ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 110 ไม่สามารถเอาคืนกลับมาได้
เธอรับซุ่ยซุ่ยมาโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ อุ้มซุ่ยซุ่ยเดินเข้าไปในห้อง และไม่ได้รบกวนลี่เย่ถิงอีก
เธอล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอยู่บ้านจนเสร็จเรียบร้อย ขณะที่ออกมาจากห้องน้ำ หัวของซุ่ยซุ่ยก็ล้มลงที่หมอนและผล็อยหลับลงไปแล้ว
เฉียวเหวยอีเดินเข้าไปหา ใช้ผ้าขนหนูที่ชื้นอยู่ของตนเช็ดใบหน้าเล็กๆ นั้นของเขา โดยที่ได้ยินเสียงการสนทนาในห้องหนังสือที่ดังลอดผ่านกำแพงอีกฟากเข้ามา
"………..ถ้าหากว่าฉีเล่อเริ่มลงมือก่อนที่บริษัทในต่างประเทศของพวกเราจะรวมตลาดเข้าด้วยกันล่ะก็ จะสามารถช้อนส่วนแบ่งในตลาดไปได้ 8.9% สำหรับพวกเราแล้ว เรื่องนี้ไม่เป็นผลดีเลยนะครับ ทางที่ดีคุณไปที่สำนักงานใหญ่ในต่างประเทศด้วยตัวเองจะดีกว่านะครับ" เหลาอู่พูดอย่างร้อนรนผ่านวิดีโอคอลในคอมพิวเตอร์
"พวกเขาจะเริ่มกิจการเมื่อไหร่" ลี่เย่ถิงนิ่งขรึมไปชั่วครู่ แล้วถามกลับ
"ได้ยินมาว่าก่อนวันฮาโลวีนครับ ช่วงนั้นมีปริมาณคนจำนวนมาก สาขาย่อยทั่วประเทศทั้ง 6 สาขาจะเปิดให้บริการพร้อมกันครับ! พวกเขาลอกเลียนแบบแนวคิดโรงแรมของพวกเรา แล้วยังแย่งเวลาไปเปิดให้บริการก่อนเราอีก แบบนี้ธุรกิจในปีหน้าของพวกเราต้องได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงแน่เลยครับ!"
"ตอนนี้พวกเขามีแผนการเผยแพร่โฆษณาอย่างเป็นทางการหรือยัง" ลี่เย่ถิงจ้องเข้าไปในหน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ครุ่นคิดสักครู่แล้วเอ่ยถามกลับไป
"ไม่ครับ แต่ว่าคนของผมรายงานมาว่า พวกเขาเตรียมป้อนโฆษณาเข้าตลาดแล้ว เดือนหน้านี้เองครับ พวกเราต้องหาคนมาช่วยเหลือพวกเราสักหน่อยแล้วนะครับ!"
นิ้วชี้ข้างซ้ายของลี่เย่ถิงเคาะเป็นจังหวะกับโต๊ะ เวลาผ่านไปเนิ่นนาน และเขาก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมา
นี่เป็นพฤติกรรมเวลาที่ลี่เย่ถิงกำลังจมดิ่งเข้าไปในห้วงแห่งความครุ่นคิด เขากำลังชั่งน้ำหนักของผลประโยชน์อยู่
เหลาอู่ไม่กล้าเอ่ยเสียงอะไรออกมา จึงไม่ได้พูดอะไร
"ไม่ต้องร้อนใจ ฉันมีทางออก" ผ่านไปนานเขาก็เอ่ยเสียงขึ้นมาเบาๆ
เหลาอู่เองก็เชื่อมั่นในความสามารถของลี่เย่ถิง ก็จริงอยู่ที่ธุรกิจนี้อยู่ในตลาดและต่อสู้มาแล้วยังไม่เคยสูญเสียอะไรเลย แต่ว่าครั้งนี้ เขากังวลใจจริงๆ
"หัวหน้า หลายปีมานี้ได้ลงทุนไปหลายหมื่นล้านแล้ว นี่เป็นธุรกิจที่เป็นช่องทางหลักของคุณ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียวนะครับ!" เหลาอู่ขมวดคิ้วตอบ
เขากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อ 4 ปีก่อน ถ้าผ่านไปแล้วเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาล่ะ เขากลัวว่าลี่เย่ถิงกับ wl กรุ๊ปจะรับกับผลลัพธ์ที่ตามมาไม่ไหว
ด้านโรงแรมก็ได้คว้าเอาหุ้นของ wl กรุ๊ปมาเกือบครึ่งแล้ว ถ้าหากว่ามีเรื่องร้ายแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ขึ้นมา ลี่เย่ถิงอาจจะล้มละลายอีกครั้งก็ได้
เฉียวเหวยอีที่อยู่อีกด้านของกำแพง ได้ยินคำพูดของเหลาอู่อย่างชัดเจนไม่มีตกหล่น
ในความเป็นจริงแล้ว ตอนที่เธอได้ช่วยให้บริษัทฉีเล่อเข้าระบบภายในของ wl กรุ๊ป ก็ได้พบว่าการที่องค์กรได้ลงทุนไปในกิจการโรงแรม ดูจะเกินจริงไปสักเล็กน้อย
กล่าวได้ว่า ด้านการลงทุนของลี่เย่ถิง อาจจะไม่ได้ซื้อแค่กิจการโรงแรมขนาดกลางรูปแบบที่มีหลายสาขาที่ต่างประเทศ แต่ยังได้ทำการลงทุนทางด้านการปรับปรุงสร้างทัศนียภาพของโรงแรม โดยลงทุนทั้งสองด้านนี้
แต่ว่าถ้าจะพูดให้เจาะจงมากยิ่งขึ้นก็ไม่ได้ เพราะเฉียวเหวยอีไม่เห็นเลย ในวันนั้นเวลาค่อนข้างที่จะต้องเร่งรีบ
มีความเป็นไปได้สูงมาก อาจจะเกี่ยวกับที่ว่าลี่เย่ถิงบอกว่ามีทางออก
เฉียวเหวยอีนอนทอดกายอยู่บนเตียง นอนครุ่นคิดพลิกตัวไปมาอยู่นานแสนนาน จากนั้นก็หาชื่อติดต่อผู้รับผิดชอบของบริษัทฉีเล่อที่ได้ติดต่อเธอ
"คิดเสร็จแล้วใช่ไหม" เมื่อบริษัทฉีเล่อเห็นว่าเธอกำลังออนไลน์อยู่ในระบบ ก็รีบส่งข้อความไปหาทันที
ทางด้านของฉีเล่อ ความจริงแล้วได้ติดต่อกับเฉียวเหวยอีมานานมากแล้ว คิดที่อยากจะให้เธอขโมยเอาเอกสารลับของ wl กรุ๊ป ต่อไป
เฉียวเหวยอีรู้ว่าพวกเขานั้นไร้เกียรติ แต่ว่าเป็นเพราะว่าราคาของอีกฝ่ายสูงถึง 1 ร้อยล้าน เป็นราคาที่สูงจนไม่เคยมีในตลาดมาก่อน เฉียวเหวยอีขาดแคลนด้านทุนทรัพย์ ถ้าจะไม่ให้หวั่นไหวก็บอกได้เลยว่ายากมากจริงๆ
เธอไม่เคยได้ให้คำตอบอย่างชัดเจนกับอีกฝ่ายเลย
เธอจ้องมองไปที่กรอบหน้าจอสนทนา ครุ่นคิดเป็นเวลานาน แล้วจึงตอบกลับไปหนึ่งประโยค "ขอโทษด้วย มีข้อจำกัดทางด้านความสามารถ ข้อเสนอของพวกคุณฉันอาจทำให้สำเร็จไม่ได้"
กล่าวจบ ก็ลบข้อมูลติดต่อของผู้รับผิดชอบของบริษัทฉีเล่อทิ้งไป
ผ่านไปไม่กี่วินาที ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา ทางด้านโกลบอลได้ให้ชื่อเสียงและความสำเร็จเธอมาครึ่งปี แต่ก็ได้ 80 กว่าล้าน
เธอบ้าไปแล้ว ถึงได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป
แต่คำที่พูดที่หลุดออกจากปากไปแล้ว หรือน้ำที่ไหลผ่านไปแล้ว ก็ไม่สามารถเอาคืนกลับมาได้