ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 414 จิตใจโหดเหี้ยม
เฉียวเหวยอีไม่เข้าใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมใจของคนคนหนึ่งถึงสามารถใส่คนสองคนได้ในเวลาเดียวกัน?
เขาต้องการปกป้องเฉียวอีเหริน? แล้วเธอล่ะ เป็นอะไรสำหรับเขา?
สิ่งที่เฉียวอีเหรินทำกับเธอ เธอสมควรได้รับมันใช่ไหม?
เฉียวเหวยอีก้าวถอยหลัง จู่ๆ ก็สัมผัสบางอย่างที่ด้านหลังของเธอ
เธอคิดว่าเธอชนใครคนหนึ่ง จึงหันกลับมาขอโทษ “ขอโทษ…”
ทันทีที่เธอพูด เธอเห็นคนที่นั่งรถเข็นอยู่ข้างหลังเธอคือเฉียวอีเหริน
“พี่ มาคุยกันเถอะ” เฉียวอีเหรินมองมาที่เธอ ยิ้มให้เธอและกระซิบ
เฉียวเหวยอีมองไปที่เธอและพูดอย่างเคร่งขรึม “เธอกับฉันเราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
เฉียวอีเหรินยิ้มและจ้องไปที่เธอ “ตอนนี้ฉันเป็นแค่คนพิการคนหนึ่ง เป็นขยะที่น่ารังเกียจ พี่จะกลัวอะไร? มาคุยเรื่องลี่เย่ถิงกันเถอะ”
……
ชั้นดาดฟ้าโรงพยาบาล
เฉียวอีเหรินนั่งอยู่บนรถเข็น เอื้อมมือออกไปที่หิมะอย่างช้าๆ ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า และแก้มสีชมพูของเธอเปลี่ยนเป็นสีซีดเผือดดูป่วยเล็กน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความหนาวเย็น
เฉียวเหวยอีที่ยืนอยู่ข้างประตูเหล็กตรงทางเข้าดาดฟ้า จ้องมองเธออย่างเงียบๆ
เธอไม่ได้มาดูว่าเฉียวอีเหรินน่าสงสารแค่ไหน แค่เธอเห็นหน้าเฉียวอีเหรินเธอก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว
หน้าหวานแต่จิตใจโหดเหี้ยม
เฉียวอีเหรินหันกลับมามองเฉียวเหวยอีแล้วถามเธอเบาๆ ว่า “พี่จำได้ไหมว่าในฤดูหนาวครั้งหนึ่ง มีหิมะตกหนักมาก พวกเราไปเล่นสกีบนภูเขาด้วยกัน และลี่เย่ถิงก็ไปด้วย”
เฉียวเหวยอีจ้องมาที่เธออย่างเงียบๆ ความเยือกเย็นและความไม่อดทนปรากฏขึ้นภายใต้ดวงตาของเธอ
แน่นอนว่าเธอจำได้
เมื่อเฉียวอีเหรินเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร เธอก็พูดต่อว่า “ตอนที่เราเล่นสกีด้วยกัน พี่บังเอิญตกลงไปในคูน้ำที่ไม่มีใครรู้จัก และข้อเท้าแพลง”
“ไม่มีใครรู้ว่าพี่ตกลงไปที่ไหน ตะโกนเรียกพี่ก็ไม่ตอบ และกลางดึกพวกเราก็ออกไปช่วยกันตามหาพี่”
เฉียวอีเหรินไม่พูดเสียยังดีกว่า พอพูดถึงมันทำให้เฉียวเหวยอีอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
ย้อนกลับไปในตอนนั้น อุบัติเหตุของเธอเกิดจากความเสียหายที่มนุษย์สร้างขึ้นกับอุปกรณ์สกีของเธอ
เธอหล่นลงไปในคูน้ำลึกอย่างควบคุมไม่ได้ หลังจากที่เธอตกลงไปในคูน้ำ หน้าผากของเธอได้รับการกระแทกอย่างแรง อยู่ในอาการโคม่าอยู่พักหนึ่งก่อนจะขาดการติดต่อกับทุกคน
เธอรู้อยู่เสมอว่าเป็นฝีมือของเฉียวอีเหริน
ในตอนนั้นกล้องวงจรปิดยังไม่พัฒนาเท่าปัจจุบันนี้ เธอรู้ดีว่าพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ จึงเลือกที่จะไม่พูดออกไป
“มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ฉันไม่ได้มีเวลามาฟังเธอพูดเรื่องไร้สาระหรอกนะ” เธอเบ้ริมฝีปากและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เฉียวอีเหรินยังคงหมกมุ่นอยู่กับเหตุการณ์นั้น ราวกับว่าเธอไม่ได้ยินสิ่งที่เฉียวเหวยอีพูด และยังคงกระซิบต่อไปว่า “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นลี่เย่ถิงคลั่งมาก เขาเดินไปเองคนเดียวและได้พบกับหลุมหิมะ ”
“ในตอนนั้น ฉันเป็นห่วงเขามาก และตามเขาไปอย่างเงียบๆ ไม่ไกลนักเขาโดนหิมะฝังไว้ แล้วฉันก็ช่วยเขา”
เฉียวอีเหรินและลี่เย่ถิงติดอยู่บนภูเขานานกว่าหนึ่งวันก่อนที่จะออกมได้ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาในช่วงเวลานี้
ก่อนที่พวกเขาจะออกมา ลี่เหิงได้เจอตัวเฉียวเหวยอี และสถานที่ที่เธอประสบอุบัติเหตุอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางสกี หลังจากดูกล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้ว ลี่เหิงก็ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฉียวเหวยอีอยู่ไม่ไกลและออกไปตามหาเธอ
ต่อมา เนื่องจากลี่เย่ถิงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก
แต่เฉียวเหวยอีจำได้อย่างชัดเจน
เมื่อเฉียวอีเหรินพูดถึงเรื่องนี้พลางยิ้มจางๆ ให้เฉียวเหวยอีและถามเธอว่า “พี่ไม่รู้สึกเหรอว่าตั้งแต่ตอนนั้นลี่เย่ถิงก็ปฏิบัติกับฉันไม่เหมือนเดิม?”