ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 402 ฉีกเธอเป็นชิ้นๆ
ซูหรูเยียนรู้ดีว่าติงหย่าหรูเกลียดชังเฉียวเหวยอีมาโดยตลอด และรู้สึกว่าเฉียวเหวยอีมักจะแกล้งป่วยเพื่อให้ลี่เย่ถิงรักใคร่เอ็นดู
เธอพิจารณาแล้วเดินตามติงหย่าหรูไปอย่างเงียบๆ
ปล่อยให้ติงหย่าหรูจัดการ และเธอรอดูความสนุกอยู่เฉย ๆ ก็ดีนะ
เฉียวเหวยอีเห็นว่าทั้งสองคนเดินเข้ามาหาเธออย่างมุ่งร้าย จึงพูดกับผู้จัดการที่อยู่ข้างๆ “ไปกันเถอะ”
ทันทีที่เสียงหายไป ติงหย่าหรูก็เหลือบมองขึ้นลงด้วยสายตาที่ดูถูกและพูดว่า “เธอมีเงินมากพอที่จะมากินอาหารที่นี้ได้ยังไงกัน?”
“หรือว่ามาทำงานรับแขกเหรอ?”
สายตาของเฉียวเหวยอีเย็นชาเมื่อเธอได้ยินคำพูดหยาบคายของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าติงหย่าหรูจะไม่ได้เข้าใจสถานการณ์พื้นฐานด้วยซ้ำ
ห้องส่วนตัวโรงแรมเอ็มเพอเรอร์ไม่เพียงแต่มีราคาแพงเท่านั้น และเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะจองโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้าสามหรือห้าเดือน
หล่อนน่ะโชคดีที่มาทานอาหารเย็นคืนนี้เพราะเธอเป็นคนที่ขอให้พวกหล่อนมา
“มองอะไรนักหนา?” ติงหย่าหรูอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเมื่อเธอเห็นเฉียวเหวยอีดูเฉยเมย “ไม่รู้ว่าเอ็มเพอเรอร์ตกต่ำขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร ธรณีประตูต่ำมาก แม้แต่คนที่ไม่เลือกปฏิบัติแบบนี้ก็สามารถเข้ามาได้”
“เธอคิดว่าตัวเองใส่สินค้าเลียนราคาสูงที่ซื้อจากโรงงานค้าส่ง แล้วจะแกล้งทำเป็นคนดังเพื่อจับผู้ชายน่ะ”
“การหายใจร่วมโลกเดียวกับคนอย่างเธอ มันทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย”
เฉียวเหวยอีได้ยินแต่ไม่ได้ตอบกลับ
ที่ด้านข้าง ซูหรูเยียนกล่าวขึ้น “พอเถอะหย่าหรู ทุกคนที่ชั้นบนกำลังรออยู่นะ”
“ถ้าป้าฟู่ถาม แล้วบอกว่าเฉียวเหวยอีทำให้พวกเราเสียเวลา เธอจะไม่สบายใจเอานะ”
ติงหย่าหรูฟังการชักชวนของซูหรูเยียน และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอีกครั้ง “พี่หรูเยียน พี่น่ะใจดีเกินไปแล้วนะ ทำไมพวกเราต้องยอมเธอล่ะ? เธอน่ะติดหนีพี่เย่ถิงไม่รู้ตั้งกี่พันล้านหยวน”
“ไม่ว่าหมาของตระกูลลี่หรือตระกูลฟู่ ถ้าได้เจอกับเธอก็มีสิทธิ์ฉี่ใส่เธอท้งหนั้น เธอน่ะติดหนี้พี่เย่ถิง เธอน่ะสมควรชดใช้ !”
“เธอพูดถูก” ในเวลานั้นเอง เฉียวเหวยอีพูดขึ้นอย่างกะทันหัน “ฉันติดหนี่พี่ถิง”
“พี่ถิงงั้นเหรอ !?” ติงหย่าหรูขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้และพูดอย่างประชดประชันว่า “เธอนี่มันหน้าด้านจริงๆ บังอาจเรียกชื่อด้วยความสนิทสนมแบบนี้ ! รอดูก่อนเถอะว่าพี่เย่ถิงเห็นเธอแล้วจะต้องฉีกเธอเป็นชิ้นๆ !”
“…”
เฉียวเหวยอีคิดว่าลี่เย่ถิงจะฉีกเสื้อผ้าของเธอเป็นชิ้นๆ เสียมากกว่า เธอมีเสื้อผ้าดีๆ สักกี่ชิ้นกันเชียว เธอจะต้องชำระบัญชีนี้กับลี่เย่ถิงในสักวัน
ในเวลานั้นเอง ผู้จัดการที่จากไปก็หันหลังและยื่นใบชำระเงินให้กับเฉียวเหวยอีและกล่าวว่า “คุณเฉียว นี่คือใบชำระเงิน จะให้เก็บไว้หรือนำไปให้ผู้อาวุโสฟู่ดี?”
“คิดเงินบัญชีของฉัน” เฉียวเหวยอีตอบเพียงแผ่วเบา
หลังจากได้รับใบชำระเงิน เธอก็หยิบบัตรเครดิตสำรองที่ลี่เย่ถิงมอบให้เธอออกจากกระเป๋าและส่งให้ผู้จัดการ
ติงหย่าหรูมองไปที่บัตรนั้นและตกตะลึง
ถ้าเธอเดาไม่ผิด นั่นมันบัตรเครดิตสำรองของลี่เย่ถิงไม่ใช่เหรอ? บัตรเครดิตของลี่เย่ถิงจะอยู่ในมือของเฉียวเหวยอีได้ยังไง ?!
ซูหรูเยียนยิ่งแปลกใจมากขึ้นที่เฉียวเหวยอีได้รับเชิญมางานวันเกิดของฟู่จยา? เดิมทีเธอคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่เธอมาทานข้าวกับใครสักคนในตระกูลถัง !
ฟู่จยายอมรับเฉียวเหวยอีแล้วเหรอ ?!
เฉียวเหวยอีมองย้อนกลับไป เมื่อเห็นติงหย่าหรูจ้องไปที่บัตรเครดิตสำรอง ดวงตาของเธอดูประหลาดใจมากราวกับมันกำลังจะหลุดออกมา หลังจากคิดดูแล้ว เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “ที่จริงแล้วเธอพูดถูก ฉันน่ะมาต้อนรับพี่ถิง มารับใช้เขาแค่คนเดียว”
“อีกอย่าง ฉันคิดว่าเธอควรจะรู้ไว้อย่างหนึ่งว่าเอ็มเพอเรอร์เป็นบริษัทในเครือ wl”
“ดังนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่ เข้าใจไหม?”
ทันทีที่สิ้นเสียงของเฉียวเหวยอี ดวงตาของเธอก็มองข้ามไหล่ของทั้งสองคนที่อยู่ข้างหน้าไปยังข้างหลัง
เมื่อลี่เย่ถิงเดินเข้ามา เห็นพวกเธอทะเลาะกันจึงรีบเดินไปหาเฉียวเหวยอี