ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 129 แค่เธอก็พอ
ถังอี้มาที่นี่เพื่อที่จะเข้าร่วมการประชุมประจำวันศุกร์ เมื่อผ่านกำแพงกระจกที่กั้นเอาไว้ ก็กวาดสายตามองไปอย่างไม่ใส่ใจนัก เพื่อมองดูสภาพของกิจการในวันศุกร์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
กวาดตาดูไปไม่นานเท่าไหร่ ก็เห็นว่ามีคนมุงอยู่ ณ บริเวณหน้าร้านขายเสื้อผ้าร้านหนึ่งมากจนผิดสังเกต และภายในร้านนั้น ก็มีเงาของคนสองคนที่ดูคุ้นเคยยืนอยู่
เขาได้นัดกับเฉียวเหวยอีเอาไว้แล้ว วันนี้ตอนสี่โมงครึ่งให้มาเจอกันแถวห้างสรรพสินค้าโกลบอล เฉียวเหวยอีซื้อเสื้อผ้าเสร็จ ส่วนตัวเขาหลังจากที่ประชุมเสร็จก็จะเดินทางกลับตระกูลถัง ใครเล่าจะรู้ว่าพวกเขาจะมาเจอกันในตัวห้างแบบนี้ได้
เขาหยุดชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินในทันที นิ่งงันไปเป็นเวลาหลายวินาที แล้วหันไปพูดกับผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างเบาๆ ว่า "ลงไปดูสิว่าข้างล่างเกิดอะไรขึ้น"
ตอนที่ผู้ช่วยเข้าไปในร้านค้าที่อยู่ชั้นล่าง พนักงานขายที่ดูมีอายุคนนั้นก็กำลังนำเสื้อผ้าใส่ถุงให้เฉียวเหวยอี สีหน้ายังคงร้อนรนตื่นตระหนกไม่หาย เพราะว่าเงินเดือนของพนักงานขายนั้นขึ้นอยู่กับยอดขาย เสื้อผ้าที่เฉียวเหวยอีได้ทำการซื้อในวันนี้ ในหนึ่งเดือนร้านทั้งร้านยังไม่เคยขายออกได้มากมายขนาดนี้มาก่อนเลย!
ขณะนั้นนั่นเอง หยวนเป่าก็หันไปเห็นผู้ช่วยของถังอี้เดินเข้ามาในร้าน เธอหยุดชะงักไป แล้วจึงลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ในทันที
พนักงานขายนั้นรู้จักกับผู้ช่วยท่านนี้ดี เพราะว่าเขามักจะมาเดินตรวจการภายในห้างโกลบอลแทนถังอี้อยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้าที่หยวนเป่าจะทันได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไป เธอก็รีบกล่าวต้อนรับออกมาทันที "สวัสดีค่ะคุณอู๋!"
ผู้ช่วยอู๋เอ่ยตอบรับอย่างนิ่งๆ และพยักหน้าลงเบาๆ แล้วรีบสาวเท้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของหยวนเป่าและเฉียวเหวยอีทันที
หยวนเป่าเห็นว่าพนักงานขายรู้จักกันกับผู้ช่วย ก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ไม่รอให้ผู้ช่วยอู๋เอ่ยปากทักอะไรเธอก่อน หยวนเป่ายิ้มแล้วเอ่ยออกไปว่า "พอดีเลย ผู้ช่วยอู๋คะ วันนี้คุณป้าสะใภ้อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ก็เลยซื้อของเยอะแยะไปหมด รบกวนคุณช่วยมาช่วยถือหน่อยนะคะ"
"คุณป้าสะใภ้?" ผู้ช่วยอู๋ชะงักไป
"ใช่แล้วค่ะ อาสะใภ้ของถังอี้ไงคะ ป้าสะใภ้ในตอนนี้ของฉันเอง จำไม่ได้เหรอคะ หรือว่าตาฝ้าฟางไปแล้ว" หยวนเป่าขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามเสียงดังขึ้นมาในทันที
ผู้ช่วยอู๋และหยวนเป่าสบสายตาจ้องมองกัน ผ่านไปไม่กี่วินาทีเขาก็ได้สติกลับคืนมาแล้วรีบเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของเฉียวเหวยอี เอ่ยทักทายอย่างสุภาพอ่อนน้อม "งั้นคุณหญิง ไม่ทราบว่าของทั้งหมดเหล่านี้คือของที่ท่านซื้อใช่หรือไม่ครับ ต้องการให้ผมช่วยท่านขนของขึ้นรถให้ในตอนนี้เลยไหมครับ"
พนักงานขายตกตะลึงตาค้างแข็งไปในทันที จ้องมองเขม็งไปที่คนเหล่านั้นที่อยู่ตรงหน้า
อาสะใภ้ของถังอี้?! ถ้าอย่างงั้นนักศึกษาหญิงที่ดูอายุยี่สิบกว่าๆ ที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ก็คือคุณหญิงคนปัจจุบันของท่านประธานของพวกเธออย่างงั้นเหรอ?!
