ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 105 บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่เป็นไร
วันต่อมา เฉียวเหวยอีตอนเช้าตรู่ไปรอซุ่ยซุ่ยอยู่หน้าประตูตี้หวงอีเฮ่า
ซุ่ยซุ่ยยังไม่ได้ออกมา ก็มองเห็นซูหรูเยียนลากกระเป๋าเดินทางจากข้างในออกมานอกประตู
บอดี้การ์ดนำกล่องของซูหรูเยียนใส่เข้าไปในท้ายรถ ซูหรูเยียนกำลังจะขึ้นรถ หันหน้ากลับมา พอดีกับที่มองเห็นรถของเฉียวเหวยอีจอดอยู่บริเวณใกล้เคียง
ทั้งสองคนมองผ่านกระจกหน้าต่างรถ จ้องมองซึ่งกันและกัน ซูหรูเยียนหมุนตัวทันที เดินตรงเข้ามาหาเธอ
“วันนี้เป็นเธอที่เป็นเพื่อนซุ่ยซุ่ยไปงานกีฬาสี?”ซูหรูเยียนเคาะกระจกหน้าต่างรถของเฉียวเหวยอี ถามด้วยเสียงเย็นชา
“ใช่”เฉียวเหวยอีพูดตอบเสียงเรียบเฉย
ซูหรูเยียนแสดงออกด้วยความเหยียดหยามทันที“ไม่ใช่ของของเธอ ต่อให้เธอพยายามใช้ความคิดที่จะแย่งชิงมาอยู่ในมือ ก็ยังคงไม่ใช่ของเธอ”
เฉียวเหวยอีไม่อยากจะทะเลาะกับซูหรูเยียน ลูกชายของซูหรูเยียน เธอก็ไม่ได้อยากจะแย่งชิง
วันนี้เป็นเธอที่ช่วยซูหรูเยียนกับลี่เย่ถิงไปปฏิบัติหน้าที่พ่อแม่ ถ้าหากว่าไม่ใช่คิดว่าเด็กน่าสงสาร เธอก็ไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องชาวบ้าน
เธอเงียบไม่พูดจาหลายวินาที ก็ย้อนถามเสียงต่ำ “เธอถือว่าเป็นแม่คนหนึ่ง เคยคิดไหมว่า ถ้าหากว่าวันนี้ไม่มีคนไปเป็นเพื่อนเขา เขาทำได้แค่นั่งดูเด็กคนอื่นเล่นเกมกับพ่อแม่เท่านั้น?”
ซูหรูเยียนหัวเราะเยาะขึ้นมา กัดฟันพูดเสียงเบา “หญิงชั่วเข้าไปพัวพันกับชีวิตคนอื่น มีเหตุผลมากมายที่จะทำให้หลุดพ้น!”
“ไม่งั้นเธอก็ไปเองสิ ฉันก็ไม่ต้องยุ่ง”เฉียวเหวยอีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองซูหรูเยียน พูดตอบอย่างจริงจัง
เดิมทีหมอก็กำชับว่าอย่าออกกำลังประมาณสิบวัน
“ขอโทษด้วย ฉันยังต้องเป็นเพื่อนลี่เย่ถิงไปดูงานนอกสถานที่ ไม่มีเวลาคุยกับเธอที่หน้าด้านไร้ยางอาย”ซูหรูเยียนพูดตอบเสียงเบา
พูดจบ ก็หมุนตัวเดินตรงไปที่รถของตัวเอง
เฉียวเหวยอีไม่รู้ว่าตัวเองชาตินี้ทำเรื่องชั่วร้ายอะไรไว้ พ่อแม่แท้ๆของเด็กไม่สนใจ เธอเข้ามาหาก็ถูกคนด่าประจาน
เธอจ้องมองภาพด้านหลังของซูหรูเยียน อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น
พอดีกับที่ซุ่ยซุ่ยสะพายกระเป๋าออกมาจากบ้าน ซูหรูเยียนเรียกเขาผ่านกระจกรถ “ซุ่ยซุ่ย น้าไปก่อนนะ?”
ซุ่ยซุ่ยไม่แม้แต่จะมองซูหรูเยียน เขาวิ่งกระโดดตรงไปที่รถของเฉียวเหวยอี สีหน้าตื่นเต้นดีใจ
เพราะว่าวันมีงานกีฬาสี ซุ่ยซุ่ยสวมชุดกีฬาแขนยาว ด้านล่างใส่กางเกงกีฬา ถุงเท้าและรองเท้าผ้าใบ
เฉียวเหวยอีมองเห็นซุ่ยซุ่ยวิ่งเข้ามา สายตาเหลือบเห็นผ้าก๊อซโผล่ออกมาจากถุงเท้าบนน่องของเขา
ซุ่ยซุ่ยขึ้นรถ เธอหันหน้ากลับมามองอย่างจริงจัง “ให้พี่ดูน่องหน่อย!”
ซุ่ยซุ่ยแลบลิ้นปลิ้นตา ยืดน่องด้านขวาไปตรงหน้าเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีเปิดถุงเท้าของเขาดู ในใจก็รู้สึกรัดแน่นเล็กน้อย มีรอยเหลืองจางๆอยู่บนผ้าก๊อซ เห็นได้ชัดว่าบาดแผลยังไม่หายดี
“น่องได้รับบาดเจ็บจะสามารถไปเข้าร่วมงานกีฬาสีได้ยังไง?”เธอขมวดคิ้วแน่นย้อนถาม
“ไม่เป็นไร!”ซุ่ยซุ่ยพูดด้วยสีหน้าไม่เป็นไร “ปะป๊าพูดว่า ลูกผู้ชาย บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่เป็นไร!”
และเพื่อสามารถจะได้พบกับเฉียวเหวยอี ต่อให้น่องใช้ไม่ได้แล้วเขาก็จะยืนหยัด!
“คุณครูของพวกนายพูดว่ายังไง?”เฉียวเหวยอีกไม่คิดแบบนั้น หลังจากนั้นก็ถามเขา
“คุณครูพูดว่า เด็กทุกคนต้องไป”ซุ่ยซุ่ยเอียงศีรษะ พูดตอบจริงจัง
โรงเรียนอนุบาลของตระกูลสูงศักดิ์ไม่มีมนุษยธรรม?
เฉียวเหวยอีเลิกคิ้วแน่นขึ้น
“พี่ จะสายแล้วนะ!”ซุ่ยซุ่ยมองเห็นเฉียวเหวยอีไม่ไป ก็เร่งรัดเธอ
เฉียวเหวยอีก็ไม่เข้าใจชัดเจนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอไปถามจึงจะสามารถรู้ ถ้าคุณครูพูดว่าไม่ให้ซุ่ยซุ่ยมาเข้าร่วม เธอก็ไม่สามารถเห็นด้วย
ทั้งสองคนรีบไปโรงเรียนอนุบาล คุณครูประจำชั้นมองเห็นเฉียวเหวยอีพาซุ่ยซุ่ยเข้ามา ก็ประหลาดใจเล็กน้อย