หลังจากที่พาเธลอสได้พาเอฟิเซียมานั่งด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้เอื้อมมือไปโอบไหล่อันเรียวบางของเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
น้ำเสียงที่นุ่มลึกขึ้นนิดหน่อยจากการที่มันแฝงเอาไว้ด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ภายในจิตใจของเขา มันทำให้บรรยากาศระหว่างเขาและเธอได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย…
“ที่ฉันสามารถสร้างอาณาจักรอันแสนสงบสุขนี้ได้ก็ต้องขอบคุณเธอด้วยนะเอฟิเซีย…”
“คะ ?”
พอพาเธลอสพูดออกมาแบบนั้น เอฟิเซียก็ได้เอียงคอสงสัยอย่างน่ารักซึ่งนั่นก็ได้ทำให้พาเธลอสถึงกับต้องหันไปจ้องเขม็งใส่เธอในทันที
“ไม่ต้องมาเอียงคอสงสัยเลยนะเธอ…ให้ตายสิ…เดี๋ยวฉันบอกเหตุผลให้ฟังก็ได้…”
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเล็กน้อยด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนที่เขาจะเล่าเหตุผลให้เธอฟังอย่างใจเย็น
“ถ้าหากในตอนเด็ก ฉันไม่ได้มาพบกับเธอล่ะก็…มันก็คงจะไม่มีตัวฉันในทุกวันนี้แล้วใช่ไหมล่ะ—”
“อ๊ะ ! ยอมรับว่าตัวเองเป็นเด็กแล้วเหรอคะ ! สงสัยเย็นนี้เราต้องฉลองกันแล้วล่ะค่ะ !”
“เงียบไปเลยเธอน่ะ ! ฟังให้จบก่อนสิฟะยัยบ้า !”
ให้ตายสิยัยนี่…น่าตีจริงๆ…
ในขณะที่พาเธลอสกำลังตั้งใจจะพูดอย่างจริงจังแต่ทางเอฟิเซียกลับขัดขึ้นมาอย่างกวนๆ ทำให้เขาถึงกับต้องขึ้นเสียงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่เขาจะต้องถอนหายใจอย่างปลงๆ แล้วก็ตัดสินใจที่จะพูดต่อไป
“ฟังนะ…ฉันขอพูดต่อเลยก็แล้วกัน…ตอนนั้นตัวฉันได้ใช้ชีวิตแบบที่อยู่เฉยๆ เพื่อรอคอยความตายอยู่อย่างเดียวดายในปราสาท แต่พอฉันได้มาพบกับเธอ…ชีวิตฉันก็ได้มีสีสันขึ้นมา…”
“อาเร๊ะ !? ฉันเอาสีทาบ้านไปเทใส่ท่านเหรอคะ ?”
“ไม่ใช่โว้ย ! ก็บอกว่าอย่าพึ่งขัดตอนฉันพูดยังไงล่ะยัยบ้านี่ !!!”
“เฮ้อ…ให้ตายสิ ท่านนี่เอาแต่ใจจังเลยนะคะ”
“นี่ฉันผิดเรอะ !”
นับวันยัยนี่ยิ่งชอบกวนเราจนทำให้เราปวดหัวมากขึ้นไปทุกที…ทำไมกันนะยัยบ้าเอ้ย…ให้ตายสิ…
เอาเถอะช่างมัน ! ถ้าเรามาหัวเสียตอนนี้ล่ะก็ ทุกอย่างที่เราอุตส่าห์เตรียมมาในวันนี้มันจะสูญเปล่าเอานะ !
อดทนเข้าไว้ตัวฉัน !
เมื่อปรับอารมณ์และเตรียมตัวเตรียมใจใหม่ได้แล้ว พาเธลอสก็ได้กล่าวขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอันแสนจริงจัง
“เพราะเธอแท้ๆ ทำให้ฉันรู้จักความสนุกสนานมากมายในทุกๆ วัน…เธอทำให้ทุกเวลาในชีวิตของฉันมันมีค่าและไม่น่าเบื่อเหมือนแต่ก่อน…เธอเป็นคนที่ทำให้ฉันรู้จักความสุขและความอบอุ่นของครอบครัว…เธอเป็นคนที่ทำให้ฉันยิ้มออกมาจากหัวใจได้อย่างแท้จริง”
“…”
“เพียงแค่อยู่กับเธอ ฉันก็รู้สึกสงบ…รอยยิ้มของเธอมันทำให้หัวใจของฉันรู้สึกอบอุ่น…สำหรับฉันแล้วเธอน่ะเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ฉันหลงรักเธอ—”
“ท่านจะขอฉันแต่งงานเหรอคะ ?”