จู่ๆ เรื่องก็เกิดขึ้นโดยไม่ทันคาดคิด เฉียวเหวยอีจึงตกตะลึงตัวแข็งไป
หลังจากนั้น ก็พูดออกมาอย่างนิ่งๆ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น "เดี๋ยวค่อยละกัน รอให้เธอเอาของใส่ถุงให้เสร็จก่อน"
เหลือเสื้อผ้าอีกไม่กี่ชิ้น เมื่อพนักงานขายได้ทราบข้อมูลที่ว่าเฉียวเหวยอีนั้นเป็นคุณผู้หญิงของท่านประธาน หัวก็รู้สึกมึนงงไปหมดและจู่ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นกังวลขึ้นมา
ตอนที่พวกเธอเข้ามาในตอนแรกนั้นใครจะไปนึกคิดได้ว่า เด็กผู้หญิงสองคนนี้ที่สวมใส่เสื้อผ้าที่แสนจะดูธรรมดาสามัญ คนหนึ่งเป็นน้องสาวของถังอี้ ส่วนอีกคนจะเป็นอาสะใภ้ของถังอี้
แล้วเมื่อสักครู่นั้นเธอก็ไปประพฤติตัวไม่ดีต่อทั้งสองคนนี้ไปด้วย เฉียวเหวยอีก็ดูท่าทางไม่ใช่คนที่จะโอบอ้อมอารี……..
"เธอรีบมาช่วยฉันเอาของใส่ถุงเร็วเข้าสิ! ยืนนิ่งตะลึงอะไรอยู่! ทำไมถึงได้ให้คุณผู้หญิงของท่านประธานรอเสียนานขนาดนี้กัน!!!!!" เธอรีบหันไปออกคำสั่งกับพนักงานขายที่ยังอ่อนวัยคนนั้นทันที
"เธอคนนั้นน่ะไม่จำเป็นหรอก แค่เธอก็พอแล้ว" เฉียวเหวยอีไม่รอให้พนักงานที่ยังเด็กคนนั้นเดินมา ก็ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยพูดขึ้นเพื่อหยุดการกระทำนั้นทันที
"ฉันดูแล้วว่าเธอคงจะยังเป็นมือใหม่อยู่ คงจะห่อได้ไม่สวยเท่าเธอหรอก"
เฉียวเหวยอีกล่าวชมเธอมาเช่นนั้น พนักงานขายคนนี้ก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา ไม่มีทางเลือกอื่น จึงจำใจต้องกลับไปที่เคาน์เตอร์แล้วเริ่มห่อของต่อคนเดียว และแล้วมือที่กำลังพับเสื้อผ้าก็เริ่มสั่นระริกอย่างควบคุมไม่อยู่
เฉียวเหวยอีไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงแค่จ้องมองไปที่อีกฝ่ายนิ่งๆ
ไม่เป็นไร อีกตั้งนานกว่าจะถึงเวลาสี่โมงครึ่ง วันนี้เธอมีเวลาเหลือเฟือที่จะให้อีกฝ่ายผลาญได้
ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ หลังจากนั้น พนักงานขายก็ทำการห่อเอาข้าวของทั้งหมดของเฉียวเหวยอีจนเสร็จ แล้วจึงเดินขึ้นหน้าไปพร้อมกับเอ่ยอย่างระมัดระวังขึ้นว่า "คุณหญิง ทั้งหมดที่ท่านต้องการอยู่ตรงนี้แล้ว ท่าน……."
"วันนี้ผู้จัดการของพวกเธอเข้าทำงานไหม" เฉียวเหวยอีไม่เอ่ยตอบแต่กลับถามคำถามกลับไป
"ผู้จัดการออก…….ออกไปทำงานนอกสถานที่ค่ะ ฉันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ" พนักงานขายเอ่ยตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกัก