ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 109 กลับบ้านพร้อมพี่สาว
ปะป๊าบอกว่า เขาต้องทำตัวดีๆ เฉียวเหวยอีก็จะชอบเขามากขึ้น เพราะอย่างนั้นแล้ว วันนี้เขาก็เลยหนักแน่นที่จะทานข้าวของตัวเองให้หมดอย่างสะอาดสะอ้าน ไม่ยอมให้เหลือแม้แต่เม็ดเดียว
"เก่งมาก!" เฉียวเหวยอีอดที่จะก้มหน้าลงไปประทับรอยจูบลงบนหน้าผากของซุ่ยซุ่ยไม่ได้ จากนั้นก็ยิ้มแล้วช่วยเขาเช็ดคราบซอสที่ติดอยู่บนใบหน้าเขา
ความจริงแล้วเธอไม่เข้าใจเลยว่า ซุ่ยซุ่ยน่ารักเสียขนาดนี้ ทำไมซูหรูเยียนถึงไม่รักเขา ไม่ต้องการเขา
"วันนี้ซุ่ยซุ่ย ขอกลับบ้านพี่สาวได้ไหม" ซุ่ยซุ่ยย่นจมูกแล้วเอ่ยร้องขอเธอ
เฉียวเหวยอีครุ่นคิดอยู่สักครู่ จึงเอ่ยตอบว่า "ไม่ได้ ซุ่ยซุ่ยมีบ้านของตัวเองนะ"
"ขอแค่คืนเดียวเอง!" ซุ่ยซุ่ยยกนิ้วมือเล็กๆ ของตนเองขึ้นมาหนึ่งนิ้ว แล้วพูดอย่างร้อนรนว่า "ซุ่ยซุ่ยอยากกินเต้าฮวย! "
เฉียวเหวยอีไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่อุ้มเขาขึ้นมา แล้วเดินมุ่งไปยังอ่างล้างมือ
ที่ด้านนอกประตู ลี่เย่ถิงหันกลับมา มองดูเฉียวเหวยอีที่กำลังช่วยซุ่ยซุ่ยล้างมืออยู่ ผ่านกระจกที่กั้นระหว่างพวกเขาเอาไว้
"………วันนี้ตอนเช้าคนที่ชั้น 6 มาเคาะประตูห้องคุณหนู จากนั้นก็ยืนรออยู่ที่ด้านหน้าสักพัก แต่คุณหนูได้ไปที่ตี้หวงแล้ว ไม่ได้อยู่ที่นั่น" อู๋โยวส่งเสียงทุ้มต่ำมาจากปลายสาย "พวกเขาทั้งคู่ อาจจะรู้จักกัน"
"แต่ก็ยังมั่นใจไม่ได้ครับ เพราะอาจจะมีสาเหตุอย่างเรื่องเสื้อผ้าตกลงไปเข้ามาเกี่ยวแทนก็ได้ครับ" อู๋โยวเอ่ยต่อ
ลี่เย่ถิงเคยค้นดูคอมพิวเตอร์ของเฉียวเหวยอี แต่ก็ไม่พบอะไรเลย นอกจากว่าตัวเธอจะลงโปรแกรมเก็บซ่อนเอกสาร ที่จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษในการเข้าถึงข้อมูล
"ยาที่กู้หลิงเฟิงใช้เมื่อหลายวันก่อน เขาได้มาได้ยังไง หาเจอหรือยัง" เขานิ่งขรึมไปหลายวินาที ก่อนจะเอ่ยถาม
อู๋โยวเอ่ยตอบโดยที่ไม่มั่นใจนัก "ดูเหมือนว่าจะเป็นญาติที่ร่ำรวยคนหนึ่งของเขาครับ เรียกกันว่าลุงเทียน ช่วยเขาใช้เส้นสายเอามาให้ครับ"
"ตอนแรกกู้หลิงเฟิงก็อยู่ที่ประเทศ b เพราะว่าลุงเทียน เพราะอย่างงั้นแล้วหลังจากที่พ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ก็ตัดสินใจขายทอดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศของตระกูลเพื่อกลับไปที่ประเทศ b แล้วจึงเข้าหาลุงเทียนเพื่อขอความช่วยเหลือ"
ลี่เย่ถิงคิดอยู่สักครู่ แล้วเอ่ยถามต่อ "ลุงเทียนทำธุรกิจอะไร"