คำพูดดักคอของหญิงสาวทำให้มือของชายหนุ่มที่กำลังเอื้อมไปหยิบกล่องเล็กๆ บางอย่างจากทางด้านหลังถึงกับต้องหยุดชะงัก และนั่นก็ทำให้เขาถึงกับคิ้วกระตุกด้วยเช่นกัน…
ส่วนทางด้านของเอฟิเซียนะเหรอ…เธอกำลังทำท่าเอียงคอสงสัยอย่างแนบเนียนอยู่ล่ะ…
“นี่ยัยบ้า ! เธอหัดดูบรรยากาศซะบ้างสิเฮ้ย !”
“เอ่อ…ขออภัยด้วยค่ะ มันเผลอไปหน่อย…”
เอฟิเซียหัวเราะแหะๆ ส่วนทางด้านของพาเธลอสเองก็จ้องมาที่เธอด้วยความเหนื่อยใจ (ในหลายๆ ความหมาย…)
“มาเผลอไปหน่อยอะไรของเธอ…ให้ตายสิ…ชอบขัดอารมณ์จริงๆ เลยนะเธอน่ะ…”
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปล่ะก็…ต่อให้หมดวันนี้ไปเรื่องมันก็ไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ…
ช่วยไม่ได้…เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรารวบรัดไปเลยก็ได้ฟะ…
“เอ่อ…อะแฮ่ม ! งั้นสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน…ในตอนนี้ฉันได้ทำความฝันของเธอให้เป็นจริงตามที่พวกเราได้สัญญากันเอาไว้แล้ว ดังนั้นเอฟิเซีย…เธอจะแต่งงานกับฉันได้ไหม ?”
พาเธลอสกุมมือของเอฟิเซียเบาๆ อย่างอ่อนโยนพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นที่แฝงเอาไว้ด้วยความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ในหัวใจให้กับเธอบางๆ แล้วเขาก็ได้หยิบแหวนเพชรวงหนึ่งซึ่งอยู่ในกล่องที่เขาเตรียมเอาไว้ออกมาให้เธอดู
ถึงแม้ว่าเอฟิเซียเธอจะพอรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็เลยแกล้งเขาเพื่อแก้เขิน แต่พอมันได้เกิดขึ้นมาจริงๆ แล้วแบบในตอนนี้…มันก็ทำให้เธอเขินจนทำอะไรไม่ถูกเลยอยู่ดี…
พอเธอหันไปสบตาเข้ากับสายตาที่จริงจังของเขา มันก็ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหันโดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้มันทำให้เธอรู้สึกสับสนจนทำอะไรไม่ถูก นั่นทำให้เธอถึงกับนิ่งชะงักไปด้วยใบหน้าอันแสนแดงก่ำราวกับแอปเปิ้ลสุก
เอายังไงดีล่ะเรา…เราจะทำยังไงดีล่ะแบบนี้น่ะ…
เราจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดีล่ะเนี่ย ! ฉะ-ฉันเอาแต่ยุ่งอยู่กับการดูแลท่านพาเธลอสในตอนเด็กก็เลยไม่ได้สนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มากนัก มันทำให้ฉันถึงกับทำตัวไม่ถูกในสถานการณ์แบบนี้เลยนะ !!!
“อะ…เอ่อ…คือว่า…ฉัน…คือ…”
“อัศวินพูดแล้วไม่คืนคำ…เธอเคยบอกฉันแบบนี้ใช่ไหมล่ะ ?”
“อึก ! ยังอุตส่าห์จำได้อีกนะคะ !”
“หึๆๆๆ ถ้าเป็นเรื่องของเธอล่ะก็…ฉันจำได้ทุกอย่างนั่นแหละ”
พาเธลอสพูดขึ้นมาราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ เขาแสยะยิ้มออกมาราวกับจะบอกเธอว่า ‘อย่าคิดว่าจะหนีฉันไปได้ง่ายๆ สิ’ พร้อมกับจับมือของเธอเอาไว้แน่นซึ่งนั่นก็เป็นการปิดทางหนีของเธอไปอย่างสิ้นเชิง
“อะ-อือ…”
เอฟิเซียแสดงสีหน้าสับสนออกมาอย่างเห็นได้ชัด เธอเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกแล้วพอจะหาทางหนีมันก็ไม่มีทางหนีให้เธออีกแล้วราวกับว่าพาเธลอสได้วางแผนเรื่องนี้มาอย่างดีเพื่อไม่ให้เธอสามารถปฏิเสธได้อย่างไรอย่างนั้น
อึก…เอาเถอะ…ยังไงเราก็ต้องรักษาคำพูด…แถมการที่เราได้แต่งงานกับท่านพาเธลอสในตอนนี้เองก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรด้วย…
ถึงแม้ว่าเราจะคิดแบบนั้นก็เถอะ…
คือ…เราเองก็ไม่ได้เกลียดที่จะแต่งงานกับท่านหรอก…แต่ว่านะ…ตรงไหนสักตรงข้างในหัวใจของเรามันรู้สึกว่าเรายังไม่อาจยอมรับคำขอแต่งงานจากท่านได้ในตอนนี้ยังไงก็ไม่รู้…
ก็จู่ๆ เด็กน้อยที่เราเคยปกป้องเอาไว้กลับกลายมาเป็นชายหนุ่มแล้วมาขอเราแต่งงานแบบนี้ ใครมันจะไปรับได้ในทันทีบ้างล่ะ…
แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย !?
