ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 45 หน้าตาคล้ายกัน
เธอไม่ปฏิเสธอีกต่อไป สุ่มเลือกกุญแจรถที่ดูเหมือนจะมีราคาถูกที่สุด เมื่อรอซุ่ยซุ่ยใส่รองเท้าเสร็จลงไปชั้นล่าง รถก็มาจอดรออยู่แล้ว
พวกเขาก็ยังทำตัวโอเวอร์เกินจริงเหมือนเดิม เธอคิดว่าเธอได้สุ่มเลือกรถเบนซ์ที่ราคาต่ำที่สุดแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่ามันคือรถเบนซ์ระดับ s
เธอขับรถราคาเกือบสองล้านออกมา ก็ไม่แปลกที่คนอื่นจะซุบซิบนินทา
เหตุผลที่เฉียวเหวยอีไม่ซื้อรถในจีน เพราะว่าข้อหนึ่ง…เธอไม่ได้มีความตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ข้อสองก็คือเด็กที่อายุยี่สิบต้นๆ ที่กำพร้าพ่อแม่ หากสามารถซื้อรถเองได้คงจะดูไม่ค่อยดีเท่าไร
สถานะพิเศษของเธอ ยิ่งต่ำต้อยยิ่งดี
อู๋โยวมองไปที่เธอและถามเบา ๆ "เป็นอะไรครับ ไม่ชอบงั้นเหรอครับ? "
เฉียวเหวยอีมองเขาและแอบถอนหายใจ ไม่พูดถึงรถคันอื่น ขนาดคันนี้เป็นคันที่ราคาถูกที่สุดแล้วนะ
"ไม่มีอะไรค่ะ" เฉียวเหวยอีตอบ
หลังจากนั้นเธอก็พาซุ่ยซุ่ยขึ้นรถและพาเขาออกไปทานอาหารเช้า
อู๋โยวเฝ้าดูการจากไป และในขณะที่เขาหันหลังเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
คนที่ขับรถเบนซ์เป็นครั้งแรก ไม่ควรจะดูคุ้นชินและเป็นธรรมชาติขนาดนั้นสิ
เฉียวเหวยอีดูมีความชำนาญในการใช้งานมาก
เฉียวเหวยอีเคยขับรถเบนซ์งั้นเหรอ?
ถ้าพูดตามหลักเหตุผลแล้วก็คงจะไม่เคยขับนั่นแหละ
……
เมื่อเฉียวเหวยอีพาซุ่ยซุ่ยออกไป สายตาของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนในห้องรักษาความปลอดภัยก็เปลี่ยนจากความสับสนเป็นความเข้าใจ
เมื่อวานเฉียวเหวยอีพูดว่าเขาคือน้องชายของเธอ แต่ดูเหมือนไม่มีใครเชื่อ
เธอรู้สึกรำคาญเล็กน้อยเมื่อเธอลงจากรถ เธอก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าด้วยความไม่พอใจและจ้องไปที่ซุ่ยซุ่ยที่กำลังชูนิ้ว
ซุ่ยซุ่ยตระหนักว่าเฉียวเหวยอีมองมาที่เขา จึงเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้เฉียวเหวยอีด้วยความรัก
“วันนี้เธออยากกินอะไร?” เฉียวเหวยอีได้แต่แอบถอนหายใจอย่างลับๆ เมื่อหันหน้าไปทางเด็กน้อยที่มีความน่ารัก ความข้องใจของเธอก็ถูกกลืนลงไป
"ซาลาเปา" ซุ่ยซุ่ยตอบอย่างยากลำบากหลังจากพิจารณาอยู่สักครู่
เมื่อวานนี้เฉียวเหวยอีพาเขาไปกินแพนเค้กต้นหอมและเต้าฮวยเป็นอาหารเช้า ซึ่งเปิดหูเปิดตาเขาเป็นอย่างมาก !
ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยกินของพวกนี้มาก่อน ! แม้ว่าตระกูลลี่จะบอกว่าอาหารเช้าทุกมื้อเต็มไปด้วยติ่มซำชั้นเลิศ แต่อาหารเช้าที่เขาทานก็ไม่อร่อยเท่าแพนเค้กต้นหอมของเมื่อวาน !
"โอเค" เฉียวเหวยอีพาเขาไปที่ร้านขายอาหารเช้าตรงหัวมุมและสั่งซาลาเปาหอม ๆ สองอัน
ทันทีที่เปิดฝาขนาดใหญ่ ซุ่ยซุ่ยก็อดไม่ได้ที่ส่งเสียงร้องว่า “ว้าว !”
"จะเอาน้ำเต้าหู้หรือว่าเต้าฮวยดีล่ะ" เฉียวเหวยอีถามเขา
"เต้า…ฮวย" ซุ่ยซุ่ยตอบ
ซุยซุ่ยรู้จักเพียงน้ำเต้าหู้ แต่ไม่เคยได้ยินคำว่าเต้าฮวยมาก่อน ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาอย่างยากลำบากเล็กน้อย
เขาเอียงศีรษะเล็กน้อยและมองดูคุณลุงที่ขายอาหารเช้าตักเต้าฮวย เขางงเล็กน้อย "พี่สาว เต้าฮวยทำมาจากสมองของเต้าหู้เหรอครับ? "
“ห้ะ !” เฉียวเหวยอีแทบสำลักน้ำลายตัวเอง
คุณลุงมองดูทั้งสองคนอย่างร่าเริง "เด็กน้อยน่ารักมาก เธอโชคดีจังเลยนะที่เป็นแม่คนตั้งแต่ยังวัยรุ่น ! "
"ฉันไม่ใช่แม่ของเขาค่ะ" เฉียวเหวยอีตอบด้วยสีหน้าแดงก่ำ
"โอ้ ฉันเข้าใจผิดไปสินะ ฉันคิดว่าเธอสองคนดูหน้าตาคล้ายกันน่ะ… " คุณลุงพึมพำอย่างเขินอาย
เฉียวเหวยอีตกตะลึง เธอก้มศีรษะลงและมองไปที่ซุ่ยซุ่ยอย่างระมัดระวัง คล้ายเหรอ?
สงสัยว่าคุณลุงจะแก่จนสายตาพร่ามัวเสียมากกว่า
เฉียวเหวยอีรีบส่งซุ่ยซุ่ยไปโรงเรียนอนุบาล ครูเวรที่หน้าประตูโรงเรียนที่รู้จักเฉียวเหวยอีได้มและกล่าวทักทาย " คุณแม่ลี่ซือเฉียว วันนี้คุณดูสวยมากเลยค่ะ! "
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เฉียวเหวยอีได้อธิบายไปหลายครั้งแล้วว่าเธอไม่ใช่แม่ของซุ่ยซุ่ย จนเริ่มรู้สึกหมดหนทางแล้ว