไม่มีอะไรจะพูดมากนัก จึงแก้ตัวและจากไปทีละคน
เฉียวเหวยอีมองไปยังห้องที่ว่างเปล่า เธออดไม่ได้ที่จะโค้งงอปากเล็กน้อย
ข่าวลือนี่แพร่กระจายได้รวดเร็วจริงๆ
เมื่อไม่มีเสียงใด ๆ ในทางเดิน เธอจึงลุกขึ้นและไปชั้นบนที่ห้องทำงานของลี่เย่ถิง
ทำงานของลี่เย่ถิงอยู่ในห้องที่ห่างไกลในชั้นบนสุด แยกจากถังอี้และคนอื่น ๆ
ชั้นบนเงียบและดูเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นั่น
เฉียวเหวยอีเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว ในขณะกำลังจะเคาะประตูก็พบว่าประตูนั้นปิดไม่สนิท และมีรองเท้าส้นสูงสีดำแดงติดอยู่ข้างประตู
เฉียวเหวยอีจำได้ว่ารองเท้าคู่นี้เป็นของซูหรูเยียน เธอสวมรองเท้าคู่นี้เมื่อตอนที่พบกันในห้างสรรพสินค้า