“เอ่อ…คือ…”
เอฟิเซียที่กำลังหน้าแดงและสับสนอยู่ ออกอาการกระสับกระส่ายไปมาเนื่องจากทำอะไรไม่ถูก
พอเห็นแบบนั้นแล้ว พาเธลอสก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปสัมผัสกับใบหน้าอันแดงก่ำของเธอเบาๆ ด้วยรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยน
“อะ—เอ๊ะ !? นะ-นี่ท่านจะทำอะไรกันคะ !!!”
เอฟิเซียแสดงอาการตื่นตกใจออกมา ส่วนทางด้านพาเธลอสนั้นเขากลับหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างมีความสุขเท่านั้น…
“หือ ? นั่นสินะ…ก่อนหน้านี้ที่ตลาดคนมันเยอะไปหน่อยเธอก็เลยอายใช่ไหมล่ะ ? แต่ที่นี่มีแค่เราสองคนแล้วนะ…ดังนั้น…”
พาเธลอสเชยคางของเอฟิเซียขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อให้ดวงตาของเธอมองเข้ามาประสานเข้ากับดวงตาของเขาโดยตรง ซึ่งนั่นมันก็ทำให้เธอถึงกับนิ่งค้างไปเลยทีเดียว
“ฉันรักเธอนะเอฟิเซีย…ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดีและไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันก็จะเป็นคนปกป้องเธอเอง…ดังนั้นเธอช่วยมาเป็นภรรยาของฉันได้ไหม ? เอฟิเซียสุดที่รักของฉัน…”
“อะ-เอ๊ะ !? อะ-เอ่อ…คือว่า…เอ๊ะ !?”
คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับลนลานแบบสุดๆ เพราะทำอะไรไม่ถูก
เธอแสดงอาการลนลานออกมาอยู่พักหนึ่ง…ก่อนที่เธอจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบจิตสงบใจของตัวเองลง แล้วก็ตัดสินใจพยักหน้าลงให้กับเขาเบาๆ
“ขะ—เข้าใจแล้วค่ะ…สัญญาต้องเป็นสัญญา…ฉันจะแต่งงานกับท่านค่ะ”
“ถ้างั้นก็เป็นอันตกลงนะ—”
พาเธลอสเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ พร้อมกับโน้มใบหน้าของเขาเข้าไปหาเอฟิเซียช้าๆ เพื่อที่จะจูบเธอ…
แต่ทว่า…ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสกับริมฝีปากของเธอนั่นเอง เอฟิเซียกลับรีบยกมือขึ้นมาป้องปากของเขาซะอย่างนั้น…
“หยุดก่อนค่ะ ! มันยังเร็วเกินไปค่ะ ! ฉันยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะคะ !”
“โอ๊ะ ? นี่เธอพูดอะไรเป็นสาวน้อยแบบนั้นได้ด้วยเหรอเนี่ย ?”
พาเธลอสถามขึ้นมาด้วยสีหน้าอึ้งๆ เล็กน้อย ส่วนเอฟิเซียก็จ้องกลับไปที่เขาด้วยสายตาคาดโทษพร้อมกับพยายามผลักร่างของเขาออกไปอย่างสุดแรง แต่ด้วยเรี่ยวแรงอันแสนน้อยนิดของเธอในตอนนี้มันก็ไม่ได้ทำให้ร่างของเขาขยับไปเลยแม้แต่นิดเดียว…
“พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไงกันค่ะ…นี่ท่านตั้งใจจะแกล้งฉันใช่ไหมคะ ! แล้วมือของท่านกำลังจับตรงไหนอยู่กันคะเนี่ย ! ท่านรีบเอามือออกไปจากเอวของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะคะ !”
เอฟิเซียพูดขึ้นมาอย่างลนลาน ซึ่งนั่นก็ทำให้พาเธลอสหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเผยรอยยิ้มขี้แกล้งขึ้นมาจนทำให้อัศวินสาวถึงกับต้องเสียวสันหลังวาบอย่างกะทันหัน
“หึๆๆๆ ก่อนหน้านี้เธอก็ชอบมาแกล้งฉันไม่ใช่เหรอไง ? พอกลายเป็นฝ่ายโดนแกล้งเองกลับลนลานจนทำอะไรไม่ถูกเสียเองแบบนี้เนี่ยนะ ?”
