ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 40 ขอบคุณครับ หม่ามี๊ !
“พ่อกับทุกๆ คนจะเป็นห่วงเอานะ รีบกับไปเถอะ !” เธอเกลี้ยกล่อมอย่างสุดใจ
ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่เคยให้กำเนิดลูก และแม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูยังเข้าใจผิดว่าเธอมีลูกชายวัยสามขวบ! ต่อไปจะต้องทำตัวยังไงกัน!
"ไม่กลับ" ซุ่ยซุ่ยตอบเสียงแข็งด้วยใบหน้าบึ้งตึง
หลังจากนั้นเขาก็ขยับเก้าอี้เล็ก ๆ และนั่งตรงหน้าเฉียวเหวยอี “พี่สาว ซุ่ยซุ่ยหิวแล้วอ่ะ”
ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว อย่าแต่เด็กเลย เฉียวเหวยอีเองก็เริ่มรู้สึกหิวแล้วเช่นกัน
เธอถอนหายใจ แต่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้และพูดกับซุ่ยซุ่ยอย่างจริงจัง "กินมื้อเย็นเสร็จแล้วต้องกลับบ้านนะ อย่างอแง"
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมสั่งซื้ออาหาร
เธอมองไปที่เด็กที่น่าสงสารที่นั่งอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็วางโทรศัพท์มือถือและลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็นในครัว พบผักและบะหมี่แห้ง
เธอสามารถสั่งอาหารกินได้ แต่เด็กนั้นไม่ควรกินอาหารตามสั่งมากจนเกินไป
เธอล้างผักและมองกลับไปที่ห้องนั่งเล่น พบว่าซุ่ยซุ่ยเปิดทีวีด้วยตัวเองและปรับไปที่ช่องสำหรับเด็กและดูการ์ตูนอย่างจริงจัง
นี่ผีหลอกกลางวันแสกๆ หรือเปล่าน่ะ ?! ที่บ้านของเธอมีรหัสล็อกทีวี แล้วทำไมเขายังเปิดได้?
เธออึ้งไปสองสามวินาทีแล้วส่ายหัว บางทีเธออาจจะลืมปิดทีวีล่ะมั้ง
เธอผัดไข่กับมะเขือเทศ รอให้น้ำเดือด แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
เธอไม่มีข้อมูลติดต่อตระกูลลี่ แต่เธอยังจำหมายเลขโทรศัพท์ก่อนหน้าของลี่เย่ถิงได้
โทรศัพท์ที่เขาให้เธอคืนมานั้นมีแต่เบอร์ของเขา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็โทรหาหลี่เยถิง
ตัวเลขพวกนั้นเป็นเหมือนรอยสักบนหัวใจที่จะไม่มีวันลืม
หลังจากคิดอยู่สองสามนาที เธอก็ตัดสินใจกดโทรออก
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และนำโทรศัพท์แนบหู
"ฮัลโหล? " ประมาณสิบวินาทีมีเสียงต่ำจากปลายอีกด้านหนึ่งเป็นเสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่คุ้นเคย
เฉียวเหวยอีกลืนน้ำลายก่อนจะตอบไปว่า "ฉันเอง เฉียวเหวยอี ลูกชายของคุณอยู่กับฉันที่นี่ในตอนนี้"
ลี่เย่ถิงฟังเธอพูด และเงียบไปสองสามวินาทีแล้วตอบว่า "งั้นให้เขาอยู่กับเธอก่อนแล้วกัน ฉันจะบอกที่บ้านเอง"
"แต่ว่า……"
“ตอนนี้ฉันอยู่ต่างประเทศ ไม่สะดวก” หลังจากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์ไป
เฉียวเหวยอีจ้องมองไปที่โทรศัพท์ก็ตะลึงไปชั่วขณะ เขาทำตัวสบายๆ งั้นเหรอ? เขาไม่กลัวเธอลักพาตัวลูกชายของเขาและรีดไถ 1.8 พันล้านหรอกเหรอ?
น้ำในหม้อเดือดมากจนแทบจะพุ่งออกมา เฉียวเหวยอีรีบปิดแก๊ส ถอนหายใจและวางบะหมี่และไข่คนมะเขือเทศลงบนโต๊ะ
"ปะป๊า" ซุ่ยซุ่ยเหลือบมองกลับไปที่เธอชี้ไปที่บุคคลในข่าวบันเทิงและกล่าวอย่างร่าเริง
เฉียวเหวยอีที่กำลังจัดจานและมองไปที่ทีวี ข่าวบันเทิงสดผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจับแขนของลี่เย่ถิงและทั้งสองคนน่าจะจะเดินบนพรมแดงของเทศกาลภาพยนตร์ที่ไหนสักแห่ง
ลี่เย่ถิงไม่ได้โกหกเธอ เขาอยู่ต่างประเทศจริงๆ
เธอมองดูเขาที่ปรับหูฟังบลูทูธที่หูซ้าย ซึ่งน่าจะเป็นตอนที่เขาโทรคุยกับเธอ ไม่แปลกใจที่เธอรู้สึกว่าที่เขามีเสียงดังอยู่ตลอด
เธอมองไปที่คู่หูสุดเซ็กซี่ที่อยู่ข้างๆ เขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็หันไปพูดกับซุ่ยซุ่ย "มากินบะหมี่เร็ว"
ซุ่ยซุ่ยก้าวขาสั้นๆ ของเขาและวิ่งไปหาเธออย่างมีความสุขพร้อมตะโกนชมเชย "หอมจังเลย ! "
เฉียวเหวยอีเหลือบมองไปที่ชามไข่ผัดมะเขือเทศซึ่งไม่ค่อยสวยนักก็เลิกคิ้วขึ้น กลัวว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดีสักเท่าไร
ซุ่ยซุ่ยปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ด้วยตัวเอง รอให้เฉียวเหวยอีเสิร์ฟบะหมี่ให้เขาและถือชามพูดโดยไม่รู้ตัวว่า "ขอบคุณครับ หม่ามี๊ ! "
เฉียวเหวยอีตกตะลึงอีกครั้งพลางหันหน้าไปมองซุ่ยซุ่ย