“ฟู่…ชีวิตมันสงบสุขเกินไปจนราวกับว่ามันเป็นความฝันเลยนะคะ”
“ฮะๆๆๆ เห็นแบบนี้แต่ฉันก็พยายามอย่างมากเลยนะกว่ามันจะมาถึงขนาดนี้ได้น่ะ”
“…ค่ะ…ฉันเชื่อท่านค่ะ”
คำพูดของเอฟิเซียที่ตอบกลับมาอย่างจริงจังนั้นดูหนักแน่นและแฝงเอาไว้ด้วยความหมายบางอย่าง…เมื่อพาเธลอสได้เหลือบไปแอบมองเธอ เขาก็ได้พบกับร่างของสาวงามที่กำลังเหม่อมองออกไปเบื้องหน้าโดยไร้ซึ่งสีหน้าเขินอายตามปกติที่ควรจะเป็น
สีหน้าของเธอในตอนนี้นั้น…จะว่ายังไงดีล่ะ…
‘มันช่างดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยวไม่เหมือนกับเธอตอนปกติเลยสักนิด…นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่นะเอฟิเซีย’
พาเธลอสครุ่นคิดในขณะที่มองเอฟิเซียด้วยสายตาแห่งความห่วงใย ซึ่งในขณะที่เขากำลังคิดคำว่าจะพูดอะไรออกไปดีอยู่นั่นเอง…หญิงสาวที่ปิดปากเงียบมาจนถึงเมื่อครู่ก็ได้เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาก่อนเป็นคนแรก
“…ทำไมกันล่ะคะท่านพาเธลอส…ฉันมั่นใจว่าในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมานี้ท่านคงจะได้พบกับสตรีมากมายที่รักท่านและดียิ่งกว่าฉัน…แล้วทำไมท่านถึงเลือกฉันกันล่ะคะ”
“…เอฟิเซีย”
เสียงของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเขานั้นสั่นเทาราวกับว่าเธอกำลังรู้สึกกลัวคำตอบที่เธอจะได้รับ ตัวเธอในตอนนี้ดูแปลกไปจากตอนปกติอย่างเห็นได้ชัด…ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเธอไม่เคยแสดงความอ่อนแอมาให้เขาเห็นเลยสักครั้งแท้ๆ แต่ในวันนี้มันกลับต่างออกไป…
ท่าทางอันไม่มั่นคงของเธอทำให้พาเธลอสตัดสินใจกุมมือของเธอเอาไว้พร้อมกับเผยยิ้มออกมาเพื่อคลายความกังวลของเธอ…ถึงกระนั้นสีหน้าของเธอมันก็ยังคงไม่คลายความกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว…
“…ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน…ตอนนี้ฉันเป็นเพียงแค่คนอ่อนแอที่ดูแลตัวเองยังไม่ได้ด้วยซ้ำไป…ฉันน่ะเป็นแค่อัศวินที่ไร้ซึ่งพลังแม้แต่จะยกดาบของตัวเองยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ…แล้วตัวฉันในตอนนี้มันจะไปมีค่าอะไรกันล่ะคะ”
น้ำเสียงของเอฟิเซียที่เธอพูดออกมานั้นช่างฟังดูขมขื่น…เสียงสะอื้นไห้ของเธอดังขึ้นมาเบาๆ ริมฝีปากของเธอบิดเบี้ยวจากความรู้สึกอัดอั้นในจิตใจที่ไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้อีกต่อไป…
“…ฉันน่ะตัดสินใจที่จะสละชีวิตส่วนตัวทั้งหมดเพื่อที่จะเป็นอัศวินของท่านตามคำสัตย์สาบานที่ฉันเคยกล่าวกับท่านเอาไว้…ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นแบบนั้นแท้ๆ แต่ดูสภาพของฉันในตอนนี้สิคะ แค่จะเดินด้วยตัวเองยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป…แล้วอัศวินที่ไม่อาจถือดาบได้แบบนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรกันล่ะคะ สุดท้ายแล้วตัวฉันในตอนนี้น่ะก็เป็นได้แค่ภาระของท่านเท่านั้นนั่นแหละค่ะ”
เอฟิเซียกล่าวขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้กับพาเธลอสทั้งน้ำตา…สีหน้าหม่นหมองอันแสนเศร้าสร้อยของเธอในตอนนี้มันช่างดูเจ็บปวดเสียเหลือเกิน…
คำพูดดูถูกดูแคลนตัวเองสารพัดคำค่อยๆ ดังออกมาจากริมฝีปากน้อยๆ นั้นทีละคำๆ…หยดน้ำตาที่ไหลรินลงมาบนใบหน้างามนั้นค่อยๆ หลอมรวมกันจนเป็นสายธาราแห่งความโศกเศร้าที่แฝงเอาไว้ด้วยความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ในหัวใจของเธอ
น้ำเสียงของเธอฟังดูปวดร้าวราวกับว่าหัวใจของเธอมันกำลังแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ…ร่างกายของเธอสั่นเทารวมถึงดวงตาของเธอเองก็เริ่มที่จะแดงขึ้นเช่นกัน…
“…ฉันน่ะ…ไม่คู่ควรกับท่านหรอกนะคะ…”
“…”
สิ้นสุดคำพูดนั้น พาเธลอสที่ไม่อาจจะทนได้ไหวอีกต่อไปได้ดึงร่างของเอฟิเซียมากอดเอาไว้แน่นด้วยความห่วงใย ถึงแม้ว่าเธอจะตกใจแต่เธอก็ยินยอมปล่อยให้เขากอดเธออยู่อย่างนั้นแต่โดยดี
“…ท่าน…พาเธลอส”
เสียงของเธอดังขึ้นมาด้วยความฉงนแต่ถึงกระนั้นพาเธลอสเขาก็ยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม…สิ่งที่เขาทำในตอนนี้มีเพียงแค่การลูบศีรษะของหญิงสาวเบาๆ เพื่อปลอบโยนหัวใจของเธอเท่านั้น…
————————————————
ตัดจบแบบละครไทย เดี๋ยวไรท์จะไปโซ้ยกุ้งเผาแล้วไปนอนตุยต่อละบายจ้า
//มีคนไม่เข็ด
MANGA DISCUSSION