พาเธลอสยิ้มด้วยรอยยิ้มขี้แกล้งในขณะที่พูดแซวเอฟิเซียไปด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอทำแก้มป่องขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“ถึงแม้ว่าฉันจะสัญญาว่าจะแต่งงานกับท่าน…แต่ฉันไม่ได้สัญญาว่าจะไม่หย่านะคะ”
“…”
เอฟิเซียพูดพร้อมกับทำแก้มป่องแล้วก็เบือนหน้าหนีเขาด้วยอาการแง่งอน ซึ่งคำพูดของเธอมันก็ได้ทำให้คิ้วเขาถึงกับกระตุกเลยทีเดียว
…ยัยนี่…คิดจะเล่นไม้นี้อย่างงั้นเหรอ ?
ถ้าอย่างนั้นล่ะก็…ฉันเองก็มีวิธีของฉันเหมือนกันนะยัยบ้า
“ถ้าอย่างนั้น…ฉันก็แค่ทำให้เธอไม่คิดจะหย่าก็พอสินะ ?”
“อาเร๊ะ ?”
อยู่ๆ เขาก็พูดสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเธอออกมา นั่นทำให้เธอเอียงคอสงสัยด้วยความไม่เข้าใจในทันที
เมื่อได้เห็นเอฟิเซียทำสีหน้างงงวยแบบนั้นแล้ว พาเธลอสก็หัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับจุมพิตลงบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างๆ หูของเอฟิเซียด้วยน้ำเสียงอันแสนแผ่วเบา…
‘เรามาเล่นเกมกันสักหน่อยดีกว่า…ตอนนี้ฉันจะยอมเรื่องแต่งงานไปก่อนก็ได้…แต่ถ้าหากว่าฉันสามารถทำให้เธอหลงรักฉันหัวปักหัวปำจนไม่คิดที่จะหย่ากับฉันได้เมื่อไหร่ก็ถือว่าฉันชนะ แล้วคราวนี้เธอก็จะต้องแต่งงานกับฉันจริงๆ…เอาแบบนี้เป็นไง ?’
คำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเขาทำให้เอฟิเซียถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
นี่เขาวางแผนอะไรอยู่กันแน่นะ…
“หือ ? ท่านคิดว่าเด็กน้อยอย่างท่านจะสามารถเอาชนะใจฉันได้เหรอคะ ?”
“หึๆๆๆๆ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลงนะ…แล้วเมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะเป็นคนสวมแหวนให้กับเธอเอง…”
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มที่อัศวินสาวอ่านไม่ออกออกมา…ก่อนที่เขาจะจูบเธอโดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัวซึ่งนั่นก็ทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาอย่างฉับพลันได้อย่างง่ายดาย
หลังจากที่จูบเธอจนพอใจแล้ว พาเธลอสก็ผละร่างของเขาออกมาจากใบหน้าอันแดงก่ำเนื่องจากความเขินอายสุดขีดของเอฟิเซียพร้อมกับหลบการโจมตีที่มาจากฝ่ามืออันเรียวบางของเธอไปด้วย
“ทะ—ทำอะไรของท่านกันคะ !”
“ก็รางวัลของฉันในวันนี้ยังไงล่ะ—โอ๊ะ ! เกือบไปๆ !”
พาเธลอสยิ้มชอบใจพร้อมกับหลบการโจมตีจากเอฟิเซียที่เขินอายสุดๆ ไปด้วยอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เขาจะเข้าไปกอดเธอเอาไว้จากทางด้านหลังแล้วก็จุมพิตลงบนหลังคอของเธอเบาๆ ในขณะที่คอยเป่าลมใส่หูของเธอไปด้วยจนร่างกายของเธอถึงกับอ่อนระทวยลง…
“อยากให้ฉันทำต่อไหมล่ะ ?”
เขาถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัย ซึ่งนั่นก็ทำให้ใบหน้าที่แดงก่ำของเธอมันยิ่งแดงขึ้นไปอีกราวกับว่าเป็นภูเขาไฟที่พร้อมจะประทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
“ท่านพาเธลอส !!!!”
เอฟิเซียตะโกนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย…ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเธอก็ได้แต่ยอมแพ้ไปในที่สุด…
สุดท้ายแล้วเธอก็ได้แต่นั่งเงียบในสภาพที่ใบหน้าแดงก่ำสุดๆ จนกระทั่งกลับถึงวังโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลยแม้แต่คำเดียวเท่านั้น
———————————————————-
หวานเลี่ยนนนนนนนนนนน
MANGA DISCUSSION