ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 34 หม่ามี๊ !
โรงเรียนอนุบาลที่ซุ่ยซุ่ยเรียนนั้นเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชนของชนชั้นสูงที่ดีที่สุดในเมืองเจียงเฉิง ผู้ที่เรียนที่นี่จะต้องร่ำรวยหรือมีเกียรติ และด้วยฐานะของตระกูลลี่ในเมืองเจียงเฉิงจึงไม่ควรแยกเพื่อนๆ ออกจากซุ่ยซุ่ยสิถึงจะถูก
“พวกเขาด่าซุยซุยว่าโง่ ลูกนอกสมรส” ดวงตาของซุ่ยซุ่ยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหวยอีแล้วกระซิบกลับ
เฉียวเหวยอีรู้สึกตกตะลึง
"แม่ของแกเป็นมือที่สาม หน้าไม่อาย แกมันลูกชู้ … " เศษเสี้ยวหนึ่งในวัยเด็กของเธอแวบเข้ามาในความคิด
เฉียวเหวยอีรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าความรุนแรงในโรงเรียนนั้นน่ากลัวเพียงใด
แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าคำว่าลูกนอกสมรสจะหลุดออกมาจากเด็กอายุสามหรือสี่ขวบ
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าซุ่ยซุ่ยเป็นลูกของลี่เย่ถิงกับใคร แต่อย่างไรก็ก็เป็นลูกหลานของตระกูลลี่ย จะเรียกว่าลูกนอกสมรสได้อย่างไร?
บางทีซุ่ยซุ่ยอาจเกิดมาจากการอุ้มบุญ ดังนั้นจึงไม่มีแม่ สิ่งดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมคนรวย
เธอเงียบไปชั่วขณะ ยื่นมือไปดึงซุ่ยซุ่ยเข้ามาในอ้อมแขน และปลอบ เบา ๆ "พี่สาวว่าซุ่ยซุ่ยไม่ได้โง่สักหน่อย ซุ่ยซุ่ยแค่พูดช้าเท่านั้นเอง เด็กโง่คงจะจำโรงเรียนของตัวเองไม่ได้หรอก"
เฉียวเหวยอีกำลังพูด น้ำตาของซุ่ยซุ่ยก็ร่วงลงและกระซิบกลับมาว่า "งั้นพี่สาว … มารับซุ่ยซุ่ยด้วยนะครับ"
เฉียวเหวยอีใจอ่อนให้กับเขา และพยักหน้าตอบอย่างทุกข์ใจ "โอเค"
จากนั้นซุ่ยซุ่ยจึงมีรอยยิ้มออกมา เฉียวเหวยอีช่วยเขาเช็ดน้ำตาและน้ำมูก แล้วเดินเข้าไปในประตูโรงเรียนอนุบาลโดยมีกระเป๋านักเรียนใบเล็กอยู่บนหลังของเขา
เฉียวเหวยอีได้แต่เฝ้าดูเขาเข้าไปและหันกลับไปที่รถ
พอดีกับที่ซุ่ยซุ่ยเดินผ่านเพื่อน ซุ่ยซุ่ยยื่นมือออกไปคว้าตัวเขาชี้ไปที่ประตูและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า "นั่นไงหม่ามี๊ของฉัน เห็นไหม? "
ทุกคนต่างบอกว่าเขาไม่มีแม่ และเขาต้องการแสดงให้พวกเขาเห็นว่าซุ่ยซุ่ยมีแม่ !
ก่อนที่เฉียวเหวยอีจะเข้าไปในรถ เธอหันกลับมามองเขาอีกครั้ง ซุ่ยซุ่ยโบกมือให้เธอจากระยะไกล และเฉียวเหวยอีที่ยิ้มให้เขาก่อนที่จะขึ้นรถ
เด็กที่อยู่ข้างๆ ซุ่ยซุ่ยดูแปลก ๆ เล็กน้อยและหัวเราะ "นั่นพี่สาวของนายล่ะสิ? "
"หม่ามี๊ต่างหาก ! " ใบหน้าเล็ก ๆ ของซุยซุยแดงก่ำทันทีและพูดเสียงดัง
เฉียวเหวยอีจะมารับเขาอีกครั้ง และเวลานั้นพวกเขาจะได้รู้กัน !