"ทำธุรกิจเกี่ยวกับไวน์ครับ เป็นโรงกลั่นองุ่นเจ้าใหญ่ พื้นที่ไร่มีมากกว่าร้อยเฮกตาร์ ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่ในประเทศ b ไม่น้อยเลยครับ"
กู้หลิงเฟิงเข้าพึ่งลุงเทียน แต่กลับไม่ได้ร่วมทำธุรกิจอะไรกับลุงเทียน ฟังดูแล้วก็ดูน่าสงสัยอยู่เล็กน้อย
เขานิ่งคิดไปสักครู่ ก่อนจะพูดต่อ "ตามต่อไป รอจนเขาออกจากโรงพยาบาล"
เฉียวเหวยอีจูงมือซุ่ยซุ่ยจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของลี่เย่ถิง ลี่เย่ถิงก็กดวางสายลงพอดี
เธอมองดูโทรศัพท์ในมือของเขาหนึ่งที และนึกคิดว่าโทรศัพท์สายนี้ที่โทรคุยกันเป็นเวลานาน เป็นการคุยกับซูหรูเยียน จึงพูดอย่างรู้งานออกไปว่า "ถ้าคุณยุ่งมาก ฉันไปส่งซุ่ยซุ่ยเองก็ได้นะ"
"วันนี้ทุกคนเหนื่อยกันมากแล้ว" ลี่เย่ถิงสบตาเข้ากับเธอหนึ่งที แล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา
"ตี้หวงเองก็อยู่ห่างจากที่นี่เกินไป ซุ่ยซุ่ยอาจทนไม่ไหว ให้ไปพักอยู่ด้วยกันกับเธอก่อนแล้วกัน"
เฉียวเหวยอีนึกว่าลี่เย่ถิงจะจากไปเลยในทันที ไม่คาดคิดเลยว่า เขาจะพูดออกมาว่าอยากไปบ้านของเธอ
ไม่ทันที่จะรอให้เธอหาเหตุผลเพื่อมาปฏิเสธ ลี่เย่ถิงก็ได้อุ้มซุ่ยซุ่ยขึ้นมาแล้ว และเดินนำหน้าไปก่อน
เฉียวเหวยอีจ้องมองแผ่นหลังของเขา แล้วจึงเดินตามไปอย่างมึนงง
พวกเธอเกือบที่จะเป็นพวกสุดท้ายที่ออกจากโรงเรียนอนุบาลนี้ อาจารย์ประจำชั้นและผู้อำนวยการที่อยู่ที่ประตูใหญ่มองเห็นทั้งสองคนเดินออกมา ก็รีบกุลีกุจอมากล่าวทักทายลี่เย่ถิงอย่างนอบน้อม "คุณลี่ คุณนายลี่ กิจกรรมในวันนี้พึงพอใจกันไหมครับ"
"ฉันไม่ใช่คุณนา…….." เฉียวเหวยอีรีบเอ่ยขึ้นมาอย่างกระอักกระอ่วน
"ก็ใช้ได้" ไม่รอให้เธอพูดจบ ลี่เย่ถิงก็ส่งเสียงขึ้นมาขัดคำพูดของเธอก่อน แล้วหันไปมองทั้งสองคนก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างเรียบๆ กล่าวเสร็จก็อุ้มซุ่ยซุ่ยเดินไปยังลานจอดรถ
……….
ทันทีที่เห็นอู๋โยวยืนกอดคอมพิวเตอร์อยู่หน้าประตูบ้านเธอ เฉียวเหวยอีก็รู้ได้เลยว่า ลี่เย่ถิงคงจะไปไหนไม่ได้สักพักแล้ว
"คุณชาย………" อู๋โยวเดินขึ้นหน้ามาอย่างกังวลและร้อนรน
พอพูดได้เพียงหนึ่งคำ ลี่เย่ถิงก็ทำมือเป็นสัญลักษณ์ว่าให้หยุดก่อน
เฉียวเหวยอีเห็นแล้วก็รู้ได้ว่าอู๋โยวมีเรื่องเร่งด่วนจำเป็นที่จะต้องรายงานกับลี่เย่ถิง พอดีกับที่ว่า เธอและซุ่ยซุ่ยก็เหนื่อยล้ากันแล้ว คนหนึ่งก็บาดเจ็บภายใน อีกคนก็บาดเจ็บภายนอก ซุ่ยซุ่ยนั้นโงนเงนไปมาด้วยความง่วงอยู่ในอ้อมกอดของลี่เย่ถิง