……
เฉียวเหวยอีส่งผู้อาวุธโสเฉียวไปหาหมอ และรอผลการตรวจสักครู่ เธอจึงเล่นเกมฆ่าเวลา
เฉียวเจิ่งกั๋วกำลังรออยู่ข้างนอกอย่างรีบร้อนและเข้ามาถามว่า "ใช้เวลานานแค่ไหน? "
สายตาเฉียวเหวยอีเคลื่อนออกไปจากเกมและมองไปที่เฉียวเจิ้งกั๋วด้วยหางตา
ผู้อาวุโสเข้ารับเคมีบำบัดสำหรับโรคมะเร็งปอดระยะลุกลาม และเขาเจ็บปวดมาก เฉียวเจิ้งกั๋วยังดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
“ถ้าไม่อยากอยู่ยังจะแสร้งทำเป็นลูกกตัญญูอยู่ทำไมล่ะคะ?” เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ
กลัวแค่ว่า…เฉียวเจิ้งกั๋วและภรรยาของเขาจะรอไม่ไหวที่จะเข้าควบคุมบริษัทและแย่งชิงหุ้นของบริษัทที่เป็นของพ่อไป
"ทำไมถึงพูดจาแย่ๆ แบบนี้? " ใบหน้าของเฉียวเจิ้งกั๋วมืดลง
"มีแย่กว่านี้อีกนะ คุณอยากฟังไหมล่ะ? " เฉียวเหวยอีถามอย่างไม่เป็นทางการ
เฉียวอีเหรินเดินเข้ามา และมองไปที่โทรศัพท์มือถือของเฉียวเหวยอี "ทำไมพี่ยังชอบเล่นเกมอยู่อีกนะ"
มีท่าทีดูถูกเหยียดหยามเล็กน้อยในน้ำเสียงของเธอ
จากนั้นเธอก็หันมาปลอบเฉี๋ยวเจิ้งกั๋ว "พ่อ อย่าโกรธเลยค่ะ พี่ใกล้จะแต่งงานแล้ว อีกหน่อยก็คงไม่มีโอกาสได้โกรธกันแล้วล่ะค่ะ"
เฉียวเหวยอีไม่สนใจพวกเขาที่กำลังโจมตีเธอ
ไม่กี่นาทีต่อมาด้านบนของหน้าระบบแจ้งเตือน "ขอแสดงความยินดีกับ "Hey~ Don't touch my girl "ที่ชนะการสังหารครั้งแรกของวันนี้ และติดอันดับ 198 วันติดต่อกัน"
มีคำชมอยู่ข้างใต้ "ลูกพี่เท่สุดๆ ไปเลย ! "
"พระเจ้า! ทำไมเล่นเก่งขนาดนี้ ! "
"ฉันไม่เชื่อว่าชายคนนี้มีแปดมือ ! "
เฉียวเหวยอีเปิดข้อมูลบัญชีและอ่านมัน ในใจประเมินแต้มเล็กน้อย ใช้บัญชีโดยไม่ใช่เงินมาจนถึงทุกวันนี้ น่าจะมีมูลค่าถึงกี่สิบล้านแล้วสินะ
เธอวางแผนที่จะปล่อยบัญชีทั้งหมดของเกมที่เธอเล่นในเดือนหน้า
เดิมทีการเล่นเกมการแข่งขันเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่คิงใช้ในการฝึกความเร็วมือของเธอเท่านั้น
แพทย์ได้ช่วยพยุงผู้อาวุโสเดินออกมา และเฉียวเหวยอีก็ออกจากหน้าเกม วางโทรศัพท์ทันทีแล้วเดินตามไป
"งานหมั้นของตระกูลเซียวอยู่ระหว่างการเตรียมการแล้ว เธอสามารถไปที่ลองชุดได้ในบ่ายวันนี้ " เฉียวเจิ้งกั๋วกระซิบข้างหลังเธอ